http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,935,123
Page Views33,371,570
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      

 


จุดประสงค์การสร้างกุมาร จจ1และวิธีบูชาต่างๆแบบง่ายๆครับ.....

(อ่าน 1355/ ตอบ 2)

JackJill

จุดประสงค์::::ผมได้นำมวลสารแท้ๆ ของกุมารทองหลวงพ่อเต๋ คงทอง รุ่นแรก ที่หายากยิ่ง ที่สะสมไว้มาบรรจุไว้ในตัวกุมารทองรุ่น จ.จ ๑ นี้ สำหรับผู้ที่มีความศรัทธากุมารทองหลวงพ่อเต๋ อยากมีไว้ครอบครองอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ มวลสารในการสร้างกุมารทองหลักๆ ไม่มีผู้ใดแสวงหาตามตำราอย่างครบถ้วนได้จริง การที่จะไปเอามวลสารที่สำคัญๆ ในที่นั้นๆ ในสมัยโบราณ จะต้องมีการขอขมาเซ่นไหว้เจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าป่าช้า ฯลฯ ก่อนที่จะทำพิธีขุดนำออกไป เพราะสถานที่เหล่านี้  มีความอาถรรพ์ในตัว (ยกตัวอย่าง เช่น ดินโป่ง ดินแร่ธาตุรสเค็ม เกิดขึ้นเอาตามธรรมชาติสัตว์น้อยใหญ่ จะต้องมากินดินโป่งนี้ บรรดาพรานป่าทราบดีว่าอาถรรพ์ดินโป่งนี้แรงมากขนาดไหน หากมีอาคมไม่แก่กล้าพอ ไปยุ่งวุ่นวายก็จะถูกอาถรรพ์ผีเฝ้าดินโป่งเล่นงานเสียชีวิต หรือเสียสติไปเลยก็มี อย่างไรก็ตามดินโป่งในปัจจุบันนี้หายากมาก เพราะอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ ใครไปขุดจะมีโทษทางกฏหมาย)


พิธีกรรมในอดีตล้วนแล้วต้องทำอย่างละเอียดอ่อน พีถีพิถันและเข้มขลังมาก คาถาอาคม ปลุกเสก จนใช้ได้จริง


( เล่าลือกันว่า คนปั้นกุมารรุ่นแรกของหลวงพ่อเต๋ปั้นจนโดนอาถรรพ์เสียสติไปเลย )


กุมารยุคแรกของหลวงพ่อเต๋ตามคำบอกเล่า ท่านปลุกเสกกุมารในมุ้งก่อนท่านนอนจำวัด ปลุกเสกจนกุมารตั้งขึ้นเองเป็นอันเสร็จพิธีแล้วนำไปให้บูชาต่อไป 


สมัยนี้ระบบทุนนิยม เร็ว-รีบ-รับ  สร้างไม่พอเช่าบูชา แล้วเกิดคำถามยอดฮิตว่ากุมารของตนทำไมเงียบจัง มีจิตมีตัวหรือเปล่า ? 


ผมเห็นว่า ในปัจจุบันนี้ ผู้เลี้ยงกุมารทอง เข้าใจความหมายการเลี้ยงกุมารทองที่ผิดเพี้ยนไป รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย จึงมีความคิดที่จัดสร้างกุมารทองชุดนี้ขึ้นมาครับ เพื่อสร้างตำนาน ความเชื่อ ความเป็นมาของกุมารทองหลวงพ่อเต๋ 


เรื่องสถานที่ วัน เวลา ในการประกอบพิธีฉลองกุมารทอง ผู้จัดสร้าง ขอสงวนสิทธิ์ เป็นการภายในเนื่องจาก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนในขณะทำพิธีกรรมตามตำราโบราณแบบดั้งเดิม เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมเอง ผู้ไปร่วมพิธีมีความหลากหลายอารมณ์ หลากหลายความคิด จนเกิดความวุ่นวายผมจึงมีความตั้งใจ ทำพิธีนี้เป็นการภายในครับ 


คณะผู้จัดสร้าง มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้กุมารทองรุ่น จ.จ๑ นี้ออกมาดีที่สุด ชัดเจนที่สุด และอยากให้ทุกคนได้รับกุมารทอง ได้รับกุมารไปด้วยความสบายใจที่สุด


*** หากเกิดความผิดพลาด ประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ***


ที่มาของคำว่าฉลองกุมารทอง คือกุมารทองหลวงพ่อเต๋ไม่มีใครสามารถปลุกเสกได้ ซึ่งมีมวลสารวิเศษ มหัศจรรย์ มีความอาถรรพ์สูง หายาก ทำยาก ของหลวงพ่อเต๋ ผมจึงนำมาเป็นเชื้อนำพลังมวลสารนี้ เพื่อนำจิตกุมารที่อยากอยู่มาสถิตในตัวกุมาร ก็จะเป็นกุมารทองคะนองฤทธิ์ ช่วยให้ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน ค้าขาย คุ้มภัย พรายกระซิบฯลฯ


.                  ............มาเข้าใจคำว่ากุมารทองกันก่อน...


กุมารทองคืออะไร? กุมารทองเป็นเครื่องรางสายพรายชนิดหนึ่งหรือผีประเภทที่มีฤทธิ์มีเดช เป็นกุมารทองที่มีชื่อเสียงคนทั่วเอเซียรู้จักมากที่สุดคือ กุมารทองหลวงพ่อเต๋ คงทอง เล่ากันว่าเก่งที่สุด เฮี้ยนที่สุด ปลุกเสกกุมารนอนจนมีจิตมีดวงวิญญาณลุกตั้งขึ้นมาเองด้วยอาคม จึงจะสำเร็จวิธี และขนามว่ากุมารทองคะนองฤทธิ์ ใช้ได้ผลดีที่สุด สมัยนี้ไม่มีผู้ใดทำได้  ครูบาอาจารย์สมัยในอดีต ท่านสร้างด้วยคาถาอาคมจิตที่แก่กล้ามากๆ สร้างขึ้นมาเพื่อ เฝ้าบ้าน เฝ้าวัวเฝ้าควาย เฝ้าสวนไร่นา เฝ้าโรงสี เฝ้าโรงนา เฝ้าสมบัติ กันไฟ กันโจร กันคุณไสย์มนต์ดำสิ่งไม่ดี อาถรรพ์กุมารทองจะดลจิตดลใจให้คนมาซื้อของ ช่วยด้านค้าขาย การงาน การเงินดีขึ้น คุ้มครองป้อกันภัยคนในบ้าน แคล้วคลาดปลอดภัย พรายกระซิบ สาระพัดประโยชน์  คาถาอาคมที่หลวงพ่อเต๋ท่านปลุกเสกนั้นทำให้กุมารทองแสดงฤทธิ์แสดงเดชได้ จึงเข้า-ออก สถานที่ต่างๆได้ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะสร้างจากดินอาถรรพ์และผู้ทรงศีลมีเมตตาธรรมอาคมชั้นสูงปลุกเสก  กุมารทองจะต่างจากวิญญาณผีเด็กทั่วๆไป ซึ่งถ้าเป็นผีเด็กจะไม่มีฤทธิ์เดชใดๆเลย เช่น เข้า-ออก สถานที่ไหนๆก็ไม่ได้ เจ้าของหรือผู้เลี้ยงผีประเภทนี้จะต้องจุดธูปขอเจ้าที่เจ้าทาง จึงจะเข้า-ออกได้จึงยุ่งยาก  ต่างจากกุมารทองอย่างแน่นอนครับครับ  คนไทยส่วนใหญ่ในอดีตต่างเล่าขานสืบต่อกันมาเก่งกาจและยอมรับกันว่ากุมารทองเป็นสายพรายที่มีฤทธิ์เดชมากที่สุด เห็นผลมากที่สุด(มีทั้งข้อดีและข้อเสีย) จึงเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เป็นกำลังใจได้ดีชนิดหนึ่งในอดีต แต่ในสมัยปัจจุบัน พ่อค้า-แม่ค้า หรือนักธุรกิจชั้นนำบางกลุ่ม ได้นำข้อดีสิ่งเหล่านี้มาบูชาขอให้ช่วยในด้านกำลังใจ เป็นแรงผลักดันในธุรกิจของตน เพื่อให้ก้าวหน้า และนำหน้าคู่แข่ง ธุรกิจหรือสินค้าประเภทเดียวกันครับ 




##บางคนถามว่าทำไมถึงเลี้ยงผี  ไม่ยึดหลักธรรมคำสอน


เพราะในยุคปัจจุบันระบบทุนนิยม ทุกอย่างต้องไว รีบ เร่ง ใครมาก่อนได้ก่อนพลาดไม่ได้ เป็นเรื่องเงินๆทองๆ ได้รับการยอมรับในตัวฐานะความร่ำรวยกัน ขาดจริยธรรม ขาดคุณธรรม ความซื่อสัตย์ ส่วนตัวผมเองจึงนำข้อดีต่างๆของการเลี้ยงกุมารทองกับหลังธรรมะมาปรับใช้ การเข้าใจธรรมะนั้น คนส่วนใหญ่เข้าใจยาก เพราะสภาวะสิ่งแวดล้อม สังคมทุกวันนี้ทำให้มีการแข่งขันกันสูง ทำให้ก่อเกิดกิเลสตันหา อยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น บางครั้งเอาธรรมะมาปฎิบัติจริงนั้นทำยากครับ  ผมจึงเอามาประยุคให้เข้ากับยุคสมัยว่า "การเลี้ยงกุมารทองทำให้ผมกลัวบาป กลัวกรรม กลัวความชั่ว  เพราะถ้าเราทำชั่วคนไม่เห็นแต่ผีเห็น เราจึงไม่กล้าทำ ถ้าทำไม่กลัวบาป  ต่อไปกุมารก็จะไม่มาช่วยครับเพราะรอบตัวำแต่กรรม ทำให้คนที่เลี้ยงกุมารต้องยึดหลักการทำความดี การเข้าวัดทำบุญกุศล ทำควรทำสม่ำเสมอ จิตใจจะได้สะอาดและมีความเมตตาต่อผู้ที่ด้อยกว่าครับ




#ขั้นตอนอันดับแรกได้รับกุมารทองควรทำอย่างไรก่อน


1 ตั้งชื่อก่อนครับ ผู้เลี้ยงควรต้องตั้งชื่อเอง ควรตั้งชื่อที่เป็นมงคล หรือเรียกง่าย จำง่ายเวลาเอ่ย ควรติดชื่อไว้ที่ฐานหรือที่ตั้งไว้ที่กุมารทองด้วยครับจะได้ไม่ลืม


2  ก่อนนำเข้าบ้าน ห้องแถว ตึก คอนโดหรือเคหะสถาน โรงงาน ห้าง ร้าน บริษัทฯลฯ  ควรจุดบอกเจ้าที่และสิ่งศักดิ์ในบ้านก่อนครับ ว่า"ให้กุมารทองเข้า-ออกได้โดยสะดวกไม่ต้องขออนุญาติ"  เพราะตามทำเนียมคนไทยแล้ว การเข้า-ออกที่ไหน ต้องขออนุญาติสิ่งต่างๆก่อน คือไปลามาไหวครับ เป็นประเภณีไทยๆ ซึ่งคนไทยควรต้องบอกกล่าวครับ เพื่อสบายใจทั้ง2ฝ่าย 


บอกกล่าวตามนี้ครับ  "พระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในที่นี้ ทั้งเอ่ยถึงหรือไม่ได้เอ่ยถึง ข้าพเจ้าขอนำกุมารทองชื่อ.........ขออนุญาติ เข้า-ออกสถานที่แห่งนี้ได้โดยสะดวก เพื่อเอามาเฝ้าบ้าน เฝ้าสมบัติ ดลจิตดลใจค้าขาย ป้องกันคุณไสย์ เป็นพรายกระซิบ อยู่ดัวยกันเพื่อคุ้มครองภัย เรื่องร้ายกลับเป็นดี ครอบครัวในบ้านหลังนี้จะมีแต่ความสุข  เกิดโชคลาภต่างๆนำมาในบ้านสถานที่แห่งนี้ สาธุ" เป็นจบพิธีเข้าบ้านครับ 


3  การจุดธูป เถียงกันมานานไม่จบครับ หลายสำนักหลาย-ตำหนักสอนบอกไม่เหมือนกันซักที่ แต่จริงๆแล้วการบูชากุมารทองมีจุดประสงค์เดียวกันครับ  ตามประสบการณ์ผม จะจุดธูปกี่ดอกก็ได้ จะ1ดอก, 5ดอก 9ดอก ถ้าผู้จุดไม่มีจิตสมาธิ ไม่มีความตั้งใจ จุดไปก็ไร้ประโยชน์ไม่มีความหมายครับ แล้วแต่ผู้เลี้ยงเลยครับว่าจะจุดกี่ดอกครับ ขอให้มีจิตที่ดี มีสมาธิที่ดี ผมไม่ยึดติดกับการจุดธูป  แต่จะยึดจิตสมาธิอธิฐาน และความตั้งใจจริงมากกว่าสิ่งใดๆครับ  ไม่มีตำราไหนบอกครับว่าจุดเท่าไหร่แล้วจะดี-ไม่ดี   ผู้เลี้ยงบางท่านไม่จุดธูปเลยก็ได้ เพราะบางสถานที่กลิ่นควันธูปอาจรบกวนคนอื่นๆ บ้านอื่น ถ้าเราตั้งจิตอธิฐานที่ดี ใช้ได้แล้วครับ เอาตามความสะดวกง่ายๆครับ ผู้เลี้ยงบางคนเลือกจะจุดตามวาระโอกาส ก็ได้ครับ




4  ควรหาสถานที่วางกุมารทอง   ควรแยกจากหิ้งพระครับเพราะพระพุทธรูปท่านมีพลังงานที่แรงด้วยพุทธคุณจะมากลบพลังกุมารครับ  และควรหาสถานที่เหมาะสมวางกุมารทอง จะบ้าน คอนโด ร้านค้า โรงงาน ฯลฯ ควรเป็นที่เหมาะสม เช่นไม่ใต้บรรไดบ้านขึ้นลงข้ามหัวไปมา ,ไม่หน้าห้องน้ำ, ไม่วางบนพื้น หรือดูแล้วไม่เหมาะสม กุมารจะหันไปทางทิศไหนก็ได้ เพราะกุมารเป็นพรายครับ ไม่ใช่พระพุทธรูปที่จะต้องหันไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นครับ จากประสบการณ์ของผมที่เหมาะสุด หลังตู้เย็น เพราะดูแลง่ายเรียกกินง่ายเก็บเครื่องเซ่นง่าย , โต๊ะทำงาน เพราะเหมือนกุมารอยู่ใกล้ตัวช่วยค้าขาย ดลใจ พรายกระซิบ ,หลังตู้เสื้อผ้า ,ในห้องนอน ,ห้องครัว วางได้หมดครับ




5  เมื่อได้หิ้งหรือสถานที่วางบูชาแล้ว   ควรรับกุมารด้วยดอกไม้ หรือพวงมาลัย(ไม่จำเป็นถ้าไม่มีพวงมาลัย ดอกไม้อะไรก็ได้ภายในบ้านนำถวายบูชากุมาร) จะหันกุมารออกหน้าร้าน หรือหันเข้าในร้านก็ได้ครับ แล้วแต่สะดวก บางท่านไม่อยากให้ใครทราบว่าเลี้ยงกุมาร ก็หลบๆหลังบ้านหรือหลังร้านก็ได้ครับ ที่ที่เหมาะสมก็พอ


ถวายรับกุมารด้วย ขนม นม เนย น้ำหวาน ตามกำลังทรัพย์พึงมี พอประมาณ  เป็นอันเสร็จพิธีง่ายๆครับ (ถ้าใครกลัวผีก็ควรบอกกล่าวไปด้วยว่าอย่ามาทำอะไรให้กลัวนะไม่ชอบ  เค้าก็จะไม่มาแกล้งแหย่ครับ)




##การเซ่นไหว้   การเซ่นไหว้ควรเซ่นตามกำลังพึงมี จะมากจะน้อยแล้วแต่ผู้เซ่นไหว้ บางคนเซ่นอาทิตย์ล่ะ1วัน(อย่างน้อย) กำหนดไปเลยว่าวันไหน จะเซ่นตอนกลางวันกลางคืนเซ่นไดัหมดเพราะกุมารทองไม่ใช่เทพ เอาตามสะดวกของผู้เลี้ยงเลยครับ 


อาหารที่เซ่นเป็นอะไรก็ได้ครับไม่ควรมีเหล้าเด็จขาด ของเช่นไหว้แล้วถ้าไม่บูดเสียเรานำมากินได้ครับ หรือถ้ากลัวบูดเสียไม่มีคนอยู่เก็บ ก็บอกระยะเวลาเซ่นไหว้ อาจบอกกุมารไว้อีกครึ่งชั่วโมง ผู้เลี้ยงจะมาลาไปกิน(กุมารทองเวลากินเครื่องเซ่นไหว้ ไม่ได้กินแบบมนุษย์เรา พวกนี้กินพลังงานจากของเครื่องเซ่น) เรานำมากินต่อได้เพราะเค้าเป็นสมาชิกในบ้านหลากหลายตำราควรเชื่อแต่พอดีๆครับ  (อิงหนังละครมากไปครับ) การเซ่นไหว้ควรทำสม่ำเสมอร่วมกับทำบุญให้กุมารทอง กุมารจะมีพลังมากขึ้นและมีฤทธิ์เดชเกื้อหนุนผู้เลี้ยงครับ แต่ที่สำคัญเวลาเรากินอะไร ต้องเรียกกุมารกินด้วยจะดีครับง่ายดี  แต่ไม่ต้องทุกมื้อครับวันล่ะครั้งก็พอ แม้จะอยู่ที่บ้านหรืออยู่ข้างนอกบ้าน ยกตัวอย่างเช่น เอ่ยว่า "กุมารลูกรักกินข้าวกินขนมพร้อมกันเลยนะลูก" กุมารทองที่เราเลี้ยงจำเป็นต้องเรียกกินครับ ถ้าไม่สะดวกจัดที่หิ้งจะได้ไม่ลืม  (แต่ข้างนอกบ้านตามร้านอาหารควรดูซ้ายดูขวาก่อนเรียก ใครเห็นเดี๋ยวหาว่าเราบ้า5555)






##ทำความเข้าใจใหม่กันก่อนนะครับ กุมารทองไม่ใช่พระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพ นะครับ กุมารทองคือผีชนิดหนึ่ง หรือ(เรียกให้ไพเราะๆว่า "พราย")ซึ่งมีฤทธิ์มีเดชจากการปลุกเสกมวลสารต่างๆตามตำราครูบาอาจารย์ และเชิญวิญญาณมาสถิตในตัวกุมารทอง เพื่อที่จะให้คุณต่างๆและเกื้อหนุนแด่ผู้เลี้ยง ที่ทำบุญกุศล เซ่นไหว้กุมารเท่านั้นครับ คนนอกหรือผู้ที่ไม่บูชาเลี้ยง เค้าไม่มีสิทธิ์ได้รับการเกื้อหนุนจากกุมารนี้ครับ (ใครทำใครเลี้ยงผู้นั้นได้)


    อันดับแรก เริ่มจากผู้เลี้ยงเมื่อได้รับกุมารทองมาแล้ว  ต้องเริ่มทำบุญกุศลเซ่นไหว้ให้กุมารทองก่อน  จึงจะใช้ตามความประสงค์นั้นๆได้ (อยากให้เค้าช่วยเรา แต่เราต้องเป็นผู้ให้ก่อน) ยกตัวอย่างเช่นทำบุญตักบาตร หรือทำบุญวัดใกล้บ้านผู้เลี้ยง   ทำบุญแบบไหนก็ได้ ผมเองชอบทำบุญตู้บริจาคต่างๆตามวัด ตู้ค่าน้ำค่าไฟวัด ตู้สร้างโบรถ์วิหาร ตู้ชำระหนี้สงฆ์ฯลฯ เอาเป็นว่าตู้ภายในวัด ผู้เลี้ยงจะหยอดตู้ล่ะ1฿-10฿หรือตามกำลังเงินแต่ล่ะท่าน ทำมาก-น้อย บุญได้เท่ากัน เอ่ยดังนี้ครับ  "การทำบุญกุศลในครั้งนี้มอบให้กับเจ้ากรรมนายเวรพ่อแม่ครูบารอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว และกุมารทองที่ข้าพเจ้าเลี้ยงอยู่ชื่อ.........ขอได้รับส่วนบุญนี้ด้วย สาธุ" อันเป็นจบวิธี ง่ายๆ จะยาวกว่านี้ก็ได้ครับแล้วแต่จะเอ่ยบุญนี้ให้ใครบ้างก็ได้ครับ ควรทำสม่ำเสมอเป็นประจำ (ไม่มีอะไรในโลกนี้ได้มาฟรีๆ ทุกอย่างต้องแลกกัน)แค่เอ่ยชื่อเค้าก็ได้รับแล้วครับแม้หุ่นกุมารจะอยู่ที่บ้านก็ตาม ขอแค่หู้เลี้ยงเอ่ยถึงชื่อกุมารทองครับ เข้าใจยากครับโลกแห่งจิตวิญญาณ เอาพอประมาณครับ




##วิธีการเรียกหรือชวนกุมารทองไปเป็นเพื่อนคุ้มครอง คุ้มภัย ควรเรียกบ่อยๆ หรือชวนไปเป็นเพื่อนเป็นประจำ ในสถานที่ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น  "กุมารทองชื่อ....ไปเที่ยวตลาดนัดกันกับพ่อกับแม่นะ ,กุมารทองดลใจให้คนเข้าร้านเยอะๆให้มาซื้อของร้านเราเยอะๆนะ,  กุมารทองชื่อ....ไปทำบุญกัน ไปรับบุญกัน เป็นต้น เรียกและชวนบ่อยๆประจำ ไม่นาน ผู้เลี้ยงจะรู้สึกเองได้ว่ากุมารมีตัวตนอยู่ด้วยครับ




##การบนหรือขอกุมาร    ต้องทำบุญให้กุมารก่อนอื่นใด กุมารจะมีพลังส่งเสริมให้กับผู้เลี้ยงจะสัมฤทธิ์ผล การบนขอไม่ควรบนเกินกรรมหรือบุญเก่าตัวเองที่ทำมาจากอดีตชาติครับ  บางคนมีกรรมติดตัวมา หรือเจ้ากรรมนายเวรติดตามอยู่ กุมารจะช่วยทำให้ทุเลาลง หรือหนักเป็นเบาเท่านั้น  ควรหมั่นทำบุญบ่อยๆเหรียญ10฿หยอดตู้บริจาคต่างๆ และต้องมีความเมตตาต่อผู้อื่น ควรทำบุญกับพระสงฆ์ป่วยชรา จะทำให้ผู้เลี้ยงกุมารทองชะตาชีวิตดีขึ้นตามลำดับครับ  เวลาบนกุมารทอง ต้องบนมีระยะเวลาวันเดือนปีที่กำหนดด้วยครับ(ลองบนสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ก่อนง่ายๆ)ถ้าบนได้จะเอาอะไรให้ หรือจะทำบุญอะไรให้ ถ้าบนยังไม่ได้ให้พยายาม อย่าเกินกรรมและบุญเก่า ผู้ที่บนจะได้สมความปรารถนาครับ


คำกล่าวการบนกุมารทอง   พ่อแม่ อยากจะ(ขายหรือบอกตามความประสงค์)..........อยากเห็นบารมีลูกกุมารทอง(ชื่อ)..........ว่าจะเก่งกาจแค่ไหน ช่วยดลจิตดลใจให้ผู้นั้น................มา(จะซื้อ-ขาย หรือด้านอื่นๆบอกกล่าวไป)ถ้าประสบความสำเร็จได้ภายระยะเวลาวัน/เดือน/ปี(ต้องระบุ) จะให้...........และทำบุญให้ ช่วยพ่อแม่ด้วยนะลูก(จะทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์5รูป 9รูปก็บอกไปครับ)  


จงเชื่อใจและมั่นใจกุมารทองของท่านด้วยครับเพราะมวลสารดีพิธีถูกต้องตามตำราโบราณทั้งหมดครับ  แต่อย่าขอเกินกรรมตัวเอง คือ บนขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นเองครับ


คาถาบูชากุมารทอง (หลวงพ่อเต๋ คงทอง)


นะโมตัสสะ  ภะคะวะโต อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ   (ว่า3จบ)


พุทธัสสะบูชา  ธัมมัสสะบูชา สังฆัสสะบูชา ปะติปะติบูชา ภะวันตุเม  อุกาสะ อุกาสะ.............."ข้าพเจ้าขอไหว้ตุ๊กตาทอง ขอจงมาบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวารแห่งข้าพเจ้า ขอเดชะ  ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญกุศลมาแต่เอนกอนันตชาติเกิดดัวยตุ๊กตาทอง  ลาภผลทุกประการจงมาบังเกิดแก่ข้าพเจ้าทั้ง8ทิศ เนืองๆจงมาทุกวัน อย่าได้ขาดสักการะนั้นเลย  ให้เหมือนองค์ตุ๊กตาทองนั้นเถิด"  จะค้าขายหรือปรารถนาเถิดจะได้ดั่งใจ)  กราบลง3ครั้ง






@กุมารจะเก่งได้ ต้องมวลสารดี พิธีต้องถูกต้อง 


@กุมารทองจะคะนองฤทธิ์ได้อยู่ที่ผู้บูชาผู้เลี้ยงทำบุญให้


@หมั่นเรียกหมั่นชวนไปด้วย เราจะรู้ได้เองว่ากุมารทองนั้นมีจริง


@เชื่อได้ศัทธาได้  แต่อย่างมงาย ยึดหลักแห่งความจริง


@บนขอในสิ่งที่อยากได้แต่ไม่เกินกรรมตัวเอง บุญเก่าตัวเอง


@จงพึ่งตัวเองก่อน ก่อนพึ่กุมารทอง เพราะกุมารคือเครื่องรางสายพราย


@กุมารทองจะเลือกผู้เลี้ยง  ไม่ใช่ผู้เลี้ยงเลือกกุมาร


@กุมารทองคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางด้านกำลังใจ 


@บนได้ขอได้ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ มันต้องแลกกัน นั้นคือทำบุญ


@ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย จงยึดหลักความพอดี


@กุมารไม่ได้จบการขายหรือการตลาด เพียงแค่ดลใจให้คนเข้าร้าน


@บนได้ขอได้แล้วควรแก้บนด้วยสิ่งที่หาง่ายๆ 


    ##การบูชากุมารทองไม่ได้ยากอย่างที่คิด ต้องมีจิตสมาธิ ความตั้งใจจริง เข้าใจว่าเค้ามีตัวตนจริง เรียกกิน เรียกไปไหนมาไหนกับเราบ่อยๆแค่นี้ ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คุณคิดครับ โลกแห่งจิตวิญญาณนั้นเข้าใจยาก นอกจากผู้บรรลุธรรมแท้จริงแล้ว  ประสบการณ์ผมหลายสิบปีนำมาใช้และปรับให้เข้าใจมากขึ้นครับ (อย่าดูหนังอย่าดูละครมากไปครับ และเอามาเป็นเรื่องน่ากลัว มันเป็นสิ่งปรุงแต่งให้หนังละครนั้นดูตื่นเต้นน่าสนใจติดตามชม   และเรื่องคำสอนบอกเล่าผิดๆมาแต่ต้น คราวนี้คงเข้าใจไม่มากก็น้อย ว่ากุมารทองคืออะไรใชัทำอะไร 


ส่วนเรื่องการดูจิตกุมารถามกันเยอะมากๆว่าดวงจิตยังอยู่หรือไม่อยู่ จากประสบการณ์ผู้เลี้ยงกุมารทององค์นั้นเท่านั้น จะทราบดีว่ามีหรือว่าไม่มีดวงจิต  ผู้เลี้ยงไม่ต้องไปเสียเงินถามร่างทรงต่างๆ เพราะบอกมั่วกันไปหมด ส่วนใหญ่พวกนี้จะชอบทักทำแท้งมา หรือไม่ก็มีเด็กตามอยู่  ควรใช้สติเหตุและผล


####ข้อดี ข้อเสีย ในการเลี้ยงกุมารทอง ทุกท่านรู้ข้อดีไปแล้ว มารู้ข้อเสียกันบ้าง  คนที่คิดจะเลี้ยงต้องพึงระวัง  จงตัดสิ้นใจก่อนนำกุมารทองมาเลี้ยงครับ กุมารทองเค้าคือผีชนิดหนึ่ง ผู้ที่เลี้ยงไม่ควรละเลยการทำบุญและเซ่นไหว้ หมั่นเรียกใช้ สัญญาสัจจะอะไรบนไว้ต้องทำตามนั้น ถ้าไม่ให้กุมารทอง ก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆบางครั้งอาจเจ็บป่วย ถึงล้มหมอนนอนเสื่อก็มีครับต้องระวัง   บางครั้งการบนขอกุมารทองบอาจดูเงียบ เพราะผู้เลี้ยงอาจบนขอเกินชะตาชีวิตตนเองหรือเกินกรรม พยายามหมั่นทำบุญให้กุมารครับกุมารจะได้มีฤทธิ์มากขึ้น และใช้กุมารในทางที่ถูกที่ควร แล้วแต่ผู้เลี้ยงจะเอาไปปรับใช้กันเอาเอง  ผู้ที่นำมาเลี้ยงแล้วไม่ได้เลี้ยงทิ้งขว้างจะเกิดวิบากกรรมร่วมทำกินอะไรไม่เจริญงอกงามติดๆขัดๆ  ถ้าไม่คิดจะเลี้ยงแล้วแนะนำให้ไปคืนวัดหรือตำหนักที่เอามาเค้าจะได้เลี้ยงแผ่เมตตาให้ต่อ  ห้ามนำกุมารไปทิ้งตามโคนต้นไม้เด็จขาดครับ...


 ###การเลี้ยงกุมารทองให้ได้ผลจริงๆต้องยึดหลักแห่งด้านให้กำลังใจ ด้านความเป็นจริง แยกแยะถูกเพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงควรมีสติ วิจารณญาณ อยู่ในความพอดีครับและจะประสบความสำเร็จเหมือนท่านอื่นๆ ขอบคุณครับ


###การเลี้ยงกุมารทอง ผู้เลี้ยงต้องมีความสุขในการที่จะเลี้ยงกุมารทอง กุมารทองก็จะมีความสุขที่จะให้ใจและอยู่ช่วยคุณในทุกด้าน


-----Jack jill kumanthong----  ::2014
























Jackjill

ถ้าจะติดง่ายขึ้น@LINEผม  jill0845498899 ครับ   เราจะได้ง่ายในการตอบคำถามมากขึ้น


หรือIG  jackjill_kumanthong


แล้วเจอกันครับ😋😊

Nok

อยากรับเลี้ยงบ้างอ่ะ ติดตามตั้งแต่ออกลายกานคนอวดผีแล้ว

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view