ความเห็นผมให้ทางวัดเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดจะดีที่สุดไม่ต้องมีนายทุนมาร่วมสังฆกรรม ถ้ามีนายทุนมาร่วม อย่างดีวัดก็คงได้ไม่มากกว่า 40%
ส่วนเรื่องมวลสารก็ให้ศิษย์ที่มีจิตศรัทธาช่วยกันจัดหาโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆตอบแทนทั้งสิ้น ทำด้วยใจล้วนๆ ได้ผลบุญเป็นสิ่งตอบแทน ส่วนเรื่องการเงินก็ให้ผู้มีต่ำแหน่งใหญ่โตในพื้นที่ร่วมเป็นพยาน-กรรมการวัด มีการทำระบบบัญชีที่ถูกต้อง ตรวจสอบที่มาที่ไปได้ มีการออกใบอนุโมธนาบัตรที่มีต้นขั้วและเลขที่กำกับอย่างชัดเจนทุกครั้งที่ได้รับค่าบูชา-บริจาคเงิน
การประชาสัมพันธ์ก็ใช้วิธีปากต่อปาก-เข้าไปตั้งกระทู้ตามเว๊ปบอร์ดที่เกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคล-ไสยศาสตร์ ซึ่งก็คิดว่าแต่ละท่านก็คงใช้งานเป็นสมาชิกอยู่หลายบอร์ด ถ้าลงบอร์ดโดยไม่มีธุรกิจแอบแฝง ทุกอย่างเพื่อวัดอย่างเดียว ผมว่าทุกบอร์ดก็คงไม่รังเกียจที่จะให้ลงในกระดานบอร์ดของเขาได้
การสร้างก็ควรจะให้มีจุดเป็นจุดตาย โดยอาศัยความน่ารักน่าชังของร่างกุมารเป็นจุดประชาสัมพันธ์ มิใช่สร้างแบบหน้าตาน่ากลัวจนคนทั่วไปมิกล้าจับต้อง และการกำหนดจิตกุมารก็ควรเป็นกุมารพรายเทพ ที่ให้แต่คุณผู้เลี้ยง และควรมีจำนวนการสร้างที่แน่นอน ใครๆก็ชอบรุ่นที่มีจำนวนจำกัด ดูอย่างวัตถุมงคลบางชนิดถึงแม้จะราคาถูก อนาคตดี แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจกันเพราะสร้างเย๊อะเกิน เผลอๆเดินเซเว่นอาจจะมีก็ได้ ของจะดีสมัยนี้ต้องมีปริมาณที่พอเหมาะครับท่าน
จะเห็นตัวอย่างได้จากแม่พิมวัดท้องไทร , หรือหลวงปู่ช้าง ที่สร้างหุ่นพยนต์อันโด่งดังที่ตอนนี้ดำเนินการเองโดยไม่อาศัยกลุ่มนายทุน ซื่งเมื่อก่อนวัดท้องไทร-หลวงปู่ช้างก็ให้เคยให้ศูนย์พระเป็นนายทุนจัดสร้าง สรุปแล้ว วัดได้ไม่ถึง 30% จากของที่มาขออนุญาตสร้าง แล้วที่สร้างเสริมโดยไม่ผ่านหลวงปู่อีกเท่าไร จนในที่สุดถึงกับประกาศเลยว่าถ้าเป็นของนอกวัดที่ไม่ใช่จากกูฏิหลวงปู่ให้ของนั้นถือว่าปลอมทั้งนั้น เพราะหลวงปู่ไม่รู้ไม่เห็นด้วย อยากได้มาที่วัดอย่างเดียวเท่านั้น จนถึงวันนี้ก็ยังมีของที่ไม่ได้ผ่านท่านออกมาเต็มศูนย์พระเหมือนเดิม
หลวงปู่ช้างท่านดังมาหลายปี แต่สำนักสงฆ์ที่ท่านจำวัดอยู่เพิ่งจะมีไฟฟ้าใช้เมื่อปีที่แล้วเอง มันน่าแปลกใจไหมล่ะครับท่าน
ส่วนวัดสามง่ามรู้ๆกันคงไม่ต้องพูดถึงมังครับ