http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,948,489
Page Views33,385,432
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 7

(อ่าน 666/ ตอบ 0)

โกสินทร์

     วันนี้หลวงพี่จรินทร์มาคุยกับหลวงพ่ออาน อาจารย์ของหลวงพี่จรินทร์คือ อาจารย์บุญยังเป็นพระธุดงค์อยู่ที่อุทัยธานี มีวิชาควายธนู  อาจารย์บุญยังใช้ให้หลวงพี่จรินทร์ปั้นควายธนู โดยให้ปั้นเป็นตัวเล็ก ๆ ร้อยเชือกที่จมูกเหมือนควายจริง ๆ ทุกอย่าง จากนั้นอาจารย์บุญยังก็ปลุกเสกจนกระทั่งหุ่นควายธนูตัวเล็ก ๆ นั้นวิ่งในฝาบาตรได้ ควายธนูของอาจารย์บุญยังเคยถูกอาจารย์อื่นลองดี โดยปล่อยควายธนูแกะด้วยไม้ปล่อยมาต่อสู้กัน ควายธนูของอาจารย์บุญยังชนะ เพราะควายธนูที่ปั้นด้วยขี้ผึ้งจะอ่อนตัวยืดหยุ่นได้ สำหรับควายธนูที่แกะด้วยไม้จะแข็งเปราะ เวลาต่อสู้จะแตกหักได้ง่ายกว่าไม่ยืดหยุ่นเหมือนขี้ผึ้ง ตกกลางคืนก็ผูกหุ่นขึ้ผึ้งควายธนูตัวเล็ก ๆ นั้นไว้กับเชือก รอบกลดของอาจารย์บุญยังจะไม่มีอะไรเข้ามาได้เลยเพราะมีควายธนูคอยเฝ้าปกป้องอยุ่  นอกจากนี้อาจารย์บุญยังปลุกของขลังในบาตร ของขลังในบาตรนั้นจะค่อย ๆ วิ่ง พอเป่าพรวดของในบาตรก็จะวิ่งกันกราวครั้งหนึ่ง หากของขลังในบาตรเป็นปลัดขิกก็จะกระโดดออกมาจากบาตรเลย หากเป็นตะกรุดพอเอามือจับตะกรุด มือจะรู้สึกกระตุกจนสามารถรู้ได้ นอกจากนี้อาจารย์บุญยังเคยไปปลุกเสกของขลังร่วมกับอาจารย์องค์อื่น ของขลังที่อาจารย์องค์อื่นปลุกเสกก็เฉย ๆไม่มีอะไร พออาจารย์บุญยังจับสายสิญจ์เสก ของขลังในบาตรก็จะวิ่งกันกราวทีหนึ่ง เมื่อคนรู้ความขลังของอาจารย์บุญยัง ก็มาหาขอความช่วยเหลือต่าง ๆ นานา จนอาจารย์บุญยังอยู่ไม่สงบสุขเหมือนเดิมอีกต่อไป จำใจต้องหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะกลางวันคนมากวนใจ ตกกลางคืนพวกเทพจะมาสนทนาธรรมด้วย ผมได้ยินดังนั้นซึ่งสนใจวิชากุมารทอง, รักยม, วัวธนู, ควายธนู อยู่แล้ว ก็ขอคาถาปลุกเสกควายธนูจากหลวงพี่จรินทร์ทันที หลวงพี่จรินทร์ไม่ให้เพราะกลัวผมจะนำไปใช้ทำร้ายผู้คน บาปก็จะตกมาอยู่ที่ตัวหลวงพี่จรินทร์ด้วย ผมก็เข้าใจเพราะผมกับหลวงพี่จรินทร์เพิ่งรู้จักกันพรรษาแรก ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอซึ่งกันและกัน อ่านมาถึงตรงนี้ทุกท่านคงทำใจเชื่อลำบาก เพราะปัจจุบันการที่จะปลุกเสกควายธนูให้วิ่งได้ มันเป็นไปไม่ได้เลย แต่นี่หลวงพี่จรินทร์ปั้นควายธนูเองกับมือ เห็นกับตา ก็ไม่รู้จะโกหกไปเพื่ออะไร หลวงพ่ออานท่านก็ณ. พ.ศ. 2526 ท่านก็อายุประมาณ 60 กว่าปีแล้ว นี่หากผมเป็นฆราวาสไม่มีโอกาสได้ฟังเรื่องเหล่านี้เป็นแน่  ซี่งณ.พ.ศ.ปัจจุบันผมก็ทราบมาว่ามีหลวงพ่อรูปหนึ่งอยู่ที่จังหวัดทางเหนือสามารถปลุกเสกให้ควายธนูมีชีวิตชีวาเหมือนอาจารย์บุญยังได้ แต่น่าเสียดายท่านมรณภาพเสียแล้ว แสดงว่าปัจจุบันยังมีคนที่สามารถใช้วิชานี้อยู่อย่างได้ผล เพียงแต่เราไม่รู้จักอาจารย์เหล่านั้น   ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน น้องของผมเค้าก็ส่งวัวธนูของพระอาจารย์มนตรี ซึ่งผมเช่าสมัยก่อนบวชไปให้ที่วัด พร้อมคาถาและวิธีเลี้ยง ผมก็นำไปให้หลวงพี่จรินทร์ดู ถามว่าคาถาที่ใช้คาถาเดียวกันหรือไม่ หลวงพี่จรินทร์บอกว่าไม่เหมือนกัน  หลวงพี่จรินทร์ก็บอกว่าอยากจะได้วิชาควายธนูจริง ๆ เหรอ ผมก็รับปาก หลวงพี่จรินทร์ก็บอกว่าให้ตามไปที่กุฎิ พร้อมกับบอกว่าให้เปิดหนังสือเจ็ดตำนานหรือหนังสือสิบสองตำนานก็ไม่ทราบ คาถาจะอยู่ในนั้น ซึ่งในบันทึกของผมไม่ได้เขียนเอาไว้ เลยไม่รู้ว่าอยู่หน้าไหนของหนังสือสองเล่มนั้นอ้อเล่ามาตั้งนาน เรื่องดังกล่าวหลวงพี่จรินทร์เล่าให้หลวงพ่ออานฟังเมื่อ 9 ส.ค. 2526


          ในวันเดียวกันช่วงสี่โมงเย็นผมไปเดินจงกลมหลังเขาซึ่งเงียบสงบ รกไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งผมจะไปเดินจงกลมทุกเย็น ณ.ที่ตรงนี้ ขณะเดินจงกลมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ก็หันไปดูอ้อเต่าภูเขานั่นเอง เต่าชนิดนี้ไม่อยู่ในน้ำ จับลงน้ำ มันจะสำลักน้ำตายทันที เหมือนคนตกน้ำ  หลังจากเดินจงกลมเสร็จ ผมก็นำเรื่องดังกล่าวมาถามหลวงพ่ออานว่าวัดถ้ำเสือมีเต่าภูเขาด้วยเหรอ หลวงพ่อยมได้ยินเรื่องนี้ก็เลยเล่าเต่าให้ฟังว่า สมัยที่ตาของหลวงพ่อยมยังมีชีวิตอยุ่สมัยเมื่อ พ.ศ. 2526 นะครับ มีเต่ามากินปลาในสระ ตาหลวงพ่อยมก็จับเต่าตัวนี้คิดว่าจะเอาไปกินตอนเย็น จึงเอาเต่าเหน็บไว้กับปางไม้ไว้ก่อน จนกระทั่งเย็นกลับบ้านก็ลืมเรืองนี่ไปเลย  จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปี อยู่ตาหลวงพ่อยมก็นึกขึ้นมาได้ว่า แกเอาเต่าเหน็บไว้กับปางไม้เมื่อปีที่แล้ว ก็ไปดู เหลือเชื่อเต่าตัวนี้นยังมีชีวิตอยู่  แต่กระดองตรงกลางยุบไปเพราะถูกไม้หนีบเอาไว้ ไม้ที่เต่าสามารถเอี้ยวคอไปถึงแหว่งไปหมดเพราะเต่ามันเอี้ยวคอไปกินเปลือกไม้นั้น .......อีกเรื่องหนึ่งหลวงพ่อยมประสบเอง หลวงพ่อยมเห็นงูเหลือมกินเต่า ตอนที่หลวงพ่อยมเห็นงูเหลือมผอมมากแล้ว หญ้าที่งูเหลือมนอนทับเหลืองไปหมดแล้ว งูก็ไปไหนไม่ได้เพราะหนักเต่าซึ่งอยู่ในท้องงู ต่อมาฝนตกห่าใหญ่ พ่อหลวงพ่อยมใช้ให้หลวงพ่อยมไปดู ปรากฎว่าน้ำท่วมจนงูได้ตายไปแล้ว แต่เต่าในท้องงูไม่ตายยังดิ้นกระแด่ว ๆ หลวงพ่อยมเลยเอามีดผ่าท้องงูเหลือม เต่าก็ออกมา หลวงพ่อยมคิดจะเอาหนังงูเหลือม แต่ก็ไม่สามารถเอาได้เพราะหนังงูติดกับกระดูกงูหมดแล้ว ...เรื่องเหล่านี้ฟังแล้วมันก็แปลกดี หลวงพ่อยมท่านประสบมาด้วยตัวเอง วันนี้ขอพอเท่านี้ก่อน พฤหัสหรือศุกร์หน้าค่อยมาฟังกันใหม่ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ทุกท่านครับ....




.


 


Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view