เผยเคล็ดลับเกี่ยวกับการพิสูจน์ผีและกุมารทองครับ
ตัวผมนั้นเลี้ยงกุมารทองมาเป็นเวลานานแล้ว ศึกษาศาสตร์มามากมาย (ของไทยเรา) แต่ก็ไม่ศาสตร์ไหนที่จะพิสูจน์ได้ว่า ผีมีจริง หรือจะพิสูจน์อย่างไรว่า ผีมีอยู่จริง
ที่พูดอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า วิชาอาคมหรือความเชื่อของไทยเราไม่ดีนะครับ บางทีผมอาจจะยังไม่เจอของจริงก็เป็นได้ (ไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่าม ก็ไม่เคยพิสูจน์ได้สักที) จนกระทั่ง
ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสพบกับเพื่อนชนเผ่าแม้วที่เขามาเรียนด้วยกันที่ม.เชียงใหม่ เขามาที่ห้องผมและเห็นผมตั้งหิ้งบูชากุมารทองมากมาย เขาก็หัวเราะแกมอมยิ้มตลกประมาณนั้น
ตอนนั้นผมยังไม่เอะใจ ก็คิดไปว่า เขาคงคิดลบหลู่กุมารของเรา ผมจึงพูดไปแกมเคืองว่า "ระวังกุมารผมจะเล่นงานคุณนะ" เขาก็หัวเราะแล้วสวนกลับมาว่า "คุณคิดหรือว่าไอ้ที่คุณ
บูชาอยู่นี่มีจริงหรือ เคยเห็นและเรียกมาให้ดูได้หรือเปล่า" ผมนี้อึ้งครับ ตอบไม่ได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ เหมือนเขาจะรู้และพูดต่อเชิงลบหลู่ว่า "ผมจะลบหลู่นะ คืนนี้สั่ง
พวกมันให้ไปเล่นงานผมหน่อย จะรอดู" ไอ้ผมก็เคืองจัด ไม่ตอบ พอตกดึกก็อธิษฐานขอกุมารไปสั่งสอนเขาหน่อย ผลปรากฏ ไร้บอย เวลาผ่านไปเป็นวัน เป็นเดือน เพื่อนคนนั้นก็
ปกติดีทุกอย่าง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา จนผมทนไม่ไหว จึงถามไปตรงๆ ว่า "เฮ้ยเองเจอกุมารกูบ้างไหมวะ" เขาก็หัวเราะตอบกลับมาว่า "เฮ้ย เอ็งยังไม่เลิกงมงายอีกเหรอ กุมาร
อะไรกัน ตุ๊กตาของเล่นทั้งนั้น" ผมเคือง ก็เลยสวนกลับว่า "เอ็งลบหลู่เช่นนี้ แสดงว่า มีดีใช่ไหม" เขาตอบ "แน่นอน ถ้าไม่มีดี คงไม่กล้าลบหลู่เอ็งหรอก" ข้าจะบอกให้ "ปู่ของข้า
เป็นหมอผีแม้ว มีอาคมและฤทธิ์เดชพิศดารมากมาย หากเอ็งอยากรู้ว่า ผีมีจริงหรือไม่ สักวันข้าจะพาไปหาปู่ข้า"
และแล้ววันนั้นก็มาถึง ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนี้และได้พบปู่ของเขาที่เป็นหมอผีจริงๆ ผมเอาตุ๊กตากุมารทองไปด้วย ไปให้เขาพิสูจน์ว่า กุมารมีจริงไหม ผมยื่นให้
หมอผีก็ส่ายหน้า บอกว่า อะไรกัน เอาซากศพมาปั้นเป็นรูปเด็ก แล้วหลอกคนให้บูชา เอ็งบูชาซากศพเหรอ ผมนี้อึ้งไปเลย คิดในใจว่า เขารู้ได้ไงว่า กุมารนี้ผสมผงพรายล้วนๆ ผม
จึงถามหมอผีว่า แล้วมีวิญญาณไหมครับ เขาก็บอก ไม่มีหรอก เป็นเพียงซากศพที่เอ็งนำมาเก็บไว้ แถมยังไหว้อีก รู้ไหมหน้าเอ็งหมองคล้ำ จิตใจว้าวุ่นและงมงาย เพราะเอ็งบูชา
ซากศพที่มีแต่เสนียดจัญไร.
ผมจึงถามหมอผีว่า สิ่งนี้คนไทยเราเรียกว่า กุมารทอง เลี้ยงไว้เพื่อช่วยงานต่างๆ หมอผีก็บอกว่า เหรอ งั้นข้าจะแสดงอะไรให้ดูว่า ผีที่เลี้ยงไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ มันเป็นยังไง
ว่าแล้วเขาก็ให้เพื่อนผมไปเก็บดินเหนียวมา จากนั้นหมอผีก็ทำการปั้นเป็นรูปคน เสร็จแล้วร่ายมนต์เป่าไปที่หุ่นนั้น จากนั้นโยนหุ่นเข้ากองไฟที่อยู่ข้างๆ ผลปรากฏหุ่นนั้นกระโดดออก
มาจากกองไฟแล้วลุกขึ้นยืนทันที ผมนี้อึ้งกับสิ่งที่เห็นเหมือนถูกสะกดไว้ยังไงยังงั้น หมอผีบอกนี่แหล่ะผีที่ข้าเลี้ยงไว้ มันกลัวไฟ โยนเข้ากองไฟ เห็นไหนมันกลัว กระโดดออกมา ของ
เอ็งทำได้ไหมล่ะ..
และจุดนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาพระเวทย์วิทยาคมของหมอผีคนนี้ บางอย่างผมก็ทำได้ บางอย่างก็ทำไม่ได้
คนดีมีวิชาย่อมไม่อวดตน ผู้ที่อวดอ้างว่าเห็นผี ดูจิตกุมารได้ จงอย่าเชื่อเพราะลมปากเขา แต่ต้องเชื่อด้วยพิสูจน์ ผมไม่เคยเชื่อใครใดๆ จนกว่าผมจะพิสูจน์ด้วยตนเองเท่านั้น
สำหรับเคล็ดที่เผยครั้งนี้ เป็นเพียงส่วนเบื้องต้น ขั้นเล็กที่สุดเท่านั้น ขั้นสูงเอาไว้พิสูจน์ผีที่มีฤทธิ์เยอะที่พร้อมาจะปริดชีพศัตรูเราได้ เคล็ดเบื้องต้น มีดังนี้
อาจารย์หมอผีแม้ว ท่านกล่าวเอาไว้ว่า "ในเมืองผี ผีไม่เห็นคน บนโลกคน คนไม่เห็นผี" การที่จะทำให้ในเมืองผี ผีเห็นคน บนโลกคน คนเห็นผี ต้องผ่านพิธีกรรมโบราณบางอย่าง
แต่ในที่นี้ผมจะไม่ขอเผย แต่จะขอเผยเคล็ดเบื้องต้นที่อาจารย์ท่านสอนไว้ ดังนี้
" การจะพิสูจน์ผีนั้นว่า มีจริงหรือไม่ ให้กระทำการง่ายๆ ดังนี้ พึงหาสิ่งใดๆ ที่เป็นการฝืนธรรมชาติมาทำการพิสุจน์ เพราะผีเป็นสิ่งอยู่เหนือธรรมชาติ การพิสูจน์ขั้นง่ายได้แก่
1. นำเหรียญบาทมาตั้งบนไข่
2. นำไข่มาตั้งบนไข่
3. นำเข็มมาตั้งบนไข่
4. นำตะเกียบปลายแหลมมาตั้งบนไข่
สำหรับการพิสูจน์ขั้นยากนั้น ให้นำไข่มา 1 ใบ วางไว้บนพื้น แล้วเรียกผีมาจับไข่ หากมาแล้ว ไข่นั้นจะลุกขึ้นตั้งเองและดิ้นเองได้ (อันนี้เคยเห็นมากับตา แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะ
บารมียังไม่ถึง)
สำหรับวันนี้ผมจะนำเสนอ นำเหรียญมาตั้งบนไข่ เมื่อผมจุดธูป 1 ดอกบอกกล่าวและเรียกกุมารมาแล้ว ผมวางเหรียญไปบนไข่ เหรียญนั้นจะจับบนไข่ทันที (แค่เสี้ยววินาที วางบุ๊ป จับปั๊บ)
นั่นแสดงว่า เขามาแล้ว ผมก็จะทำการถวายขนมและน้้ำ สักพักเหรียญนั้นจะหล่นไปเอง หากท่่านคิดจะทำเช่นผม พึงบอกก่อนว่า หากวางแล้วเหรียญไม่ติด จนต้องพยายามใช้สมาธิวางอยู่นานแล้วติด
ให้เชื่อว่า ไม่ใช่แน่นอน เพราะผีกุมารนั้นหากมีจริง เราวางปุ๊บ เขาจะจับปั๊ป (กุมารผมนั้นจะเป็นเช่นนี้ วางปุ๊บ จับปั๊บ) จะให้แน่นอน ให้เปิดพัดลมให้พัดไปมาในห้องด้วย เพื่อให้ลมไม่นิ่ง เพื่อเป็นการ
พิสูจน์ขั้นสูงขึ้นมาหน่อยหนึ่ง (ลมนั้นต้องเป่ามาถึงเหรียญด้วย แรงลมต้องอยู่ในระดับบางๆ ที่พอจะเป็นการผลักเหรียญได้ เพื่อให้ผียึดได้นิดหนึ่งก่อนจะปล่อย..
เคล็ดก็มีเท่านี้ สำหรับคาถาเรียกผีนั้น ผมไม่บอกนะครับ (คาถาเรียนมามีครู ไม่อาจเปิดเผยเรื่อยเปื่อยได้ เพราะจะทำให้คาถานั้นเสื่อมไป) เคล็ดผมนั้นหากนำไปใช้แล้ว ขอบอกว่า แค่ครั้งเดียวก็พอ
อย่าทำพร่ำเพรื่อ เพราะอาจารย์แม้วบอกว่า "ผู้ใดไม่มีคาถาอาคมแล้วพึงเล่นกับภูติผี บารมีผู้นั้นจะเสื่อมไป ใบหน้าหมองคล้ำ จิตใจงมงายและว้าวุ่น และที่สำคัญไม่มีบุญเหลือ อายุนั้นจะสั้นตาม" ...สวัสดี
รูปนะครับ
http://image.ohozaa.com/show.php?id=ab352cdbc1a43f932a2245dd0d0dd3b9
jo_554@windowslive.com