แบบ ว่า ตอนไปก็แวะ ซื้อพวงมาลัย ตรงตลาดจงเจริญ ก่อนถึงวัดไม่เท่าไร ที่ร้า้นขายผลไม้ ผมก็สังเกตุบนหิ้ง ว่ามีกุมารหลวงปู่ครับ ผมก็เลยถามว่ารุ่นไหน เค้าบอกว่าได้มานานแล้ว ครับ มีสององค์ หลวงปู่เรียกเข้าไปรับกับมือ สมัยนั้นยังเรียนอยู่(คนเล่านะครับที่เรียนอยู่) องค์นึงอยู่ร้านอีกองค์อยู่บ้าน เค้าบอกว่า รวมกันไม่ไ่ด้ เล่นตลอดไม่ขายของเลย ก็เลยแยก แต่องค์นี้จะรักมาก(องค์ที่อยู่ที่ร้านน) ให้กินทุกวัน แต่องค์ที่บ้านไม่ค่อยให้กินเท่าไร เค้าเลยชอบชวนลูกๆ เค้าไปเที่ยว เค้าบอกว่าองค์ทั้งสองเก่งคนละ อย่าง องค์ที่ร้านเก่งค้าขาย แต่องค์ที่บ้านเก่งตามหาของ(เคยบนเรื่องควายหายแล้วได้) แต่องค์ที่บ้านเนี่ย เล่นรถบังคับเองเลย แรงมาก ซนมากด้วย เราก็เลยขอพี่เค้าว่า พี่งั้นผมขอบูชาต่อองค์นึงได้มั้ย พี่เค้าบอกว่ต้องถามน้องชาย แต่องค์ที่ร้านไม่ไ่ด้เพราะรักมากและคอหักด้วย(แต่หลวงปู่ต่อให้เองกับมือเ้ค้าว่างั้นนะ) เราก็เลย ขอน้องเค้า น้องเค้าถามว่าจะเอาไปทำอะไร เราก็บอกว่าเค้าขาย น้องเค้าขายทุเรียนอยู่ครับ ก็เลยบอกรอแป๊บนึง แล้วก็เหมือนคิดๆๆ คิดนานมาก สุดท้ายเค้าคิดไมไ่ด้ ก็เลยบอกว่าโทรถามแฟนก่อน พอถามแฟน(แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันนะ) เค้าก็เลยให้เราตามไปเอาที่บ้าน ห่างจากวัดประมา เจ็ดกิโล แต่ทางเข้า ซับซ้อนมาก(จนแม่บ่นว่า เค้าจะลวงเราไป ฆ่ามั้ยเนี่ย) พอไปถึง แฟน พี่เค้าหน้าตาไม่รับแขกเลย(ฮ่าๆๆ) พอรู้ว่าเราจะมาเอากุมารไป พี่เค้าบอกว่า ที่ให้เพราะ เราจะเอาไปค้าขายนะ ถ้าเอาไปไว้ที่โต๊ะพระ(ศัพท์แปลกดี) เค้าไม่ให้เ็ด็ด ขาด ขนาดน้องชายของแฟนเค้ามาขอจะเอาไปช่วยตอนเล่นไพ่ เค้ายังไม่ให้เลย เค้าบอกว่า ถ้าไม่เอาวันหลังก็เอามาคืนนะ เค้ารักมากๆ ผมก็เลยบูชาต่อมาครับ ส่วนราคาบูชานั้น ไ่ม่แพงมาก ในความรู้สึก และก็ไม่ถูก เกินไป ก็ไม่เป็นไรครับ ก็เลยกะว่าจะกลับไปให้หลวงปู่เจิมอีกรอบ แต่เวลาไม่ทันละ แม่ต้องกลับ กทม ก็เลยกลับ กะว่าคราว หน้าจะเอาไปให้หลวงปู่เจิม ครับ พี่เค้าบอกว่า องค์นี่ เกือบ สิบปีแล้ว ก็รบกวน พี่ๆ ในเวบ ช่วยดูหน่อยนะครับ วิจารณ์เต็มที่เลยนะ ครับ ไม่เสียใจเด็ดขาด(แต่สภาพตอนเอามา โอโห ขี้ฝุ่น หนามากครับ พี่เค้าวางบนหิ้ง ธรรมดาเลย)