http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,948,287
Page Views33,385,228
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 14

(อ่าน 569/ ตอบ 1)

โกสินทร์

          สำหรับตอนนี้ผมอยากจะตั้งชื่อว่า ได้รับส่วนบุญขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องราวเกิดเมื่อ พ.ศ. 2547  เช้าจันทร์ที่ 26 เมษายน 2547 ผมหยิบแก้วน้ำแล้วมือสั่น เริ่มแปลกใจเล็กน้อย ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน เริ่มเจ็บมือซ้ายคล้ายมือซ้น แต่ยังขับมอเตอร์ไซค์ได้ ก็คิดว่าเป็นผลมาจากวันเสาร์ที่ 24 เมษายน รึเปล่า เพราะผมไปชกกระเบื้องว่าวจำนวน 5 แผ่น ซึ่งกระเบื้องชนิดนี้ไม่ได้แข็งแรงอะไรเลย ใครก็ชกให้แตกได้แม้แต่ผู้หญิง โดยผมหารู้ไม่ว่ามันเป็นอาการแรกของโรค  ย่างเข้าวันพฤหัสที่ 29 เมษายน ในตอนเช้าผมไม่สามารถดึงเกลียวขวดน้ำพลาติกได้ เริ่มจับปากกาเขียนหนังสือไม่ได้ พอช่วงบ่ายผมต้องขึ้นชั้นสองของสำนักงานโดยใช้มือช่วยโหนราวบรรได เพราะไม่สามารถที่จะเดินได้ตามปกติ บ่ายสี่โมงเย็นไม่สามารถใช้มือยกท้ายรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไม่เข้าที่ได้ ต้องใช้สองมือช่วย ปกติมือเดียวก็สบายมาก ....เช้าศุกร์ที่ 30 เมษายน  ตื่นตอนตีห้าครึ่งมาฉี่ พอกลับไปนอนรู้สึกใจสั่น ซึ่งเป็นอาการของโรคระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ (เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 8 ลว. 31 ต.ค. 2551)  พอหกโมงเช้าหลังจากถ่ายหนักเสร็จ ใจสั่นอีกแล้ว ครั้งนี้เลยเรียกน้องพาไปส่งโรงพยาบาลเอกชน ตอนเดินเข้า ร.พ. สามารถเดินได้ด้วยตัวเองแต่ช้า ๆ  หมอเจาะเลือด และเอ๊กซ์เรย์ปอด พร้อมกับวินิจฉัยว่าผมเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ภาษาฝรั่งเศสว่า จีรังบัลเล่ย์ซินโดรม ค่ารักษาแพงมาก 


         วันเสาร์ที่ 1 พ.ค. 2547 หมอได้เจาะน้ำในไขสันหลังโดยให้นอนตัวงอแบบกุ้ง หรือแบบเด็กนอนในท้องแม่ เพื่อให้ข้อต่อกระดูกมันมีช่องว่างเพื่อใช้เข็มแทงได้สดวก หมอทำการแทงเข็มเอง ซึ่งทำผิดตำแหน่ง ผมโดนแทง 3 ที ทั้งที่ฉีดยาชาแล้ว แทงทีสะดุ้งที หากเป็นพยาบาลแทงทีเดียวก็ตรงกับตำแหน่งแล้ว เจ็บอย่างบอกใครเชียว  รุ่งขึ้นเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. ผลจากการเจาะไขสันหลังไม่พบเชื้ออะไร เช่นโรคเชื้อหมาบ้า, กามโรค, ซิฟิลิส ซึ่งโรคเหล่านี้หากเราเป็นมันจะคงอยู่ในร่างเราเป็นสิบปีโดยจะอาศัยอยู่ในไขสันหลัง เมื่อไม่พบโรคใด ๆ ก็เชื่อแน่ว่าเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ และในวันนี้เองที่ผมพบปาฎิหารย์ ซึ่งขอเล่าในภายหลัง ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรคปลายประสาทอักเสบก่อนนะครับ หมอบอกว่าโรคนี้อาการที่หนักที่สุดคือภาวะหายใจล้มเหลว ต้องฟอกเลือด คือมันจะทำลายระบบกล้ามเนื้อในร่างกายทั้งหมด ผมเห็นว่าช่วงมาอยู่ในรพ.เอกชนเค้าให้แต่ยาบำรุงเพื่อเฝ้าดูอาการ เลยขอไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งได้ย้ายมารพ.ของรัฐในวันจันทร์ที่ 3 พ.ค. อ้ออาการที่ผมเริ่มเข้าร.พ. จะแย่ลงเรื่อย ๆ ครับ วันแรกเดินเข้าห้องน้ำได้โดยมีคนพยุง วันที่สองต้องมีคนแบกเข้าไป วันที่สามต้องทำกิจกรรมดังกล่าวบนเตียงเพราะกระดุกกระดิกเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้แล้ว  นอกนั้นปกติทุกอย่างยกเว้นร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ เหมือนสมองสั่งทำงาน แต่ร่างกายมันไม่ทำงาน ตกบ่ายสามของวันอังคารที่ 4 พ.ค. อาการแย่ที่สุดร่างกายเหมือนโดนเชือกรัดทั้งร่าง ก็เลยปรึกษาหมอว่าจะเข้ารักษาในกรุงเทพ หมอเจ้าของไข้ให้ความเห็นว่า หากไปกรุงเทพ ทางกรุงเทพฯก็รักษาไม่ได้ เพราะรุ่งขึ้นเป็นวันฉัตรมงคล ของวันที่ 5 พ.ค. และการเดินทางโรคของผมอาจกำเริบต้องมีพยาบาลติดตามไปด้วย หัวใจอาจจะหยุดเต้นหากโรคนี้มันทำลายระบบกล้ามเนื้อหัวใจ หากรักษาที่นี่ยาก็เหมือนกัน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางเข้ากรุงเทพฯอีก อีกประการหนึ่งโรคของผม ทุกสามอาทิตย์จะมีคนไข้โรคนี้มาหนึ่งคน ไม่แปลกอะไรสำหรับหมอที่จะรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ ก็เลยตกลงรักษาที่นี่ไม่เข้ากรุงเทพแล้ว  หมอก็รีบสั่งยาทันที ยาฉีดขวดนี้ตกขวดละ 20,307 บาท ต้องฉีดประมาณ 10 ขวด ค่ารักษาทั้งหมดประมาณ สองแสนบาท หมอจะฉีดวันละสองขวด  เนื่องจากยาชนิดนี้แพงมากพยาบาลเลยไม่กล้าถือมาเอง พยาบาลจะเอาใบสั่งยาของหมอมาให้ญาติผมนำไปเบิกยามาให้หมอฉีด หากตกแตกพยาบาลจ่ายเองขวดตั้งสองหมื่นกว่า น่าคิดเหมือนกันนะครับ  หลังจากฉีดยาขวดแรกโดยฉีดเข้าไปในถุงน้เกลือ ประมาณ 20 นาที ยาก็ออกฤทธิ์ ผมเรืมกระดุกกระดิกปลายนิ้วมือและปลายนิ้วเท้าได้ จากนั้นอาการก็ดีขี้นเรื่อย ๆ จนเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากออกจากร.พ.แล้ว ต้องไปทำกายภาพบำบัดอีก 1 เดือน ถึงจะเข้าปกติเหมือนเดิม อ้อช่วงที่ผมนอนอยู่ในรพ.ของรัฐเค้าได้นำไปทำการตรวจระบบการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า (ช๊อตด้วยไฟฟ้าอ่อน ๆ) ที่มือและเท้า พยาบาลห้องนี้ก็ให้ความรู้ว่า เท่าที่คนไข้โรคนี้มาตรวจที่ห้องนี้ จากการพูดคุยกันได้ความรู้มาว่า คนที่ชอบกินยอดอ่อนของผักที่ฉีดด้วยสารกันแมลงบ่อย และพวกที่ชอบกินแมลงทอด เช่น ตั๊กแตนทอดยังงี้ มักจะเป็นโรคนี้ ผมได้ฟังเช่นนั้นบอกใช่เลย เพราะก่อนหน้านั้นผมชอบกินตั๊กแตนทอด กินมาก่อนที่จะเป็นโรคนี้ประมาณ ปีถึงสองปีได้ แหมมันอร่อยจริง ๆ หากหลับตากินเหมือนกินกุ้งทอดยังไงยังงั้น ตั้งแต่นั้นมาผมเลยไม่กล้ากินตั๊กแตกทอดอีกเลย สำหรับความเห็นของหมอ โรคนี้มันจะลอยอยู่ในอากาศ ไม่มีวัคซีนฉีดป้องกันเหมือนโรคอื่น ๆ เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเราอ่อนแอ โดยหลังจากเราเป็นหวัด โรคนี้มันก็จะเข้ามาแสดงฤทธิ์ในร่างเราทันที ตราบใดที่เราแข็งแรง โรคใด ๆ ก็ไม่สามารถเข้ามามีอิทธิพลเหนือเราได้ ฉะนั้นทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงเข้าไว้นะครับ .....


      ขอกลับมากล่าวถึงปาฎิหารย์ที่ผมได้รับเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. 2547 เวลาขณะนั้นประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ อยู่ ๆ เหมือนมีพลังบางอย่างไหลเข้าร่างผม ความรู้สึกเหมือนมีสายน้ำหรือสายลมเข้ามาในร่าง และผมสามารถกระดิกนิ้วมือนิ้วเท้าได้ในช่วงสั้น ๆ หลังจากนั้นก็กระดุกกระดิกไม่ได้เหมือนเดิม ผมคิดณ.ตอนนั้นว่ามีปาฎิหารย์เกิดขึนกับตัวผมแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ก็จำเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้นไว้ ตกกลางคืนน้องสาวผมมาเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาดังกล่าวเค้าไปทำบุญกับพระธุดงค์ และให้ท่านอนุโมทนาแผ่เมตตาจิตมาให้ผมโดยตรง ซึ่งก็ตรงกับเวลาดังกล่าว อายุของพระธุดงค์รูปนี้ก็ไม่มากเลยอายุประมาณ 30 กว่า และท่านธุดงค์ข้างถนนบ้าง หากมีป่าก็เข้าไปในป่าบ้าง ถ้ำบ้างแล้วแต่โอกาส น้องผมก็บอกผมว่านี่เค้ามาเตือนให้ผมมีอาการแบบนี้ ต่อไปในภายภาคหน้าหลังจากที่ผมหายจากการเจ็บป่วยครั้งนี้แล้ว ผมจะต้องนั่งสมาธิเหมือนเดิม เพราะผมนั่งสมาธิตั้งแต่เด็กหลังจากบวชสามเณรฤดูร้อนเมื่อปี พ.ศ. 2515 ผมก็นั่งสมาธิมาตลอดทุกคืน จนกระทั่งพ.ศ. 2530 ผมย้ายมาบ้ายหลังใหม่เลยไม่ได้นั่งสมาธิอีกเลย เป็นเวลาหลายปีทีเดียว ก็เป็นเหตุผลที่น่าคิดเหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันผมก็จะนั่งสมาธิเกือบทุกวันก็ว่าได้


         จากปาฎิหารย์ที่ผมได้รับในวันนั้นเหมือนกับเหตุการณ์ของนักศึกษาคนหนึ่งสมัยที่เรียกร้องประชาธิปไตยกัน แล้วทางการปราบ นักศึกษาก็หนีเข้าป่าไป ไม่สามารถติดต่อกับทางบ้านได้ จนแม่คิดว่าเค้าตายไปแล้ว พอถึงวันเกิดของนักศึกษาคนนี้ แม่ก็ทำบุญด้วยข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ซึ่งเป็นอาหารโปรดของลูก ซึ่งพอถึงวันเกิด นักศึกษาคนนี้ก็จะรู้สึกอิ่มเหมือนได้กินข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ทั้งที่อยู่ในป่าและไม่ได้กินอาหารแบบนี้เลย นี่ก็เป็นอีกรายหนึ่งเหมือนผมที่ได้รับส่วนบุญโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ ....พระธุดงค์ที่น้องสาวผมไปทำบุญและแผ่ส่วนกุศลให้นั้น ต่อมาผมก็ได้ไปปฎิบัติธรรมในสายวัดของท่าน ซึ่งเป็นที่มาของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผมทราบจากวัดแห่งนี้อีก ค่อยมาฟังกันวันพฤหัสหรือศุกร์หน้านะครับ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ...


 


โกสินทร์

        ขอโทษครับที่จริงตอนนี้ต้องเป็นตอนที่ 15 เพราะตอนที่ 14 ลว. 31 ธ.ค. 2551 มีภาพประกอบด้วย ขอแก้ไขตามนี้นะครับ
Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view