ผมเขียนเว็ปไซด์นี้ขึ้นมา มิได้หาผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นเพียงทำขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางความรู้ให้เป็นประโยชน์ในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง หรืออีกแง่มุมหนึ่งของความเชื่อความศรัทธาของคนไทยสมัยอดีตจนถึงปัจจุปันถึงประวัติความเป็นไปเป็นมาเพื่อเล่าสืบต่อให้ลูกให้หลานฟังอย่างถูกต้องในอนาคตต่อไปว่า “กุมารทองนั้นมีตัวตนจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่านิทานหรือตำนานครับ….
“สุดยอดกุมารทอง” ของคนไทยที่รู้จักกันมากทั้งใน และต่างประเทศ นั่นคือกุมารทองของหลวงพ่อเต๋ คงทอง กับ หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตโต แห่งวัดสามง่าม จ.นครปฐม
เมื่อ 5 ปีก่อน ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องเครื่องราง โชคลาภ และพวกไสยศาสตร์อาคม เพราะผมเป็นคนหัวสมัยใหม่ ไม่เชื่อเรื่องราวที่งมงายอะไรอย่างนี้แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ จนวันหนึ่งได้ไปบ้านเพื่อน เห็นดินปั้นคล้ายเด็กเหมือนกุมารทองอะไรอย่างงั้น แต่รูปลักษณะแปลกๆ ไม่เหมือนกับที่อื่นเลยตามสถานที่ทั่วไป ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เพื่อนผมคุยอะไรไม่รู้กับกุมาร พึมพัม พูดเองเออเอง เห็นแล้วก็รู้สึกตลกจัง แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะมันเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล พอเริ่มดึกขึ้น จะได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆ แต่ก็เฉยๆแล้วก็ขอกลับบ้าน เพราะเริ่มง่วงนอน
มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนอีกคนได้เปลี่ยนแนวคิดของผม โดยชักชวนไปทำบุญเราก็คิดว่าเราเองก็ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ ก็เผื่อว่าจะดีขึ้นในเรื่องของการเงิน การค้า และธุรกิจ ก็ไปหลายวัด พบกับหลวงพ่อหลายท่าน ทำบุญมาตลอด จนกระทั่งเพื่อนผมคนที่เลี้ยงบูชากุมารได้ชวนไปวัดๆหนึ่ง เราก็ไม่อยากไปแต่ก็บอกว่าไปเป็นเพื่อนก็แล้วกัน พอไปถึงวัดแถวนครปฐม ชื่อว่าวัดสามง่าม เข้าไปถึงเห็นคนเยอะแยะมากมาย ทั้งคนไทย ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย จีน ฯลฯ ตะโกนพูดคุยกันวุ่นวายมาก บ้างก็มากับรถตู้ มากันเป็นรถบัส รถทัวร์บ้าง รถส่วนตัวยี่ห้อดังๆก็มี ก็เลยสงสัยว่าเขามาทำอะไรกันเห็นเดินออกมาจากกุฏิแล้วก็หอบลังกระดาษออกมากันทุกคน จึงถามกับไกด์ทัวร์ว่านั่นคืออะไร เขาตอบว่าลังใส่ “กุมารทอง” ชาวฮ่องกง สิงคโปร์บอกกับทางไกด์ให้พามาที่วัดนี้ เพราะกุมารทองที่วัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ บูชาแล้วเห็นผล บางคนก็เช่าบูชากัน10 องค์ 20 องค์ บางคนก็ 3 – 4 องค์บ้าง เลยทำให้ผมคิดว่าจะลองเชื่อดีมั๊ย แต่เพื่อนที่พาไปก็บอกว่า “ไม่ลองไม่รู้” อีกใจก็กลัว อีกใจก็อยากลองดู จากนั้นก็ได้เข้าไปในกุฏิกราบหลวงปู่แย้ม เห็นท่านครั้งแรกก็รู้เลยว่าท่านมีบารมีสูง เป็นพระสงฆ์ท่านก็เป็นนักพัฒนาชุมชน เช่นสร้างโรงเรียน อนามัยหมู่บ้าน โรงพยาบาล
ในวันนั้นผมเองก็ยังไม่ได้เช่ากุมารทองตามที่เพื่อนแนะนำ เพราะว่ายังไม่ได้ขออนุญาต หรือว่าปรึกษาพูดคุยกับทางครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่แล้วเวลาผ่านไปไม่นาน ผมก็ได้หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต สอบถามพระเถระอื่นๆหลายท่าน และจากผู้ที่เลี้ยงกุมารทองอยู่แล้ว หลังจากผมกลับมาจากวัดวันนั้น ผมได้ค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆมากมายเกี่ยวกับกุมารทองหลายวัดและหลายฆราวาสที่สร้างกุมารทองมากมายจนและค้นค้าหาข้อมูลมาถึงกุมารทองหลวงพ่อเต๋ และหลวงปู่แย้มพระเกจิแห่งนครปฐมที่มีการปลุกเสกกุมารทองได้เข้มขลังที่สุดและผมยังศึกษาจากข้อมูลหลายที่ หรือจากประสบการณ์จริงคำบอกเล่าจากผู้ที่มีความน่าเชื่อถือก็พบว่ากุมารทองที่มีอยู่มากมายในสังคมไทยของเราในขณะนี้ บ้างก็จริงบ้างก็ไม่จริงบ้างก็แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลนั้น ๆ แต่ผมได้รับข้อมูลมากมายต่างพูดเป็นถ้อยคำเดียวกันจากปากคนเฒ่าคนเก่าแก่ เป็นเจ้าพระยา เป็นเจ้าขุนเก่าบ้าง แม้แต่ระดับนายพลเจ้าสัวในตลาดเช่าพระเครื่องมากมายก็ยอมรับว่ากุมารทองหลวงพ่อเต๋ คงทองและหลวงปู่แย้ม อาจารย์และศิษย์ แห่งวัดสามง่ามว่ากุมารทองวัดนี้ มีความเข้มขลังถึงความเฮี้ยนและยังได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ตลอดมาของเครื่องรางของคลังแห่งแผ่นดินสยาม แต่น่าเสียดายที่กุมารทองสมัยหลวงพ่อเต๋จนมาถึงหลวงปู่แย้มหลายรุ่นที่มีความขลังสุดๆกลับตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติต่างประเทศมากมาย จนปัจจุบันนี้หายากมากสุดๆขนาดเปรียบได้ว่า พระสมเด็จยังหาง่ายกว่ากุมารทองหลวงพ่อเต๋ รุ่น 1 เสียอีกเพราะสมัยหลวงพ่อเต๋สร้างเพียงไม่มากเพราะต้องปลุกเสกองค์ต่อองค์ครบหนึ่งพรรษาจนกุมารสามารถขยับตัวได้ลุกขึ้นได้ และสามารถใช้ทำงานค้าขายได้จึงจะปล่อยออกมาให้บูชาได้ถ้าองค์ไหนเฮี้ยนมากเกินควบคุมก็จะมัดสายสิญจน์สะกดวิญญาณด้วยคาถาและฝังดินส่งให้ไปเกิดในภพเดิมองค์ไหนทำตัวดีก็จะแผ่ส่วนกุศลผลบุญไปให้เพื่อกุมารจะได้สร้างบารมีไว้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี
ปัจจุบันกุมารทองหลวงพ่อเต๋จึงมีราคาที่สูงริบเกินที่คนธรรมดาจะเอื้อมถึงจึงเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศที่เสาะแสวงหามาบูชากัน จนมีของลอกเลียนแบบหรืออ้างอิงถึงให้หลงเชื่อมากมายเค้าเรียกว่า “ตาดีได้ตาร้ายเสีย” เพราะกุมารทองรุ่นแรก ๆ มีไม่มาก พอผมหาข้อมูลมากพอแล้วก็ตัดสินใจในการเริ่มเช่าบูชาพอเริ่มแรกก็ยังไม่รู้สึกเท่าไหร่พอเราได้พูดเองเออเองสิ่งต่าง ๆ เริ่มไปในทิศทางที่ดีขึ้นเหมือนฟลุ๊กอะไรอย่างนั้นนะครับ ก็เริ่มบนน้องกุมารถ้ากิจการดีขึ้นจะหาเพื่อนกุมารมาเป็นเพื่อนหลังจากนั้นกุมารก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้มีกุมารทองจากวัดสามง่ามกว่า 200 องค์แล้วและไม่รู้จะเพิ่มอีกหรือเปล่าก็ต้องดูกันไป แต่ก็มีหลาย ๆ คนหาว่างมงายบ้างเลี้ยงผีเลี้ยงวิญญาณบ้างแต่เค้าไม่ได้รู้ที่ไปที่มาหรือศึกษาข้อมูลเลย แต่เราก็ถือว่าเราได้ทำบุญกับหลวงปู่แย้ม เพราะหลวงปู่แย้มนำเงินจากการเช่าบูชาไปสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล อนามัย พัฒนาชุมชน เพื่อคนจนจริง ๆครับ จากวันนั้นถึงวันนี้ ความศรัทธาและความเชื่อทำให้ผมได้เก็บและบูชาสิ่งที่ดีในชีวิตกับการทำให้ชีวิตดำเนินธุรกิจราบรื่นขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมีคนในวงการบันเทิงมากมายไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง นักแสดง นักธุรกิจ ที่มีชื่อเสียงมากมายที่เอ่ยนามมิได้แสวงหาเช่าเก็บไว้บูชากันอย่างเงียบๆในขณะที่ทางวัดสามง่าม โดยหลวงปู่แย้มไม่มีนโยบายโปรโมท เพียงท่านกล่าวไว้ว่า“ทองก็ย่อมเป็นทอง” ไม่สามารถจะเปลี่ยนเป็นธาตุโลหะอื่นได้เพราะไม่ใช่แนวทางในการสร้างกุมารเพื่อการเก็งกำไรหรือการค้าจากกุมารทองเลย เพราะแต่ละองค์หลวงปู่แย้มได้ปลุกเสกเรียกดวงวิญญาณองค์ต่อองค์นั้นเหนื่อยมากเนื่องจากอายุหลวงปู่ชราภาพมากแล้วปีนี้มีอายุ 95 ปี กว่าจะปลุกกุมารเสร็จแต่ละองค์ก็ต้องปลุกเสก ครบ 1 พรรษาจึงจะปล่อยเช่าบูชาได้