เจตสิก คือ ความรู้สึกที่ประกบมาคู่กับจิตเสมอ เช่น รัก โลภ โกรธ หลง
ในตัวมนุษย์ ประกอบ ด้วย
- จิต คือตัวรู้
- เจตสิก คือ ความรู้สึก ที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งรอบตัวมากระทบส่งต่อไปยังจิต
- รูป คือร่างกาย ที่เป็นสื่อที่คอบรอบรู้สิ่งภายนอก เข้าสู่จิต คือ อายตนะทั้ง 6 ( หู ตา จมูก ลิ้น สัมผัส โผฏฐัพพะ)
เช่น อากาสร้อน --------> รูปหรือร่างกาย --------- > เจตสิกรับรูปจากรูปผ่านทาง สัมผัสว่าร้อน ส่งไปยังจิต
- นิพพาน คือสิ่งที่อยู่ ในตัวมนุษย์ทุกคน การเข้าถึงนิพพาน คือ การเอาจิตแยกออกจาก เจตสิก
เมื่อร้อน ให้รู้ว่าร้อน หิวให้รุ้ว่าหิว อย่าไปอารมย์เสีย ไม่เอาเจตสิกมาปรุงแต่งให้จิตเศร้าหมอง
เพราะจิตของเราเกิดๆ ดับ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า จิตของเราจะเกิดใหม่เรื่อยๆ
และคอยรับรู้ ความรู้สึกที่เจตสิก ส่งมาให้ตลอดเวลา หากเราเกิดความสงบ แยกจิตออกจากเจตสิก
ชีวิตของเราจะมีความสุข ไม่ต้องเป็นทาสของเจตสิก ที่คอยปรุงแต่งให้เราเศร้าหมอง และเร่าร้อน
อยู่ตลอดเวลา นี่แหละครับ \"นิพพาน\"
หากเรามองลึกๆ แล้ว ทุกอย่าง มีประเด็นเดี่ยวคือ จิตทุกอย่งล้วนเกิดแต่จิตเรา (ปรุงแต่ง) ทั้งสิ้น
ผมถามเพียงคำถามเดียว
**** ถ้าคุณเกิดมาบนโลกนี้คนแรกและคนเดียว คุณจะตั้งชื่อ ตัวเองว่าอะไร ****
ลองคิดดีดีนะคับ ว่าตอนนั้นเรารู้ภาษาอะไร พูดอย่างไร ทำท่าทางยังไง กินอะไร
เรียกสิ่งโน้นสิ่งนี้ว่าอะไร ถ้าคำตอบของคุณไม่เข้าข้างตัวเอง คุณจะเห็นว่า ทุกสิ่ง
ทุกอย่าง เกิดจากการกำหนดของมนุษย์ กำหนดว่า นี่คือ นาย สนธิ นี่คือ จำลอง
นี่คือนายสมัคร นี่คือไก่ นี่คือภูเขา นี่คือสีแดง อีกมากมาย ทุกสิ่งในโลกจริงๆ
ถ้าเอาคำถามผมมาคิด จะเห็นว่า แท้จิรง ทุกอย่าง มันเป็นของมันอยู่แล้ว มีอยู่แล้ว
เพียงแต่เราเอาความหมาย ชื่อ และประโยชน์ไปมอบให้สิ่งนั้น จนเรา \"ยึดติด\"
แล นี่คือ มูลเหตุแห่งการ เวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสารอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แล พระพุทธเจ้าได้เห็นสิ่งนี้ จึงบอกวิธี ออกจากวัฎสงสาร ให้กับเวไนยสัตว์
แล นี่คือความจริง ของสรรพสิ่งในโลก ที่ล้วน อนิจจัง
ขอบคุณครับ