อย่าคิดว่าเป็นของจริงของปลอมเลยครับ หุ่นกุมารก็คือหุ่นกุมาร ยิ่งครั้งนึงเขาเคยเป็นหนึ่งที่เราเคยรัก ก็เอาไปให้พระอาจารย์ หรือสำนักฤาษีที่น่าจะเชื่อถือได้เรียกจิตกุมารให้ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
เล่าร้อยครั้งก็คงยังเหมือนเดิมเพราะเป็นเรื่องจริง
เมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว มีพี่ชายข้างบ้านเขาเลี้ยงกุมารใช้งานได้ทุกอย่างแต่ไม่เห็นตัว ปิด-เปิดไฟ ไล่นก ไล่หมา ปิดหน้าต่างตอนฝนตก บีบแตรรถ แกล้งคน ฯลฯ ด้วยความที่อยากได้บ้างและเป็นเด็กก็ไปเลือกซื้อหุ่นจากวัดราชนัดดามาองค์นึงเป็นโลหะหล่อแบบนับร้อยขาย เอามาให้หลวงตาเสกให้ หลวงตาท่านก็ทำให้ อีก 3 วันมาเอา วันที่ไปเอาหลวงตาท่านพ่นน้ำหมากเต็มมือเลยกุมารงี๊แดงเถือกเลย เท่าที่จำได้ กุมารไม่ได้อุด เจาะ ฝังใดๆทั้งสิ้น กลับมาบ้านก็ไม่ได้ทำพิธีใดๆ หลวงตาบอกแวลากินข้าวก็เรียกน้องเขากินด้วยน๊ะ ใช้วิธีเคาจานเบาๆ3ทีแล้วเรียกชื่อเขาเท่านั้นพอ คืนวันแรกที่รับเข้ามาก็ได้เรื่องเลย คนทั้งบ้านได้ยินเสียงเหมือนคนกลิ้งเขียงเล่นในห้องครัว พอแม่ออกไปดูก็ไม่มีอะไร พอเข้ามานอนสักครู่ก็ดังอีก จนแม่ต้องออกมาว่าพรุ่งนี้จะซื้อรถมาให้เล่น ไม่เงียบเด๋วส่งคืน เท่านั้นคืนนั้นก็นอนหลับสบาย
หลังจากนั้นไม่นานพี่ข้างบ้านเขาก็บอกว่ากุมารของผมยังเล็กต้องเลี้ยงอีกนานถึงจะเก่ง เขาจะรับเลี้ยงให้ ก็ฝากเขาเลี้ยงไว้ หลังจากนั้นอีกไม่นาน พี่ชายของพี่ข้างบ้านเขามีลูกอ่อน แล้วโดนกุมารกวนไม่หลับไม่นอน หัวเราะทั้งวัน พี่ชายเขาก็เลยขู่จะเอาไปปล่อยแล้วก็แอบเอากุมารไปเหน็บไว้บนกาบต้นกล้วยในรั้วบ้าน รุ่งขึ้นไปดูกุมารหายหมดเลย ทั้งๆที่ไม่มีใครรู้ว่าเอากุมารไปไว้ หากันจนถึงขนาดฟันต้นกล้วยลอกกาบออกมาดูเลยอ่ะ แต่ก็หาไม่เจอ ยังเสียดายมาจนบัดนี้ ถึงตอนนี้ก็ยังติดที่จะเคาะจานข้าวเรียกน้องเขามากินอยู่เสมอๆ
จากประสบการณ์บอกได้ว่า หุ่นกุมารไม่ว่าจะทำมาจากสิ่งใด ถ้าเสกมาดี ถ้ามีจิตกุมารอยู่ ก็ไม่สำคัญหรอกครับว่าจะเป็นวัสดุอย่างไร