http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,996,135
Page Views33,433,538
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 16

(อ่าน 664/ ตอบ 0)

โกสินทร์

     สืบเนื่องมาจากน้องของผมสองคนโดนคุณไสยที่คนเช่าบ้านแม่ผมเค้าทำ (เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 13 ลว. 25 ธ.ค. 51)   พวกเราก็ตระเวนหาร่างทรงเพื่อที่จะแก้ไข ไปพบหญิงคนหนึ่งเป็นร่างทรงของพ่อปู่แม่ย่าอะไรผมก็จำชื่อไม่ได้แล้ว ก็สอบถามร่างทรงว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีพ่อปู่และแม่ย่าจะมาประทับทรง เค้าก็เล่าว่าเค้าเจ็บป่วยอย่างหนัก รักษาทางการแพทย์อย่างไรก็ไม่หาย จึงไปหาพระรักษาบ้าง ทันทีที่พระเห็นหน้าเค้าก็บอกเลยว่านี่มีวิญญาณจะมาอาศัยร่างเค้าเพื่อทำการรักษาผู้คน เค้าก็ทำพิธีรับทำให้ต้องรักษาผู้คนมาจนกระทั่งทุกวันนี้ .....นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมได้รู้จักท่านเจริญ ผมก็ไปหาท่านทันที เพื่อนำรักยมของพระอาจารย์บัวหลังจากขวดแตก ว่ายังอยู่หรือไม่ ท่านมองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เดี๋ยวตอนท้ายจะรู้ว่าเพราะอะไร ท่านก็ให้ผมเปิดจุกพลาสติกรักยมออก พร้อมทั้งให้ผมว่าคาถาปลุกรักยมให้ท่านฟัง หลังจากนั้นท่านก็นำไปบริกรรม พร้อมทั้งคืนให้ผม สักพักท่านก็นำหุ่นไม้ร่างเล็ก ๆ สูงประมาณ 3 ซ.ม. ฝีมือการแกะเป็นฝีมือชาวบ้านไม่สวยงามอะไรเลย ตามร่างกายของหุ่นไม้มีอักขระขอมเต็มไปหมด ท่านกล่าวว่า หุ่นไม้ที่นำมาให้ดูนี้ได้มาจากโยม คือเมียน้อยอยากจะครอบครัวตัวผู้ชายเพียงคนเดียว โดยแย่งสามีชาวบ้านว่างั้นเถอะฟังง่าย ๆ เมียน้อยก็ไปหาหมอไสยศาสตร์ทำหุ่นไม้ นำไปซ่อนไว้ใต้ที่นอนของผู้ชายที่บ้านเมียหลวง ฝ่ายผู้ชายพอจะนอนบนที่นอนที่มีหุ่นไม้ซ่อนอยู่นั้น ก็ร้อนรุ่มกลุ้มใจหงุดหงิด นอนไม่ได้เลยบนที่นอนนั้น ฝ่ายเมียหลวงชักเอะใจเลยมานิมนต์ท่านเจริญไปทำพิธีแก้ไข ก็เลยไปพบหุ่นไม้นี้ซุกอยู่ใต้ที่นอน ฝ่ายเมียหลวงกลัวก็เลยถวายหุ่นไม้นี้ให้ท่านเจริญไว้เสียเลย....ท่านเจริญก็นำขวดรักยมมาให้ดูอีกขวดหนึ่ง ขวดรักยมนี้เหมือนขวดทั่ว ๆ ไป เหมือนตามที่สนามพระเค้าขายกันนั้นล่ะครับ ท่านบอกว่ารักยมนี้เป็นของหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งหลงรักผู้ชาย แต่ผู้ชายไม่เล่นด้วย เลยทำเสน่ห์ให้ผู้ชายรักโดยใช้รักยม เลยได้รักยมมาอีกขวดหนึ่ง ท่านกล่าวว่ามีบางรายเล่นรักยมและกุมารทองแล้ว ของพวกนี้มันเฮี้ยนตัวผู้เลี้ยงคุมไม่ได้ มันก็เลยเข้าสิง กินไก่ดิบ ๆ เป็นตัว ๆ ท่านก็ไปทำพิธีไล่ผีมาแล้ว ชาวบ้านในละแวกนั้นจะรู้กันหากใครโดนผีเข้า โดนผีกระทำ ต้องมานิมนต์ท่านเจริญ พวกรักยม กุมารทองที่ท่านไปทำพิธีแก้ไข เกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ทั้งนั้น มิน่าล่ะท่านถึงมองผมด้วยสายตาไม่สู้ดีนัก ดังที่ผมกล่าวในตอนนั้น ผมเลยบอกว่าที่ผมเล่นรักยมไม่ใช่เรื่องเสน่ห์แต่อย่างใด แต่เพราะต้องการให้รักยมเป็นเสมือนยามคอยป้องกันภัย เมื่อมีเหตุร้ายอะไรให้เค้ามาบอกกล่าวเตือนล่วงหน้าเป็นพอ แค่นั้นเอง ถึงตอนนี้ท่านเจริญถึงเข้าใจในตัวผม ขากลับผมยังนึกเสียดายทำไมเราไม่ขอหุ่นไม้ และรักยมที่ท่านนำมาให้ดูนะ นั่นถ้าผมขอท่านก็ให้อยู่แล้ว เพราะของทั้งสองสิ่งมีประสบการณ์มาแล้วถือว่าสอบผ่าน อ้อสำหรับท่านเจริญนี่ผมไปหาท่านเมื่อ 8 ก.ย. 2548


             คราวนี้จะเล่าเรื่องที่ผมไปปฎิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้บอกชื่อวัด เลยไม่กล่าวในที่นี้ก็แล้วกัน วัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดร้างอายุราวสมัยอาณาจักรศรีวิชัย เมื่อสร้างวัดใหม่ขุดพบถ้วย ชาม อาวุธ ของใช้สมัยโบราณทั้งนั้น อาจารย์ใหญ่ซึ่งเป็นอาจารย์ของเจ้าอาวาสไม่ชอบเรื่องไสยศาสตร์ ทำให้วัดนี้จึงมีแต่ธรรมะล้วน ปฎิบัติล้วน วัดอื่นหากใครมีเรื่องมีราว ก็ทำพิธีทางไสยศาสตร์ไป แต่วัดนี้พอมีเรื่องมีราว เราต้องไปกล่าวตั้งสัจจะกับพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดว่าจะปฎิบัติธรรมโดยการนั่งสมาธิ เดินจงกลม ถือศีล 8 เป็นเวลากี่วันก็ว่าไป ไม่มีการรดน้ำมนต์ ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนเค้าก็สำเร็จสมความประสงค์ ผมไปสวดมนต์และนั่งสมาธิที่วัดแห่งนี้ทุกเสาร์ เลยทำให้รู้จักกับพระในวัดนี้ อย่างหลวงตาสุรินทร์ที่ผมเกริ่นนำไว้แล้ว (เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 10 ลว. 14 พ.ย. 2551) ท่านเล่าประสบการณ์ในการธุดงค์ให้ฟังว่า แถวอีสานท่านไปปักกลดในป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเตือนท่านแล้วว่า เจ้าที่แรง ท่านก็เชื่อในการปฎิบัติของท่าน ก็ปักกลดในป่าแห่งนั้น ตกกลางคืนหลังจากชาวบ้านมาสนทนาธรรมกับท่านและกลับไป ท่านยังไม่ได้ปิดกลดที ท่านก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรย่ำบนใบไม้ พอท่านมองไปที่หน้ากลด คุณพระคุณช่วย งูตัวเบ้อเร้อ มันเลื้อยมายกหัวขึ้นสูงที่หน้ากลดแล้ว ท่านตั้งสติได้เฉยลูกเดียว ต่างคนต่างจ้องตากัน สักพักงูก็ค่อย ๆ ลดหัวลงแล้วเลื่อยไปคุมเชิงณ.ที่ใกล้ ๆ กัน ต้องเรียกว่าคุมเชิงจริง ๆ เพราะงูก็อยู่หน้ากลดนั่นล่ะ พอท่านเดินจงกลมมันก็คุมเชิงอยู่อย่างนั้น ท่านก็กล่าวว่าจะไปหนก็ไปเถิดงู ทางใครทางมัน ท่านมาปฎิบัติธรรม มันก็ยังอยู่ ตกดึกอยู่ ๆ ก็เกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้น มีแสงสว่างวาบขึ้นมาเหมือนกลางวันในบริเวณนั้น ท่านถึงกับอุทานออกมาว่า พระธรรมมาช่วยท่านแล้ว พอแสงหายไป งูก็ค่อย ๆ เลื้อยจากไป รุ่งเช้ามาบอกท่านว่า เขาเห็นงูนี้ตามท่านตั้งแต่ท่านเข้ามาปักกลดในป่านี้แล้ว นี่ล่ะครับอำนาจของการปฎิบัติพระธรรมล้วน ๆ ไม่มีคาถาอาคม เครื่องรางของขลังอะไรช่วยไว้เลย ....วันนี้ขอยุติเพียงเท่านี้ สัปดาห์หน้ามาฟังกันใหม่ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ทุกท่านเทอญ....


         


Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view