http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,946,248
Page Views33,383,176
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


ยากทราบไหมครับ....ตกลงพระสีสะแรงแงงคืออะไรแน่

(อ่าน 28014/ ตอบ 16)

สิงห์ไตรมาส

ยากทราบไหมครับ....ตกลงพระสีสะแรงแงงคืออะไรแน่

พอดีผมมีบทความที่เคยเขียนไว้เมื่อปี2549 ตอนนั้นตั้งชื่อนามปากกาว่า....นายฮ้อยสิงห์ ครับ


 


สิงห์ไตรมาส


 

พระศรีสะแรงแงง


                                                นายฮ้อยสิง


                                                       ๖ พ.ย.๒๕๔๙


 ผ้ายันต์”พระศรีสะแรงแงง”เป็นยันต์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ยันต์หนึ่งในขณะนี้ คงเพราะเป็นยันต์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่มี”จิตวิญญาณ”นั่นเอง


และเนื่องจากสร้างขึ้นที่สำนักวัดสามง่าม ที่ขึ้นชื่อเรื่องตุ๊กตาทอง ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ภาพพจน์ ของยันต์นี้ยิ่ง มีตัวมีตนยิ่งขึ้น ซึ่งศาสตร์การสร้างรูปวาดแล้วให้มีจิตวิญญาณนี้เรียกว่า “ภาพยนตร์”มีมาแต่โบราณแล้ว  ดังปรากฏในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่มีการใช้หุ่นพยนต์


  การสร้างพยนต์ นั้นคือการสร้างสี่งที่ไม่มีชิวิตจิตวิญาณให้เกิดมีขึ้นมา การแสดงออกของชีวะ คือการ เคลื่อนไหว เป็นต้น นั่นเอง เราจึงสร้างศัพท์ขึ้นหลายคำ เช่นเครื่องยนต์ รถยนต์ automobile  ซึ่ง mobile คือการเคลื่อนไหวนี่เอง เราจึงมีคำว่า จักรพยนต์ ง้าวพยนต์


   วิชาพระสะแร่งแง่ง ก็มีมานานแล้วเช่นกัน เราจะมาติดตามดูกัน


 


สายวิชาพระศรีสะแร่งแง่งในปัจจุบัน


ผมขอตั้งสมมุติฐานเพื่อช่วยกันหาคำตอบเบื้องต้นไว้ว่า”พระศรีสะแร่งแงงเป็นวิชาเดียวกับนางพิม”

สิงห์ไตรมาส

สิงห์ ไตรมาส

 

ยุคแรกของการทำยันต์พระศรีฯ อนุสนธิ์ตามผ้ายันต์เขียนมือที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ในวัดสามง่ามนั้น มีผืนนึง ที่วาดแล้วมีรูปเต้านม และอากัปกิริยาเป็นรูปหญิงถ่างขา ทำให้ผมมองเชื่อมโยงกับผ้ายันต์อีกเกจิอีกท่านหนึ่งในนครปฐม นั่นคือ...หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร


   ความเกี่ยวพันนั้นชัดขึ้นเมื่อ หลวงพ่ออั๊บนำวิชาสักนางพิมมาสร้างเป็นรูปขนาดห้อยคอ ในขณะเดียวกันกับวัดสามง่ามก็ออก พระศรีฯรุ่นห้อยคอเช่นกัน รูปลักษณะภายนอก การใช้งาน วิธีการเซ่น แทบเหมือนกันทุกอย่าง ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของสายวิชามากกว่าเรื่องของการตลาด


 เราจะมามองวิชาพระศรีฯโดยผ่านนางพิมบ้าง


รูปนางพิมนี้ เป็นรูปผู้หญิง ท้องโตกำลังให้กำเนิดทารกโดยวิธีพิศดารเหนือมนุษย์นั่นคือ มีเท้าเด็กออกมาก่อน นี่เป็นสัญลักษณ์ของ แม่!!ผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง ซึ่งมีความหมายพิเศษในทางไสยศาสตร์??


ไสยศาสตร์ไทยเราก็ยอมรับความหมายพิเศษนี้ด้วย? ?

สิงห์ ไตรมาส


 

รูปนี้เป็นลายมือหลวงปู่ฉาบ/ ตำราภิกขุณี


ดังจะเห็นได้จากยันต์”ภิกขุณี”ของหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จังหวัดชัยนาท และคติ “หัวด่านนอโม”!!!


  จากปากคำของศิษย์ใกล้ชิดว่า วิชานางพิมนี้ หลวงพ่อ อั๊บ ได้วิชามาจากแถบจังหวัดสุรินทร์ดังนั้นจึงมีข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าวิชานี้เป็นของเขมร!!!??? หลวงพ่อ ท่านให้ชื่อใหม่ว่า นาง พิม

สิงห์ ไตรมาส


 

 


อ.ศิริ เป็นอาจารยฆราวาสท่านนึงที่เรียนวิชา กับหลวงตาเอิวและอ.ตัญโฮน หรืออาจารย์วัดบ่อไพลิน แห่ง “พนมกุเลน” อันเป็นสำนักไสยศาสตร์ใหญ่แห่งกัมพูชา หากใครจะเรียนวิชาสายนี้ต้องเริ่มจากการสักยันต์ครูที่เรียกว่า “อาทันฮี “หรือ “อาทันกระนุย” เสียก่อน


    รูปยันต์นี้เป็นรูป เหมือนกับนางพิม เพียงแต่ เธอคลอดสำเร็จแล้ว


มีทารกนอนกองอยู่กับพื้น ! ในรูปยันต์มีลายเป็นลมเบ่ง ให้เห็นเป็นสาย ความเชื่อเรื่อง”อาถรรพ์ฮี”นี้เป็นครูใหญ่ไสยศาสตร์ของเขมร


จะเรียนวิชาขึ้นหรือไม่ ก็อยู่ที่ตัวนี้และนี่คือที่มาของกฎเหล็กทางไสยศาสตร์  “ห้ามด่าแม่”


วิชานี้เมื่อเข้ามายังอีสานใต้ ก็คลี่คลายเป็นวิชา “ครูหรรีใหญ่” นั่นเอง

สิงห์ ไตรมาส


 

ข้อต่อที่สำคัญคือ ครู...ใหญ่  ต้องปลุกท่านด้วยเหล้าขาว ทาปลุกที่รูปท่าน


                ความหมายพิเศษทางไสยศาสตร์?


ทางเขมรนี้ถือแม่เป็นครู  เหมือนที่รับรองในพระบาลีที่แปลว่า “แม่คือครูคนแรกของลูก”


 ในไสยศาสตร์ไทยก็เช่นกัน สำนักใหญ่ระดับเขาออ้ก็รองรับไว้


ดังที่ อ.ชุม ไชยคีรี นักวิชาการเขาอ้อ และเจ้าสำนักกุญแจไสยศาสตร์ได้รับรองว่า  หัวด่าน นอโมนี้ ใช้แยกศิษย์กับอาจารย์ ใครไม่รู้ไม่อาจเป็นอาจารย์ได้ และหากไม่รู้ก็ไม่อาจทำวิชาให้สำเร็จได้


  ดังนั้นในสายนี้จึงนิยมนำ รูปหัวด่านนอโมมาเขียนเพื่อรองรับพระเวทย์ เพื่อให้เกิดความศักดิสิทธิ์


  หรือในตอนคัดลอกต่อวิชากันต้องเขียน”หัวด่าน”หรือฟองมันฟันหนู และปิดท้ายด้วยตัว “ดีละ”, “ตัวไปด้วยดี” หรืออังคั่น โคมูตร อันเป็นเครื่องหมายวรรคตอนโบราณ


  หากพินิจให้ดี ตัว “หัวด่านนอโม”(ฟองมันฟันหนู) คือรูป “โยนี”

สิงห์ ไตรมาส


 

หรือรูป ตัวอ.ที่บูรพาจารย์ ท่าอธิบายว่าคือ อะ..อวิชา นำพามาเกิด


นั่นเอง เรามีชีพ เพราะแม่ให้ กำเนิด


ชะรอย เหล้าขาว คือความมัวเมา ในกิเลส  อวิชา ที่นำเราเวี่ยนว่ายในวัฎฎะสงสาร


                        พระแสร่งแงง


เคยมีผู้รู้ให้สมมุติฐาน พระศรีสะแร่งแงงว่า เป็นยักษ์ทางพม่า ผมก็ไม่ได้ว่ากะไรด้วยใจเชื่อว่า “หากพระศรีฯกับรูปนางพิมเป็นอันเดียวกัน


วิชาพระศรีฯ ก็ต้องเป็นของทางเขมร”??


  เราจึงต้องกลับไปยัง อีสานใต้กัน


ในอีสานใต้เรามีครูมนต์อีกครูที่ทรงความศักดิสิทธิ์มาก ใครได้ร่ำเรียนหาได้ต้องกลัวกับ สีนาดน้ำมอก(ปืนฝรั่ง) แหลน หลาว ของมีคม อย่างใดไม่!


มนต์บทนี้ท่านเรียกว่า “พระสะแร่งแง่ง”


 เนื้อมนต์ว่า “โอมสิทธิ พระสะแร่งแง่งมือกูแข็งกว่าฟ้า......ปากกูคาบพระจันทร์....โอมสะทา โอมสะเท..เทยเทย...ทงพระสะทึงคงคง....หับ”


ท่านให้ยกครูเรียนวันอังคาร มีซิ่นผืน แพรวาเป็นต้น

สิงห์ ไตรมาส

 

ที่สำคัญอันเป็นข้อต่อคือ  ท่านให้เสกเหล้ากิน


เป็นวิชาอาพัดเหล้านั่นเอง พอจะเห็นความเกี่ยวพันกันหรือยัง


(นางพิม,ครู..ใหญ่ ก็นิยมสักที่ต้นขา พระศรีฯก็เอาผ้ายันต์ผูกต้นขาเช่นกัน จนเกิดวลี”ผูกต้นขาขึ้นหาสาว)


สำแดงของวิชาผู้นั้นจะแสดงท่าทางเอนเอียงยืนไม่ตรง ดังพระสะแร่งแง่ง (ไม่รู้เพราะวิชา หรือเมาเหล้า)


           ที่มาของพระสะแร่งแง่ง


ที่เขาว่าพระสะแร่งแง่ง ต้องเดินเอียง นั้น แสดงว่าต้องมีต้นแบบแน่นอน!


ถ้าวิชานี้เป็นของเขมรจริง เราลองไปใกล้เขมรให้มากขึ้นอีกดีกว่า!


  อัตตะปือ เป็นแขวงหนึ่งในประเทศลาว ติดกับแขวงจำปาสัก


ถิ่นนี้ลาวเขาเชื่อว่าเป็นแดนแห่งไสยศาสตร์ มนต์ดำ อุดมด้วยยาสั่ง


“ถนำปะปุล” เพราะใกล้แดนหมอผีเขมรนี่เอง


 พบคนเฒ่าบางคนมีวัตถุประหลาด ถักลวดไว้ติดตัว รูปร่างเหมือนเขียด บิดเบี้ยว เขาเรียกว่า” สะแร่งแง่ง” ถามถึงที่มาก็ทราบว่า


ต่อแดนเขมร(ลาวว่าเป็นที่ของลาว)ทางตะวันออกเฉียงใต้ มีเทวาลัยเก่า


จำพวกปราสาทหิน มีรูปจำหลักรูปหนึ่ง เป็นนางอัปสร หรือเทวีอะไรสักอย่าง เธอทัดดอกไม้ที่หู ทำนาฎลีลาอยู่  ขาของเธอแยกออก (เหมือนโก่งขา)ยกขาขางนึงสูงกว่าพื้นนิดหน่อย


 รูปสลักหินนี้วางเอนกับพื้น จึงดูผู้หญิงในแผ่นหินเอนตัวยกขาชี้ขึ้น


   รูปสลักนี้มีความศักดิ์สิทธิมากมีคนมาบนบานสักการะ  และบริเวณนี้


 มีกรุพระที่คนนำไปติดตัวและเกิดประสบการณ์มากในยุคสงครามอินโดจีน  พระอยูในกรุกดทับกันนานจนรูปบิดเบี้ยวเหมือนเขียด


จึงทำให้อาการบิด และเอียง เป็นภาพลักษณ์ของพระสะแร่งแง่ง


   ที่เรียกว่าพระสะแร่งแง่ง ก็เพราะ สะแร่ง เป็นชื่อของดอกไม้ที่ทัดบนหูของนางอัปสร นั้นเอง!!


            ผมไม่ขอสรุปอะไรแต่จะขอทิ้งคำถามต่างๆไว้แทน


         พระศรีสะแร่งแงง กับพระสะแร่งแงง  จะเป็นอันเดียวกันหรือไม่?


      เป็นไปได้หรือไม่ว่ายันต์พระศรีฯจะคลี่คลายมาจาก อาทันฮี และพระสะแร่งแง่งจากจำปาสัก?


  ที่ว่าหลวงปู่เต๋ เ เคยเรียนวิชาจากครูเขมร อดีตแม่ทัพนั้น ท่านได้วิชาอะไรมา?


 ทำไมทั้งสามวิชาจึงต้องใช้เหล้ามาเป็นกระสาย?


หวังว่าคำถามทั้งหลายคงทำให้เราคิดถึงกัน!!

สิงห์ ไตรมาส

อ่านบทความแล้วคิดเห็นยังงัยก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ ช่วยกันหาที่มาที่ไป....สู้ๆ

Macky

อ่านเพลินเกินห้ามใจครับ   ยังมี พระสีฯ ฝั่งลาวด้วยนะครับ


โดย อาจารย์ปุ้ม วัดศาลาแดง เลี้ยงด้วยเหล้าเหมือนกัน


และทางเหนือของประเทศไทย ใช้พระสี กันเยอะเหมือนกันครับ เป็นทางยันต์มหาเสน่ห์ ประเภท ยันต์อิ๋นคู่ ยันม้าเสพนาง ยันต์แม่เป๋อ


รวมถึง แม่เป๋อ ที่ต้องใช้น้ำกาม เป็นเครื่องเส้น ด้วยเช่นกัน


ท่อนนึงของคาถา ว่า   " โอม พระสี กูจะขัดราศีขึ้นหน้า ใครเห็นใครทัก ใครเห็นใครรัก " ซึ่งก็น่าจะหมายถึง พระสีฯ เช่นกัน


และลักษณะการสร้างพระสี  ก็ใช้ผ้าอาถรรพ์เหมือนกันครับ

โก้เยาวราช


ตำราเก่าๆๆทั้งนั้นเลยครับ


พระสีแสลงแงง เป็นตำราโบราณครับ สายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธาก็มีนะครับ

โก้เยาวราช

พี่สิงห์ ไตรมาส จะไปวัดไหมครับ พรุ่งนี้ อยากรู้จักตัวจิง อิอิ

JACKJILL


นับถือจริงๆ กูรู

โจ้

อยากเห็นตำราเก่า ของโก้เยาวราช 0813817175

9HO

Rose Case



อ่านเพลินเกินห้ามใจครับ   ยังมี พระสีฯ ฝั่งลาวด้วยนะครับ




โดย อาจารย์ปุ้ม วัดศาลาแดง เลี้ยงด้วยเหล้าเหมือนกัน




และทางเหนือของประเทศไทย ใช้พระสี กันเยอะเหมือนกันครับ เป็นทางยันต์มหาเสน่ห์ ประเภท ยันต์อิ๋นคู่ ยันม้าเสพนาง ยันต์แม่เป๋อ




รวมถึง แม่เป๋อ ที่ต้องใช้น้ำกาม เป็นเครื่องเส้น ด้วยเช่นกัน




ท่อนนึงของคาถา ว่า   " โอม พระสี กูจะขัดราศีขึ้นหน้า ใครเห็นใครทัก ใครเห็นใครรัก " ซึ่งก็น่าจะหมายถึง พระสีฯ เช่นกัน




และลักษณะการสร้างพระสี  ก็ใช้ผ้าอาถรรพ์เหมือนกันครับ



Macky เมื่อ 20/09/2008 - 19:11


 

http://google

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view