ผมขอเสริมเรื่องเล่าตอนที่ 18 ลว. 9 มี.ค. 52 นะครับ เกี่ยวกับช่างแอร์ หลังจากช่างแอร์ได้รับเชิญไปกินเลี้ยงที่ศาลเจ้ากวนอู พอจะเข้าไปในบริเวณศาลเกิดอาการเจ้าจะประทับทรง ช่างแอร์ก็รีบออกมาจากบริเวณศาลเจ้า ตกกลางคืน ช่างแอร์ฝันว่าเทพกวนอูได้โยนง้าวมาให้ 2 เล่ม (ไม่รู้เรียกว่าเล่มหรือด้ามดี ชักจะลืม ๆ เสียแล้วซิ) ช่างแอร์ก็รับง้าวเอาไว้ทั้งสอง ความฝันช่างแอร์น่าจะเป็นร่างทรงของเทพกวนอูได้ แต่ทำไมเทพกวนอูเข้าประทับทรงไม่ได้ ก็มิอาจจะทราบได้ ช่างแอร์เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน .......
ผมมากทม.เที่ยวที่แล้ว ได้เช่าควายธนูของหลวงปู่ท่านหนึ่งแถวอีสาน ปรากฏว่าเจ้าของศูนย์พระแห่งนั้นเป็นผู้หญิง มีจิตสัมผัสพิเศษเห็นได้จากป้ายประกาศ เช่น รับตั้งศาลพระภูมิ,ดูฮวงจุ้ย และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับพลังจิต ผมก็เลยปรึกษากับเค้าเกี่ยวกับกุมารทอง, รักยมว่าทำไมไม่มาติดต่อกับผมบ้าง เค้าก็ถามผมว่า บ้านผมมีปู่ฤาษีหรือเปล่า ผมก็บอกว่า มี แต่ไม่ได้เป็นของวัดใดๆทั้งสิ้น ผมเช่ามาจากสนามพระ แล้วฝากเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเศกของวัดต่างๆ เค้าก็บอกว่า หากบ้านผมมีปู่ฤาษี ก็เปรียบเสมือนมีผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน เด็กจะกล้าซนรึ ผมก็ได้แต่แย้งอยู่ในใจ อยู่ในบ้าน เด็กจะกล้าซนรึ สมัยที่รักยมของพระอาจารย์บัวมาบอกเหตุร้ายให้ผมทราบในความฝัน (เรื่องเล่าฯตอนที่ 1 ลว.15 มิถุนายน 51) ผมก็เลี้ยงวัวธนูอยู่ข้างหิ้งรักยม ทำไมรักยมมาเข้าฝันบอกเหตุได้ เพราะวัวธนูใช้ปราบผีโดยเฉพาะ ก็เป็นกรณีศึกษาอีกประการหนึ่ง .......
ผมมีเรื่องเกี่ยวกับน้องสาวของผมที่ผมกล่าวนำไว้ (จากเรื่องเล่าฯตอนที่ 11 ลว.22 พฤศจิกายน 51 และเรื่องเล่าฯตอนที่ 15 ลว.12 มกราคม 52) วันหนึ่งเค้าขึ้นรถจะขับออกไปนอกสำนักงานเพียงลำพัง เมื่อน้องสาวผมขับรถผ่านยาม ยามก็ชะโงกหน้ามาดูภายในรถ เค้าก็ถามว่าผู้หญิงอีกคนหายไปไหน น้องสาวผมก็ตอบว่า ขับรถมาคนเดียว ยามก็ทำหน้างงๆ(รถคันดังกล่าว ผมจะลงไว้ด้านล่าง รูปที่ผมนำมาลงถ่ายไว้ เพื่อจะให้หมอดูที่มีพลังจิต ดูว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใคร ทำไมยามสามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อได้ แล้วเค้าต้องการอะไร จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้นำไปให้หมอดูสักที เลยนำมาให้พวกเราได้ดูกันก่อน ........
เรื่องที่สองของน้องสาวผม วันหนึ่งเราเดินทางไปต่างจังหวัดโดยขับรถกันไป 2 คัน ผมขับตามหลังน้องสาวโดยสามารถมองเห็นกันได้ เรื่องราวเกิดขึ้นบนถนนสายเอเชีย เวลาประมาณบ่ายโมง ขณะที่น้องสาวผมขับแซงรถสิบล้อ อยู่ๆล้อรถสิบล้อหลุดออกมา 1 ล้อแล้วล้อนั้นก็หมุนเคียงกับรถคันดังกล่าว และได้หมุนเข้าไปใต้รถสิบล้ออีกครั้ง ขณะนั้นผมใจหายวาบคิดว่ายังไง ล้อรถที่หลุดมานั้นต้องชนกับรถของน้องสาวผมแน่นอน ผมก็ได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วย เพราะขณะนั้นความเร็วของรถทั้งสองคันไม่ต่ำกว่า 100 อีกใจหนึ่ง ผมก็หันมาดูคนในรถ ต้องการให้ถ่ายภาพนี้ไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในทางคดี เพราะหากเกิดเหตุ รถสิบล้อคงหนีอีกเช่นเคยอย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ แต่อนิจจา ทุกคนในรถหลับหมด ผมก็เลยจำใจต้องดูภาพที่ไม่อยากจะดู (มาทราบภายหลังว่าน้องสาวผมเค้าก็เห็นเหมือนกัน เค้าก็ภาวนาว่า “พระช่วยด้วย”) แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อล้อรถวิ่งมาถึงเส้นแบ่งกึ่งกลางของถนน มันก็กระเด้งข้ามหลังคารถน้องผมไปอีกฟากหนึ่งของถนน ผมได้แต่ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้น เมื่อไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น รถสิบล้อก็จอดเพื่อเก็บล้อดังกล่าวไป ( หากชนก็คงเผ่นหนีไปแล้วตามระเบียบ)