sanoru
|
หัวข้อ :เทคนิค ตรวจพลังพระเครื่องและกุมาร โดย การใช้ สมาธิ
17/07/2009
, 12:08
Quote
เทคนิค ตรวจพลังพระเครื่อง โดย การใช้ สมาธิ
ถ้าคุณอยากได้ อยากมี หรือ อยากหาพระเครื่องดีๆมาใส่ แต่เงินไม่ถึง หรือดูพระไม่เป็น (เหมือนผม) ลองหาพระแบบนี้ดู
1.ให้ลืมพระรุ่นดังๆ ราคาแพงๆ หายากๆ ไปให้หมด (คิดซะว่าเราบุญน้อย ก็แล้วกัน เฮ้อ..)
2.หาพระเครื่อง (หรือเครื่องรางประเภทอื่นก็ได้) ที่ถูกใจมาแทน (เผื่อไว้หลายชิ้นหน่อย)
3.ใช้มือข้างที่ถนัดจับองค์พระไว้เบาๆ ปล่อยหัวไหล่กับ แขนตามสบาย ข้อศอกตั้งฉาก ถือไว้ลอยๆ (ตอนนี้มือจะถือพระอยู่บริเวณท้อง)
4.เข้าสมาธิ ระดับอุปจารสมาธิ (ถ้าลึกกว่านี้จะใช้ไม่ได้) เพ่งไปที่องค์พระ
5.ให้สังเกตุอาการดังนี้
--5.1 จะรู้สึกร้อนนิดๆ ที่มือตรง บริเวณองค์พระ
--5.2 จะมีความรู้สึกว่ามีแรงดึงหรือ ผลักออกมาจากองค์พระ ให้ปล่อยและประคองมือไปตามองค์พระ
--5.3 ทีนี้ก็มาเลือกพระใส่กันโดยดูอาการตามนี้
-----5.3.1 ถ้าองค์พระดึงมือวิ่งไปทางด้านหลัง แล้วกลับมาที่เดิมแล้วไปอีกเรื่อยๆ แปลว่า มีกำลังทางด้าน แคล้วคลาด
-----5.3.2 ถ้าองค์พระ วิ่งวนเป็นวงกลม อยู่ข้างหน้า แปลว่าเป็นพระอธิษฐาน (อยากได้อะไรก็ขอเอา)
-----5.3.3 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาตัว แปลว่าเป็นพระมหาลาภ
-----5.3.4 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาหัวใจ แปลว่าเป็นพระเมตตามหานิยม
-----5.3.5 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้า แล้ววนเข้าหาปาก แปลว่าเป็นพระที่ลง สาริกาลิ้นทอง (ไม่รู้ว่าใช้ศัพท์ผิดหรือเปล่า???)
-----5.3.6 ถ้าองค์พระวิ่งออกไปตรงๆ แล้ววิ่งกลับมาตรงๆ เป็นพระที่ลงคงกระพันชาตรีไว้ (ผู้รู้บอกว่าให้นิมนต์ขึ้นหิ้งไปเลย แล้วเอาพระเมตตามหานิยมมาใส่ดีกว่า เพราะเป็นพระร้อน)
-----5.3.7 ถ้าองค์พระวิ่งวนขึ้นหัว แปลว่าเป็นพระที่ลงไว้ครบทุกอย่าง หรือลงไว้หลายอย่าง (เช็คยากกว่าพระที่ลงพลังไว้อย่างเดียว กว่าพระจะเริ่มเคลื่อนบางทีรอตั้งนาน)
-----5.3.8 ถ้ารู้สึกเริ่มเมื่อยแขน ให้หยุดทันที เพราะตอนนี้ถ้าคุณถืออะไรไว้ในมือ แล้วคุณอยากให้วิ่งละก็ คุณจะแยกไม่ออกแล้วว่า เป็นแรงที่คุณออกแรงผลักไปเองโดยไม่รู้ตัว หรือเป็นแรงดึงจากของในมือ
6.ถ้าคุณไม่มีเงิน ดูพระไม่เป็น เข้าสมาธิก็ไม่ได้ ขอแนะนำให้หาพระสวยๆ ที่คุณดูแล้วรู้สึกสบายใจ มาใส่แทนแล้วเอาเวลาไปทำความดี หรือทำประโยชน์อื่นๆจะดีกว่า (จริงๆ)
หมายเหตุ นี่เป็นวิธีของมือสมัครเล่น หัดเองได้ไม่ยาก (แต่ต้องมีของให้หัดจับเยอะหน่อย จะได้เคยมือ) แถมยังเป็นการหัดเข้าสมาธิให้คล่องตัวขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณเห็นพวกมืออาชีพจับแล้ว คุณจะทึ่ง พวกนี้จะไปตามวัด หรือร้านขายพระเครื่อง แค่หยิบขึ้นมาในมือแป๊บเดียวก้รู้แล้วว่าของดี หรือไม่ดี (ไม่ต้องตั้งท่าอะไรเลย แถมบางคนสั่งหล่อพระเองแล้วไปตระเวณตามวัดหาพระปลุกเศกเองเลย เพราะว่าสามารถรู้ได้ว่าพระองค์ ไหนปลุกเศกพระได้ องค์ไหนทำไม่ได้) เพราะว่าพระที่ราคาไม่สูงในตลาดพระ หรือเป็นพระที่เพิ่งมีไม่นาน หรือเป็นพระที่ไม่มีใครรู้จักเอาซะเลย แต่ปลุกเศกมาดี มีกำลังสูง ก็มีอยู่
เพื่อนๆได้อ่านแล้วอย่าหมกมุ่นมากนะครับ เพราะว่า กำลังหรือความดี ในองค์พระเครื่องนั้น ยังไงๆก็เป็นของพระเครื่องอยู่วันยันค่ำ ถ้าเราศึกษาธรรมมะเอง ทำบุญเอง นั่งสมาธิเอง ทำความดีต่างๆเอง ทำแล้วได้เป็นของเราเองหมดไม่ได้เป็นของพระเครื่อง
ถึงมี พระมหาลาภ หรือพระอธิษฐาน อยู่ในมือ แต่บุญเก่าไม่มี บุญใหม่ไม่ทำ กรรมดีใดๆก็ไม่สร้าง ขี้เกียจอีกตะหาก ผมคิดว่า น่าจะเหมือนกับมีไฟฉายอย่างดีอยู่ในมือ แต่ไม่มีถ่านใส่ ถึงเวลากลางคืนเมื่อไร ชีวิตก็มืดมิดอยู่ดีแหละ
ดังนั้นหาพระดีได้แล้ว อย่าลืมทำความดีด้วยนะครับ
เครดิต คุณณภัทร จากเว็บพลังจิต
เทคนิค ตรวจพลังพระเครื่อง โดย การใช้ สมาธิ
ถ้าคุณอยากได้ อยากมี หรือ อยากหาพระเครื่องดีๆมาใส่ แต่เงินไม่ถึง หรือดูพระไม่เป็น (เหมือนผม) ลองหาพระแบบนี้ดู
1.ให้ลืมพระรุ่นดังๆ ราคาแพงๆ หายากๆ ไปให้หมด (คิดซะว่าเราบุญน้อย ก็แล้วกัน เฮ้อ..)
2.หาพระเครื่อง (หรือเครื่องรางประเภทอื่นก็ได้) ที่ถูกใจมาแทน (เผื่อไว้หลายชิ้นหน่อย)
3.ใช้มือข้างที่ถนัดจับองค์พระไว้เบาๆ ปล่อยหัวไหล่กับ แขนตามสบาย ข้อศอกตั้งฉาก ถือไว้ลอยๆ (ตอนนี้มือจะถือพระอยู่บริเวณท้อง)
4.เข้าสมาธิ ระดับอุปจารสมาธิ (ถ้าลึกกว่านี้จะใช้ไม่ได้) เพ่งไปที่องค์พระ
5.ให้สังเกตุอาการดังนี้
--5.1 จะรู้สึกร้อนนิดๆ ที่มือตรง บริเวณองค์พระ
--5.2 จะมีความรู้สึกว่ามีแรงดึงหรือ ผลักออกมาจากองค์พระ ให้ปล่อยและประคองมือไปตามองค์พระ
--5.3 ทีนี้ก็มาเลือกพระใส่กันโดยดูอาการตามนี้
-----5.3.1 ถ้าองค์พระดึงมือวิ่งไปทางด้านหลัง แล้วกลับมาที่เดิมแล้วไปอีกเรื่อยๆ แปลว่า มีกำลังทางด้าน แคล้วคลาด
-----5.3.2 ถ้าองค์พระ วิ่งวนเป็นวงกลม อยู่ข้างหน้า แปลว่าเป็นพระอธิษฐาน (อยากได้อะไรก็ขอเอา)
-----5.3.3 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาตัว แปลว่าเป็นพระมหาลาภ
-----5.3.4 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาหัวใจ แปลว่าเป็นพระเมตตามหานิยม
-----5.3.5 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้า แล้ววนเข้าหาปาก แปลว่าเป็นพระที่ลง สาริกาลิ้นทอง (ไม่รู้ว่าใช้ศัพท์ผิดหรือเปล่า???)
-----5.3.6 ถ้าองค์พระวิ่งออกไปตรงๆ แล้ววิ่งกลับมาตรงๆ เป็นพระที่ลงคงกระพันชาตรีไว้ (ผู้รู้บอกว่าให้นิมนต์ขึ้นหิ้งไปเลย แล้วเอาพระเมตตามหานิยมมาใส่ดีกว่า เพราะเป็นพระร้อน)
-----5.3.7 ถ้าองค์พระวิ่งวนขึ้นหัว แปลว่าเป็นพระที่ลงไว้ครบทุกอย่าง หรือลงไว้หลายอย่าง (เช็คยากกว่าพระที่ลงพลังไว้อย่างเดียว กว่าพระจะเริ่มเคลื่อนบางทีรอตั้งนาน)
-----5.3.8 ถ้ารู้สึกเริ่มเมื่อยแขน ให้หยุดทันที เพราะตอนนี้ถ้าคุณถืออะไรไว้ในมือ แล้วคุณอยากให้วิ่งละก็ คุณจะแยกไม่ออกแล้วว่า เป็นแรงที่คุณออกแรงผลักไปเองโดยไม่รู้ตัว หรือเป็นแรงดึงจากของในมือ
6.ถ้าคุณไม่มีเงิน ดูพระไม่เป็น เข้าสมาธิก็ไม่ได้ ขอแนะนำให้หาพระสวยๆ ที่คุณดูแล้วรู้สึกสบายใจ มาใส่แทนแล้วเอาเวลาไปทำความดี หรือทำประโยชน์อื่นๆจะดีกว่า (จริงๆ)
หมายเหตุ นี่เป็นวิธีของมือสมัครเล่น หัดเองได้ไม่ยาก (แต่ต้องมีของให้หัดจับเยอะหน่อย จะได้เคยมือ) แถมยังเป็นการหัดเข้าสมาธิให้คล่องตัวขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณเห็นพวกมืออาชีพจับแล้ว คุณจะทึ่ง พวกนี้จะไปตามวัด หรือร้านขายพระเครื่อง แค่หยิบขึ้นมาในมือแป๊บเดียวก้รู้แล้วว่าของดี หรือไม่ดี (ไม่ต้องตั้งท่าอะไรเลย แถมบางคนสั่งหล่อพระเองแล้วไปตระเวณตามวัดหาพระปลุกเศกเองเลย เพราะว่าสามารถรู้ได้ว่าพระองค์ ไหนปลุกเศกพระได้ องค์ไหนทำไม่ได้) เพราะว่าพระที่ราคาไม่สูงในตลาดพระ หรือเป็นพระที่เพิ่งมีไม่นาน หรือเป็นพระที่ไม่มีใครรู้จักเอาซะเลย แต่ปลุกเศกมาดี มีกำลังสูง ก็มีอยู่
เพื่อนๆได้อ่านแล้วอย่าหมกมุ่นมากนะครับ เพราะว่า กำลังหรือความดี ในองค์พระเครื่องนั้น ยังไงๆก็เป็นของพระเครื่องอยู่วันยันค่ำ ถ้าเราศึกษาธรรมมะเอง ทำบุญเอง นั่งสมาธิเอง ทำความดีต่างๆเอง ทำแล้วได้เป็นของเราเองหมดไม่ได้เป็นของพระเครื่อง
ถึงมี พระมหาลาภ หรือพระอธิษฐาน อยู่ในมือ แต่บุญเก่าไม่มี บุญใหม่ไม่ทำ กรรมดีใดๆก็ไม่สร้าง ขี้เกียจอีกตะหาก ผมคิดว่า น่าจะเหมือนกับมีไฟฉายอย่างดีอยู่ในมือ แต่ไม่มีถ่านใส่ ถึงเวลากลางคืนเมื่อไร ชีวิตก็มืดมิดอยู่ดีแหละ
ดังนั้นหาพระดีได้แล้ว อย่าลืมทำความดีด้วยนะครับ
เครดิต คุณณภัทร จากเว็บพลังจิต
|
sanoru
|
ความคิดเห็นที่ 1
17/07/2009
, 12:11
Quote
ผมเสริมให้ ระหว่างเข้าสมาธิ ให้ขอขมาพระ และขอชมบารมีท่าน แล้วว่าคาถา นะ-กะ-อะ-ปิ ไปเรื่อยๆครับ อาการที่แสดงออกมาก็ตีความตามข้อ5 ได้เลย
ผมเสริมให้ ระหว่างเข้าสมาธิ ให้ขอขมาพระ และขอชมบารมีท่าน แล้วว่าคาถา นะ-กะ-อะ-ปิ ไปเรื่อยๆครับ อาการที่แสดงออกมาก็ตีความตามข้อ5 ได้เลย
|
sanoru
|
ความคิดเห็นที่ 2
17/07/2009
, 12:14
Quote
ขอเตือนทั้งมือใหม่ และไม่ใหม่ ในเรื่อง "จับพลัง" ไว้ด้วยนะครับ การจับพลังนั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า พระเครื่อง เครื่องราง วัตถุมงคลต่างๆนั้นเป็น "ของแท้"หรือ "ไม่แท้" นะครับ เพียงบ่งชี้ว่า ของชิ้นนั้นมีการบรรจุพลังไว้หรือไม่ และเป็นพลังแนวไหน เท่านั้น เว้นแต่ท่านที่ใช้สมาธิถึงขั้นสูงพอควรจึงจะรู้ได้ว่าของแท้/ไม่แท้
ท่านที่ไม่เคยสนใจในเรื่องพลังมาก่อนอาจสงสัยว่า ทำไมพลังจึงไม่สามารถบอกได้ว่า ของแท้/ไม่แท้ เหตุผลก็คือ พลังนั้นสามารถเกิดขึ้นกับวัตถุมงคล หรืออาจไม่ใช่วัตถุมงคลก็ได้ ในหลายกรณีเช่น
..มีพิธีพุทธภิเษกที่ใด ถ้าเรานำวัตถุมงคลใดเข้าไปร่วมในขอบเขตของพิธีนั้นๆ ยึดหลักง่ายเอาอาณาบริเวณที่เขาขึงสายสิญ (เขียนผิดแน่..ลืม)เป็นเกณฑ์ ไปร่วมอธิษฐานจิตในพิธีนั้น วัตถุมงคลนั้นก็จะมีพลังพุทธคุณบรรจุอยู่ได้
..นำไปให้พระอริยสงฆ์รูปใดใดอธิษฐานจิต ก็มีพลังได้
..วัตถุมงคลที่ไม่เคยผ่านพิธีใดใด หรืออธิษฐานจิตมาก่อนเลย ถ้าเราเองนำมาปฏิบัติบูชา(สวดมนต์ด้วยบทใดๆ) อยู่เป็นนิตย์ ก็สมารถมีพลังได้.. (ถึงไม่ใช่วัถุมงคลเช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ก็สามารถนะครับ ไม่เชื่อต้องลอง 555)
...ผมเคยอ่านเจอ.. มีคาถาบางคาถา เขียนลงในแผ่นทองแดงที่ใช่ทำกรุด เราเอามาเขียนเอง พลังก็เกิดได้นะครับ อันนี้ไม่เคยลอง แต่ถ้าค้นเจอจะเอามาลงให้อ่าน จำได้ว่าอยู่ในเวบ พลังจิต.คอม นั่นแหละแต่ไม่รู้อยู่ส่วนไหน.
จึงขอย้ำว่า ถ้าท่านมีเป้าหมายเช่าหาพระแบบมืออาชีพ ดูพิมพ์ดูเนื้อหาเป็นหลักไว้ก่อนนะครับ อย่าเอาพลังเป็นตัวตัดสิน ผมแค่มือสมัครเล่นหาเพื่อนไปวันๆ สนุกสนานไปตามเรื่อง อย่าเอาอย่างผมนะครับ.
เครดิต คุณณภัทร จากเว็บพลังจิต
ขอเตือนทั้งมือใหม่ และไม่ใหม่ ในเรื่อง "จับพลัง" ไว้ด้วยนะครับ การจับพลังนั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า พระเครื่อง เครื่องราง วัตถุมงคลต่างๆนั้นเป็น "ของแท้"หรือ "ไม่แท้" นะครับ เพียงบ่งชี้ว่า ของชิ้นนั้นมีการบรรจุพลังไว้หรือไม่ และเป็นพลังแนวไหน เท่านั้น เว้นแต่ท่านที่ใช้สมาธิถึงขั้นสูงพอควรจึงจะรู้ได้ว่าของแท้/ไม่แท้
ท่านที่ไม่เคยสนใจในเรื่องพลังมาก่อนอาจสงสัยว่า ทำไมพลังจึงไม่สามารถบอกได้ว่า ของแท้/ไม่แท้ เหตุผลก็คือ พลังนั้นสามารถเกิดขึ้นกับวัตถุมงคล หรืออาจไม่ใช่วัตถุมงคลก็ได้ ในหลายกรณีเช่น
..มีพิธีพุทธภิเษกที่ใด ถ้าเรานำวัตถุมงคลใดเข้าไปร่วมในขอบเขตของพิธีนั้นๆ ยึดหลักง่ายเอาอาณาบริเวณที่เขาขึงสายสิญ (เขียนผิดแน่..ลืม)เป็นเกณฑ์ ไปร่วมอธิษฐานจิตในพิธีนั้น วัตถุมงคลนั้นก็จะมีพลังพุทธคุณบรรจุอยู่ได้
..นำไปให้พระอริยสงฆ์รูปใดใดอธิษฐานจิต ก็มีพลังได้
..วัตถุมงคลที่ไม่เคยผ่านพิธีใดใด หรืออธิษฐานจิตมาก่อนเลย ถ้าเราเองนำมาปฏิบัติบูชา(สวดมนต์ด้วยบทใดๆ) อยู่เป็นนิตย์ ก็สมารถมีพลังได้.. (ถึงไม่ใช่วัถุมงคลเช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ก็สามารถนะครับ ไม่เชื่อต้องลอง 555)
...ผมเคยอ่านเจอ.. มีคาถาบางคาถา เขียนลงในแผ่นทองแดงที่ใช่ทำกรุด เราเอามาเขียนเอง พลังก็เกิดได้นะครับ อันนี้ไม่เคยลอง แต่ถ้าค้นเจอจะเอามาลงให้อ่าน จำได้ว่าอยู่ในเวบ พลังจิต.คอม นั่นแหละแต่ไม่รู้อยู่ส่วนไหน.
จึงขอย้ำว่า ถ้าท่านมีเป้าหมายเช่าหาพระแบบมืออาชีพ ดูพิมพ์ดูเนื้อหาเป็นหลักไว้ก่อนนะครับ อย่าเอาพลังเป็นตัวตัดสิน ผมแค่มือสมัครเล่นหาเพื่อนไปวันๆ สนุกสนานไปตามเรื่อง อย่าเอาอย่างผมนะครับ.
เครดิต คุณณภัทร จากเว็บพลังจิต
|
sanoru
|
ความคิดเห็นที่ 3
17/07/2009
, 12:16
Quote
การจับพลังนี้ต้องฝึกสมาธิร่วมด้วยนะครับ ใครไม่เคยนั่งก็ลองหัดนั่งดูเป็นประโยชน์กับตัวครับ
ขอบคุณครับ
การจับพลังนี้ต้องฝึกสมาธิร่วมด้วยนะครับ ใครไม่เคยนั่งก็ลองหัดนั่งดูเป็นประโยชน์กับตัวครับ
ขอบคุณครับ
|
balljuicy
|
ความคิดเห็นที่ 4
17/07/2009
, 12:18
Quote
เข้าสมาธิ ระดับอุปจารสมาธิ
ทำเยี่ยงไร เหรอ พี่ ยา
ช่วนแนะนำ หน่อย{icon4}
เข้าสมาธิ ระดับอุปจารสมาธิ
ทำเยี่ยงไร เหรอ พี่ ยา
ช่วนแนะนำ หน่อย
|
sanoru
|
ความคิดเห็นที่ 5
17/07/2009
, 12:19
Quote
สีตัวแทนพลังต่างๆ.. ที่เห็นตอนหลับตาขอชมพลัง
แดง หรือ ส้ม - คงกระพัน แคล้วคลาด
ม่วง - พุทธบารมี และญาณด้าน "ศีล"
เขียว - เมตตามหานิยม และญาณ "สมาธิ"
เหลือง / ขาว - จิตตานุภาพและญาณ "ปัญญา"
ฟ้า - ความมั่นคงและส่งเสริมธุกิจ
โปรดใช้วิจารญาณในการชมนะครับ คนเขียนกระทู้เดิมได้ ข้อมูลนี้มาจากหนังสือ "พระเครื่อง แขวนพระเครื่องแบบใด..จึงจะขลังที่สุด ตรวจสอบพระเครื่องด้วยพลังจิต โดย...คนเห็นผี" พิมพ์โดยสำนักพิมพ์หนังสือโลกทิพย์
ก็แปลกและท้าทายดีสำหรับคนชอบสอดรู้สอดเห็นอย่างผม 555.
สีตัวแทนพลังต่างๆ.. ที่เห็นตอนหลับตาขอชมพลัง
แดง หรือ ส้ม - คงกระพัน แคล้วคลาด
ม่วง - พุทธบารมี และญาณด้าน "ศีล"
เขียว - เมตตามหานิยม และญาณ "สมาธิ"
เหลือง / ขาว - จิตตานุภาพและญาณ "ปัญญา"
ฟ้า - ความมั่นคงและส่งเสริมธุกิจ
โปรดใช้วิจารญาณในการชมนะครับ คนเขียนกระทู้เดิมได้ ข้อมูลนี้มาจากหนังสือ "พระเครื่อง แขวนพระเครื่องแบบใด..จึงจะขลังที่สุด ตรวจสอบพระเครื่องด้วยพลังจิต โดย...คนเห็นผี" พิมพ์โดยสำนักพิมพ์หนังสือโลกทิพย์
ก็แปลกและท้าทายดีสำหรับคนชอบสอดรู้สอดเห็นอย่างผม 555.
|
มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ
|
ความคิดเห็นที่ 6
17/07/2009
, 13:24
Quote
มันทำไม่ได้ทุกคน หลอกนะ ช่างคิดได้นะ
มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว จับผิด จับถูกคุณก็ไม่รู้
พวกนี้ต้องฝึกนาน แล้วก็ต้องมีพรสวรรค์
แล้วถ้า นำมาปลุกกุมารทอ นางกวัก ชูชก ช่วยบอกอาการหน่อยดิ มันจะเป็นอย่างไร
ยังงัยเพื่อนก็ใช้เหตุผลด้วยนะครับ เดี๋ยวจะคิดเองเออเอง แล้วก็คนเราก็ศรัท่ธาไม่เหมือนกัน
มันทำไม่ได้ทุกคน หลอกนะ ช่างคิดได้นะ
มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว จับผิด จับถูกคุณก็ไม่รู้
พวกนี้ต้องฝึกนาน แล้วก็ต้องมีพรสวรรค์
แล้วถ้า นำมาปลุกกุมารทอ นางกวัก ชูชก ช่วยบอกอาการหน่อยดิ มันจะเป็นอย่างไร
ยังงัยเพื่อนก็ใช้เหตุผลด้วยนะครับ เดี๋ยวจะคิดเองเออเอง แล้วก็คนเราก็ศรัท่ธาไม่เหมือนกัน
|
sanoru
|
ความคิดเห็นที่ 7
17/07/2009
, 13:40
Quote
...."มันทำไม่ได้ทุกคน หลอกนะ ช่างคิดได้นะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว จับผิด จับถูกคุณก็ไม่รู้".....
บทความนี้เป็นบทความที่น่าสนใจผมก็หยิบเอามาให้อ่าน ถ้าคิดว่ามันไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่เห็นจะต้องเหน็บแนม นี่ครับ
คนอ่านเขาก็รู้ว่ามันไม่ได้ทำได้กันทุกคน ผมถึงต้องบอกว่าต้องฝึกสมาธิร่วมด้วย หลายครั้งที่เอาเนื้อหาอะไรมาลงแล้ว
มักจะมีความเห็นทำนองนี้ มาบั่นทอน ผมละเอือมระอาครับ ...เอามาให้อ่านด้วยความประสงค์ดี กลับมาเหน็บ
งั้นวันหลังเห็นกระทู้ผมขอความกรุณาปล่อยผ่านข้ามไปเลยก็ได้ครับ อย่าเอามาเก็บเป็นสาระให้หนักใจนะคุณ
ความเห็นที่ 6
ปล.เบื่ออีแอบ
...."มันทำไม่ได้ทุกคน หลอกนะ ช่างคิดได้นะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว จับผิด จับถูกคุณก็ไม่รู้".....
บทความนี้เป็นบทความที่น่าสนใจผมก็หยิบเอามาให้อ่าน ถ้าคิดว่ามันไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่เห็นจะต้องเหน็บแนม นี่ครับ
คนอ่านเขาก็รู้ว่ามันไม่ได้ทำได้กันทุกคน ผมถึงต้องบอกว่าต้องฝึกสมาธิร่วมด้วย หลายครั้งที่เอาเนื้อหาอะไรมาลงแล้ว
มักจะมีความเห็นทำนองนี้ มาบั่นทอน ผมละเอือมระอาครับ ...เอามาให้อ่านด้วยความประสงค์ดี กลับมาเหน็บ
งั้นวันหลังเห็นกระทู้ผมขอความกรุณาปล่อยผ่านข้ามไปเลยก็ได้ครับ อย่าเอามาเก็บเป็นสาระให้หนักใจนะคุณ
ความเห็นที่ 6
ปล.เบื่ออีแอบ
|
gogo
|
ความคิดเห็นที่ 8
17/07/2009
, 14:27
Quote
รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
|
เบื่อ
|
ความคิดเห็นที่ 9
17/07/2009
, 14:35
Quote
ใครบอกว่าเว็บนี้มีแต่คนใจดี เราเห็นหลายครั้งแล้ว บางทีโพสท์ไรหน่อยก็โดนด่า โดนเหน็บ
จนไม่อยากจะโพสท์แล้วเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะบั่นทอนกำลังใจไปถึงไหน
คุณ sanoru สิ่งที่คุณเอามาลงผึ้งว่าก็เป็นความรู้ใหม่ๆ ใครอาจคิดว่าไร้สาระ จริงอยู่ของงี้มันทำกันไม่ได้ทุกคนหรอก
แต่ผึ้งเชื่อว่ามันต้องมีคนทำได้บ้างแหละ ผึ้งเองก็เบื่อกับคนในเว็บนี้เต็มทน จะโพสท์ไรหน่อยก็ต้องคิดว่าจะมีคนมาด่ารึป่าว เลยกะว่าจะอ่านอย่างเดียวแล้วล่ะต่อไปนี้
ปล.ขอโทษคุณsanoru นะคะที่ใช้พื้นที่กระทู้คุณแอบเข้ามาบ่น แบบว่ารู้สึกเบื่อคนในนี้เหลือเกิน ไม่เป็นที่พึ่งให้คนมาใหม่เลย
ใครบอกว่าเว็บนี้มีแต่คนใจดี เราเห็นหลายครั้งแล้ว บางทีโพสท์ไรหน่อยก็โดนด่า โดนเหน็บ
จนไม่อยากจะโพสท์แล้วเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะบั่นทอนกำลังใจไปถึงไหน
คุณ sanoru สิ่งที่คุณเอามาลงผึ้งว่าก็เป็นความรู้ใหม่ๆ ใครอาจคิดว่าไร้สาระ จริงอยู่ของงี้มันทำกันไม่ได้ทุกคนหรอก
แต่ผึ้งเชื่อว่ามันต้องมีคนทำได้บ้างแหละ ผึ้งเองก็เบื่อกับคนในเว็บนี้เต็มทน จะโพสท์ไรหน่อยก็ต้องคิดว่าจะมีคนมาด่ารึป่าว เลยกะว่าจะอ่านอย่างเดียวแล้วล่ะต่อไปนี้
ปล.ขอโทษคุณsanoru นะคะที่ใช้พื้นที่กระทู้คุณแอบเข้ามาบ่น แบบว่ารู้สึกเบื่อคนในนี้เหลือเกิน ไม่เป็นที่พึ่งให้คนมาใหม่เลย
|
หมูอ้วนยะลา
|
ความคิดเห็นที่ 10
17/07/2009
, 15:43
Quote
ขอขอบคุณครับที่เอาความรู้มาให้
ขอขอบคุณครับที่เอาความรู้มาให้
|
จอนโอเช
|
ความคิดเห็นที่ 11
17/07/2009
, 16:44
Quote
ขอบคุณยา มากๆเลยครับ เด่วจะลองไปทำดู อิอิ{icon6}{icon5}{icon4}{icon3}
|
gacktky
|
ความคิดเห็นที่ 12
17/07/2009
, 18:34
Quote
ขอบคุณสำหรับความรู้ เพื่อนำไปศึกษาจะครับ
ผมเข้าใจเจตนาของเจ้าของกระทู้ว่าต้องการเผยแพร่เป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจครับ
ยังไงก็อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะผมคิดว่าสิ่งที่คุณต้องการนำมาเสนอนั้นมีประโยชน์กับผมมากทีเดียวครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ เพื่อนำไปศึกษาจะครับ
ผมเข้าใจเจตนาของเจ้าของกระทู้ว่าต้องการเผยแพร่เป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจครับ
ยังไงก็อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะผมคิดว่าสิ่งที่คุณต้องการนำมาเสนอนั้นมีประโยชน์กับผมมากทีเดียวครับ
|
น่าเบื่อ
|
ความคิดเห็นที่ 13
21/11/2009
, 18:42
Quote
มีมั่วอยู่เยอะน่า{icon3}{icon3}{icon3}
|
lopi
|
ความคิดเห็นที่ 14
18/07/2010
, 12:24
Quote
การจับพลังในแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ไม่จำเป็นที่จะเป็นตามอาการที่กล่าวไว้ เคยได้ยินการจับแบบวัดคืบ ขนลุกตามร่างกาย และอีกมากมายทีเดียว สมาธิระดับอุปจาระนั้น ยากนะ กว่าจะทำได้ น่าจะลงการจับแบบอื่นมาเป็นวิทยาทานบ้าง
การจับพลังในแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ไม่จำเป็นที่จะเป็นตามอาการที่กล่าวไว้ เคยได้ยินการจับแบบวัดคืบ ขนลุกตามร่างกาย และอีกมากมายทีเดียว สมาธิระดับอุปจาระนั้น ยากนะ กว่าจะทำได้ น่าจะลงการจับแบบอื่นมาเป็นวิทยาทานบ้าง
|
สอง
|
ความคิดเห็นที่ 15
03/05/2011
, 11:36
Quote
สวดมนต์ท่องคาถา ชินบัญชร ทุกวันท่านจะเหมือนมีสมเด็จ ติดตัว สะสมบารมีไปเรื่ื่อยๆ ผมได้มาแล้วครับโดยไม่เสียเงินสักบาทเดียว.
สวดมนต์ท่องคาถา ชินบัญชร ทุกวันท่านจะเหมือนมีสมเด็จ ติดตัว สะสมบารมีไปเรื่ื่อยๆ ผมได้มาแล้วครับโดยไม่เสียเงินสักบาทเดียว.
|