ตอนที่ 17 ว่าจะกล่าวถึงเรื่องราวที่นำมาฝากครั้งเข้ามาในกรุงเทพฯ ลืมครับ เลยขอนำมากล่าวในตอนนี้ ลูกผมได้ย้ายที่พักจากแมนชั่นแถวรัชดาภิเษก บริเวณตึกภัทรประกันภัย ตรงข้ามเป็นธนาคารธนชาติ พอตอนคืนห้อง ผู้ดูแลมาตรวจสอบที่นอน ปรากฎว่าข้างใต้ที่นอน เป็นรอยเตารีด โดยเป็นผลงานของคนก่อนหน้าลูกผมจะเข้ามาอยู่ ก็ชี้แจงเค้าไปว่าเราไม่ได้ทำ เพราะที่รองรีดเค้าก็เห็นอยู่แล้ว อีกประการหนึ่งรอยเตารีดที่ปรากฎในที่นอนมีรู ๆ รอบด้าน แต่ของลูกผมไม่มี เค้าก็ไม่ยอม เค้าก่อนจะเข้ามาอยู่ทำไมไม่พลิกที่นอนก่อน โอเชื่อเลยร้อยทั้งร้อย ใครบ้างจะไปพลิกที่นอน  ก่อนหน้านั้นผู้ดูแลเป็นผู้หญิง ลูกผมเห็นรอยติดกาวสองหน้าแล้วลอกออก ก็ชี้แจงให้เค้าทราบ เพื่อจะได้บันทึกในสัญญา พอตอนออกจากสถานที่แห่งนั้นปรากฎว่ารอยตำหนิดังกล่าว เค้าไม่ได้บันทึกไว้ แต่ผลกรรมที่ผู้ดูแลผู้หญิงทำไว้ก็สนองเค้าแล้ว คือเค้าทุจริตทางด้านการเงินเลยถูกไล่ออกไป คนใหม่เป็นผู้ชายเค้าไม่ยอม เลยถูกหักค่าที่นอนทีรอยตำหนิหนึ่งพันบาท ในฐานความผิดที่ไม่พลิกที่นอนก่อนจะเข้ามาอยู่ ก็เป็นบทเรียนนะครับ ต่อไปทุกท่านก่อนจะเข้าไปเช่าที่อยู่ใหม่ ให้พลิกดูใต้ที่นอนด้วยว่ามีรอยตำหนิหรือไม่ .....

     เมื่อ 2 มีนาคม ที่ผ่านมาผมได้ติดตั้งแอร์ภายในบ้าน ขณะที่ผมจะเดินออกจากบ้านเพื่อไปซื้อน้ำมาเลี้ยงช่างแอร์ ได้ยินเสียงเพื่อนช่างแอร์โทร.มาแว่ว ๆ ว่า พระธุดงค์ ครั้นผมกลับมาช่างแอร์ก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เค้าไปกับเพือน 2 คน คนหนึ่งเป็นทนายความ อีกคนหนึ่งชื่อเหลือง ไปหาเพื่อนเค้าแถวบ้านนาเดิม ก็เห็นพระธุดงค์ปักกลดรูปหนึ่ง ปกติเค้าทั้งสามคนไม่สนใจและศรัทธาพระธุดงค์อยู่แล้ว ทั้งได้ฟังข่าวคราวจากในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับพระปฎิบัติตัวไม่เหมาะสม ก็ยิ่งไม่สนใจใหญ่ แต่เพราะอะไรไม่ทราบทำให้เค้าทั้งสามหยุดรถและเดินเข้าไปหาพระธุดงค์รูปนั้น เพื่อนคนที่เป็นทนายสูบบุหรี่เข้าไปหาโดยไม่ให้ความเคารพ คนที่เป็นทนายถามว่าเมือไรถึงจะถึงยุคพระศรีอาริยะ พระรูปนั้นก็อธิบายจนทนายคนนั้นทิ้งบุหรี่ที่สูบอยู่ด้วยความละอายใจว่ามันไม่เหมาะสมและด้วยความเคารพศรัทธาในคำอธิบายของท่าน พระรูปนั้นก็ถามทนายกลับว่าโยมศึกษาพุทธประวัติมาดี อาตมาขอถามว่าพระพุทธเจ้าหลังจากสละทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พระองค์สละอะไรเป็นครั้งสุดท้าย ทนายตอบไม่ถูก นั่งเงียบ พระธุดงค์เฉลยว่าสละอารมณ์ แต่น่าเสียดายที่คำอธิบายต่าง ๆ ของพระรูปนี้ ช่างแอร์ไม่สามารถอธิบายให้กับผมได้เพราะมันลึกซึ้งและละเอียด ....ขณะที่ทั้งสามนั่งสนทนาธรรมกับพระธุดงค์ ก็ปรากฎว่ามีตะขาบตัวหนึ่งมาวนเวียนบริเวณ 3 รอบ คนชื่อเหลีองตกใจก็เลยเล่าให้ทั้งหมดฟังว่า ก่อนหน้าที่เค้าจะมาหาพระธุดงค์ ตอนกลางคืนเค้านอนอยู่ปรากฎว่ามีตะขาบมากัดที่แขนเค้า เค้าก็สะบัดปัดมันออกไปโดยที่ไม่ทำร้ายแต่ประการใด รุ่งขึ้นปรากฎว่ามีตะขาบเข้ามาในบ้านเค้าหลายตัวทีเดียว นับเป็นสิ่งที่เค้าแปลกใจมาก พอตกเย็นมาหาพระธุดงค์ ตะขาบก็ตามมาอีก พระธุดงค์ก็บอกว่าท่านแผ่เมตตาให้ตะขาบแล้ว ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ....มาถึงตัวช่างแอร์บ้าง พื้นเพของเค้าพ่อของเค้าเป็นร่างทรง น้องชายเค้าก็เป็นร่างทรง ตัวเค้าเองก็เกือบ ๆ จะได้เป็นร่างทรงแต่เจ้าเข้าประทับทรงในร่างเค้าไม่ได้ เค้าเองก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เรื่มจากศาลเจ้ากวนอูเค้ามีงานเลี้ยง เนื่องจากตระกูลเค้าอุปถัมภ์ศาลเจ้าแห่งนี้มานาน เค้าก็เชิญไปกินเลี้ยง พอช่างแอร์เดินเข้าสู่บริเวณศาลเจ้า ปรากฎว่าตัวเค้าสั่นคล้ายเจ้าจะมามาประทับทรง เค้ารับไม่ได้เลยไม่กล้าเข้าไปในศาลเจ้า อีกครั้งหนึ่งขณะที่เค้าดูโทรทัศน์สารคดีเค้ากล่าวถึงศาลเจ้าพ่อเสือ ทันทีที่เค้าเห็นหน้าเค้าสะบัดพั่บ ๆ ขี้นมาทันที มือเท้าออกอาการขึ้นมาทันที คล้ายเจ้าจะมาประทับทรงเค้าอีกแล้ว ก็ผ่านเหตุการณ์นั้นไป มากล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทั่งสามมาสนทนาธรรมกับพระธุดงค์กันต่อ ขณะที่ช่างแอร์คิดในใจว่าจะถามพระธุดงค์อยู่สองข้อคือ เรื่องที่พ่อเค้าเสียชีวิตไปแล้ว เค้าทำบุญไปแล้วพ่อได้รับหรือไม่ อีกข้อหนึ่งเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ ว่าเค้าจะนั่งอย่างไร ปัญหาที่เค้าจะถามทั้งสองข้อ ปรากฎว่าพระธุดงค์อธิบายให้เสร็จสิ้น จนแจ่มแจ้งเข้าใจหมด ไม่สงสัยอะไร เค้าแปลกใจว่าพระธุดงค์รู้ได้อย่างไร พระธุดงค์รูปนี้ไม่ธรรมดาเลย เป็นครั้งแรกที่เค้าศรัทธาและเคารพพระธุดงค์เป็นครั้งแรกในชีวิตจริง ๆ  ผมก็สงสัยพอเค้ากล่าวถึงสถานที่พระธุดงค์ไปปักกลด เพราะน้องสาวผมคนที่ไปติดตามพระธุดงค์และให้พระอุทิศส่วนบุญให้ผม แล้วผมได้รับแล้วเกิดปาฎิหารย์กับตัวผม (เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 15 ลว. 12 ม.ค. 2552) น้องสาวผมเค้าก็พูดว่าเค้าจะไปติดตามพระธุดงค์รูปเดียวกับที่เค้าเคยติดตามที่ผมเล่าในตอน 15 ผมก็ถามช่างแอร์ว่ารู้จักชื่อท่านหรือเปล่า ช่างแอร์ไม่รู้ชื่อ ผมก็ถามว่าจำหน้าท่านได้หรือไม่ ช่างแอร์ก็ตอบว่าจำได้ ผมก็นำมาภาพที่ผมไปถ่ายท่านไว้ในปี 2548 ที่วัดถ้ำเขาดิน พอช่างแอร์เห็นภาพบอกว่าใช่เลย เหลือเชื่ออะไรอย่างนั้น  เพราะพระธุดงค์รูปนี้เป็นรูปเดียวที่ผมได้ประสบ แล้วช่างแอร์มาประสบอีกทีหนึ่ง พอมาติดตั้งแอร์ที่บ้านผมทำไมถึงมาพูดเรื่องนี้ เหตุบังเอิญที่อธิบายไม่ได้หลายอย่างทีเดียว แปลกมาก ๆ อ้อพระธุดงค์รูปหนึ่งท่านชื่อ ท่านประเสริฐ เปสโล อายุ 34 ปี  ก็จะขอกล่าวถึงตัวท่านพอเป็นสังเขปหลังจากที่ผมไปหาท่านที่วัดถ้ำเขาดิน ท่านบอกว่าขณะที่ท่านเดินธุดงค์บางครั้งข้างถนนหลวง แต่ส่วนใหญ่ท่านจะอยู่ในถ้ำซะมากกว่า บางขณะที่จิตคิดแว่บไปในทางอกุศล ทันทีที่ปักกลด ดินฟ้าอากาศเค้าจะมาเตือนทันที มดจะขึ้นมาที่กลดทันที ท่านต้องอธิษฐานจิตขอขมา มดถึงหายไป และมีอีกหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับธรรมะ แต่ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไร ผมชอบสายไสยศาสตร์ซะมากกว่า ท่านก็เข้าใจ ปัญญาผมไม่ถึงว่ายังงั้นเถอะ อ้อขออธิบายที่คำว่าน้องสาวผมติดตามพระคือ ขณะที่พระเดินธุดงค์ น้องสาวผมและชาวคณะจะเดินตามหลังพระ อาจจะช่วยพระถือกาน้ำ กลด เดินเท่าที่ความสามารถของเราจะเดินได้ เดินกลางแดดเปรี้ยง ๆ นั่นล่ะครับ เค้าเชื่อกันว่าได้กุศลแรง พอพระพักใต้ร่มไม้ที่ไหน น้องผมและชาวคณะก็จะถวายน้ำดื่มบ้าง น้ำอาบบ้าง แล้วก็นั่งสวดมนต์เย็นร่วมกัน ก็แล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละครั้ง คนที่เดินตามพระธุดงค์ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมีมาในชีวิตก็หายไป มีแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต อย่างน้องชายผมคนที่โดนคนที่เช่าบ้านแม่ผม เค้าเอาคุณไสยใส่ร้านแล้วน้องผมสองคนโดนเข้าไปเต็ม ๆ ก่อนหน้านั้นหัวหน้าเค้าไม่ชอบเค้าเลย เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน พอน้องชายผมเดินติดตามพระธุดงค์ หัวหน้าเค้ากลับมาดีกับเค้า ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว และอีกหลายคนที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพกาย ก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ เอาล่ะวันนี้ขอพอแค่นี้ก่อน ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ .....