http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,948,120
Page Views33,385,061
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ 8

(อ่าน 757/ ตอบ 0)

โกสินทร์

      14 ก.ย. 2526  วันนี้ได้คุยกับหลวงพี่สมโภคเรื่องการฝึกพิเศษในเขา พระที่วัดนี้ปกตินอกจากจะมีการนั่งสมาธิและเดินจงกลม ไม่เหมือนกับพระวัดทั่วไป แล้วยังการฝึกพิเศษในเขา คือจะไปอยู่ในเขา ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก เว้นแต่มารับบิณฑบาตรที่หน้าเขา หลังจากฉันเสร็จก็นั่งสมาธิและเดินจงกลมทั้งวัน มีเวลาพักผ่อนเว้นช่วงบ้าง คราวละ 15 รูป ทราบว่าสามวันแรกที่ฝึกหลวงพี่สมโภคเจ็บหมดทั้งตัว จนจะยอมแพ้ออกมาแล้ว ต่อจากวันนั้นก็เฉย ๆ สมาธิดีตอนใกล้รุ่ง ง่วงนอนตอนตีสองตีสาม ขณะนั่งเห็นแสงสว่างวาบคล้ายคนฉายไฟฉายเข้าหน้า บังเอิญพระที่นั่งสมาธิใกล้หลวงพี่สมโภคมีไฟฉายอยู่ข้างตัว พอเสร็จจากนั่งสมาธิ ก็ออกเดินจงกลม ช่วงนี้เองหลวงพี่สมโภคถามพระรูปนั้นว่าได้ฉายไฟหรือเปล่า พระรูปนั้นปฎเสธ หลวงพี่สมโภคเลยถามที่คุมการปฎิบัติ ท่านให้คำอธิบายว่าเป็นนิมิตในตอนแรก  หลังจากวันนั้นเหตุการณ์นั้นก็ไม่เกิดกับหลวงพี่สมโภคอีกเลย ทั้งที่หลวงพี่สมโภคอยากจะได้นิมิตดังกล่าวอีก  ก็เป็นประสบการณ์ของการนั่งสมาธิอีกรูปแบบหนึ่ง


     30 ส.ค. 2526  ประสบการณ์ของวันนี้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง หาคำอธิบายไม่ได้ บ่ายสองผมไปนั่งริมสระน้ำที่ทางวัดขุดขึ้นมา ใกล้กับถ้ำที่ผมอาศัยอยู่ไม่มากนัก ขณะที่ผมนั่งริมสระน้ำก็มีเสียงเหมือนคนโยนก้อนหินลงในน้ำ ผมก็เหลียวมองรอบตัว ว่ามีพระรูปไหนโยนก้อนหิน ก็ไม่มีใครอยู่ในสถานที่แห่งนั้นเลย เพราะรอบสระน้ำมันโล่ง ๆ เอาล่ะซิในใจนึกโดนดีเข้าแล้วซิ นั่งต่อสักพักเอาอีกแล้วเหมือนเดิมเสียงโยนก้อนหินลงในน้ำอีกแล้ว  เหลียวมองอีกเป็นรอบที่สอง ก้เหมือนเดิมไม่มีใครอยู่ในสถานที่แห่งนั้นเลย  ก็นั่งต่อเหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังมีเหมือนเดิม ก็ไม่รู้อะไรเดินเลี่ยงออกไปจากสถานที่นี้ดีกว่า ตกกลางคืนประมาณสองทุ่มหลังจากผมเดินไปสวดมนต์ไหว้พระ (ทำวัตรเย็น) ขณะเดินกลับถ้ำที่พัก ผมมองเห็นแสงสว่างดวงเดียวขนาดเท่าดาวในท้องฟ้ากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง แต่เคลื่อนที่หักเป็นมุมฉากหลายครั้ง ผมเห็นเช่นนั้นก็มองหาเพื่อนพระบริเวณนั้น เพื่อจะได้ชี้ให้ดูว่าเห็นเหมือนกันหรือเปล่า แต่ไม่มีใครอีกเช่นกันในบริเวณนั้น ผมยืนดูประมาณ 5 นาที แสงดังกล่าวก็หายลับไปในทิวไม้ในยอดเขา ความสูงของแสงดังกล่าวประมาณยอดเขาที่ผมอาศัยอยู่ บนยอดเขาดังกล่าวมีรอยพระพุทธบาทอยู่ และเคยมีพระเห็นดวงไฟลอยวนบนยอดเขาแล้วหายไป แต่กรณีของผม ไม่ทราบว่าอะไร ผมคิดว่าผมคงไม่มีบุญบารมีที่จะเห็นดวงไฟแถวรอยพระพุทธบาทเป็นแน่ แต่ก็หาคำอธิบายไม่ได้ว่าสิ่งที่ผมเห็นมันคืออะไร     เหตุการณ์แปลก ๆ ยังเกิดขึ้นกับผมอีกครั้งหนึ่ง จำได้ว่าประมาณเที่ยงคืน วันนั้นเป็นวันเพ็ญ ดวงจันทร์กลมโตสวยงามมาก เห็นพระรูปหนึ่งท่านเดินจงกลม คงจะนานแล้ว ระยะทางที่ท่านเดินกลับไปกลับมา พื้นดินตรงบริเวณนั้นมันแววเชียว ผมเกิดความสงบอย่างบอกไม่ถูก เลยเดินไปหลังเขาไปเที่ยวถ้ำต่าง ๆ บรรยากาศวังเวงมาก เงียบสงบ วิเวก วังเวง ทุกชีวิตในวัดนอนกับหมด ผมเดินอยู่รูปเดียว มีความรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโลก หลังจากเดินชมถ้ำต่างๆ หลังเขาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับถ้ำที่พัก ขณะที่ขึ้นบรรไดข้างขวาของผมมันเป็นผนังหินภูเขา ได้ยินเสียงเหมือนอะไรเคลื่อนไหวอยู่ตามมา พอผมหยุด เสียงนั้นก็หยุด พอผมเดิน เสียงนั้นก็เคลื่อนไหวตามผม จนกระทั่งผมเดินพ้นบรรไดมา เสียงนั้นก็หายไป เพราะพอพ้นบรรไดแล้วก็ไม่มีภุเขาอีกแล้ว ขณะได้ยินเสียงผมคุมสติ ยืนนิ่งไม่หันไปมอง ดูซิมันจะมีอะไรเกิดขึ้นไม๊ พอผมหยุด เสียงนั้นก็หยุด ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งไม่รู้มันเป็นอะไรที่ตามผมมา


     เอาล่ะครับเหตุการณ์แปลก ๆ ในวัดถ้ำเสือ ก็หมดเพียงเท่านี้ เท่าที่ผมจะเปิดเผยได้ มีอีกหลายเรื่องไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ อยู่ในบันทึกของผม ใครมาอ่านเขาก็จะรู้เรื่องที่ผมไม่สามารถเล่าได้เองในภายหลัง หลังจากนั้นผมก็สึกออกมา  ขอตัดตอนมาปี 2540 วันหนึ่งขณะที่ผมขับมอเตอร์ไซค์รอไฟแดงอยู่  เกิดวูบขึ้นมาช่วงพริบตาเดียว ก็คิดว่าเอ๊ะเกิดอะไรขึ้นกับเรา หลังจากนั้นประมาณเป็นเดือน ขณะนั่งดูโทรทัศน์อยู่ มีลมอะไรบางอย่างขึ้นมาจากเท้า มันไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเท้า ขึ้นตาตุ่ม เข่า จนกระทั่งถึงท้องมันจึงหยุด เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ท่าไม่ได้การเสียแล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้ เลยโทรศัพท์หาน้องให้รับไปหาหมอที่คลีนิค หมอฟังอาการที่ผมเล่าให้ฟัง หมอวิเคราะห์โรคว่าน่าจะเกี่ยวกับหัวใจ เลยเช็คหัวใจที่คลีนิค ผลการตรวจปกติ แต่เพื่อความแน่ใจ หมอเขียนใบสั่งให้ผม รุ่งขึ้นไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง รุ่งขึ้นผมก็ไปตรวจระบบหัวใจ โดยติดเครื่องตรวจหัวใจแบบ 24 ชั่วโมง เป็นเครื่องเล็ก ๆ เท่าฝ่ามือ มีสายระโยงระยางเต็มหมด วันนั้นไม่ต้องอาบน้ำกันเลย หมอบอกว่าหากมีอาการผิดปกติ ก็กดปุ่มบันทึกในเครื่องได้เลย  ติดเมื่อเวลา 10 โมงเช้า รุ่งขึ้นอีกวันถึงเอาเครื่องดังกล่าวออก เพื่อไปตรวจกับคอมเครื่องใหญ่อีก ผลก็ปกติอีก หมอเลยให้เดินสายพาน ตรวจหาสาเหตุอีกวิธีหนึ่ง เดินเหนื่อยแทบแย่ แรก ๆ หมอตั้งความเร็วของเครื่องให้เดินช้า ๆ จากนั้นก็เร็วขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงตอนที่วิ่งเร็ว ๆ จนเราเหนื่อยหอบ ไม่ไหว หมอถึงหยุดเครื่องเมื่อเราบอกให้หยุด ผลการตรวจก็ปกติอีก หมอเลยส่งไปตรวจคลื่นสมอง ผลก็ปกติอีก เลยส่งไปให้แผนกจิตเวช หมอจิตเวชบอกว่าโรคที่ผมเป็นคือ \"โรคระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ\" กล่าวคือโรคดังกล่าวเมื่อเรานอนหลับ ระบบประสาทก็จะพักผ่อนด้วย แต่ประสาทของผมมันผิดปกติ ขยันทำงานเรื่อย ไม่พักผ่อน เลยเกิดอาการดังกล่าว ก็กินยาอยู่พักหนึ่ง จนหมอหยุดยา  โดยหมอบอกว่าโรคนี้ออกกำลังกายก็หาย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมก็ออกกำลังกายอยู่เสมอ นับจากปี 2540 จนถึงปี 2551 โรคดังกล่าวยังไม่หายเลย เพียงแต่วันดีคืนดี มันก็แสดงอาการออกมา เหมือนกับว่าฉันยังอยู่กับคุณนะ ไม่ได้ไปไหนนะ อาการคือ อยู่ หัวใจเต้นเร็วมาก จนเราเหนื่อยหอบ แม้นกระทั่งเราหายใจก็รู้สึกเหนื่อย ทำอะไรต้องหยุดหมด ความรู้สึกเหมือนกับจะหมดความรู้สึก หากมันเกิดอาการเลยจุดนี้ไป แต่มันก็ไม่เคยเกินเส้นนี้เลย จากโรคดังกล่าวทำให้ผมต้องเสาะแสวงหาหมอรักษาทางไสยศาสตร์ ในเมื่อหมอวิทยาศาสตร์รักษาไม่หาย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ผมจะเล่าในตอนต่อ ๆ  ไป


     ผมปกติร่างกายดีมาก ก่อนเกิดโรคนี้สามารถเดินด้วยมือ โดยเอาเท้าชี้ฟ้า เดินได้ไกลมาก นอกจากนี้ยังสามารถปีนกำแพง หลายปีมาแล้วหนังจีนเรื่องไอ้หนุ่มแต้จิ๋ว แสดงโดยถังเต้าเหลียน เค้าอุ้มเด็กปีนกำแพง โดยเอาเท้าทั้งสองข้างยันกำแพงทั้งสองด้าน โดยฉีกเท้าออกข้างละกำแพง ฉายที่โรงหนังกรุงเกษม แถวหัวลำโพง วันนั้นถังเต้าเหลียนมาโชว์ตัวด้วย แสดงหลายอย่างบนเวที  รายการชิงร้อยชิงล้าน หม่ำ ก็มีความสามารถปีนกำแพงดังกล่าวได้ เพราะช่วงผู้กล้า มีคนมาปีนกำแพงแบบที่ผมปีนได้ แต่กำแพงทางทีมงานเขาทำด้วยไม้ คงจะนึกภาพออกนะครับว่าปีนกำแพงอย่างไร   พอหายจากไข้ครั้งนั้นผมเดินด้วยมือไม่ได้อีกแล้ว ทรงตัวด้วยมือโดยเอาเท้าชี้ฟ้ายังไม่ได้เลย  แต่ยังปีนกำแพงได้ ผมเชื่อว่าคนอายุขนาดผม หากคนทำยาก  เอาล่ะครับวันนี้ขอพอเท่านี้ก่อน  พฤหัสหรือศุกร์หน้าค่อยมาฟังกันใหม่ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ.


 


 


Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view