http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,951,183
Page Views33,388,254
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


ทำอย่างไรให้กุมารทองไม่เสื่อมอิทธิฤทธิ์อีกทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น

(อ่าน 1186/ ตอบ 5)

กริช

พอดีไปอ่านเจอมาน่ะครับ เลยอยากให้เพื่อนๆได้อ่านด้วยถ้าซ้ำ หรือเคยอ่านแล้วก็ไม่เป็นไรนะครับ

สาเหตุที่กุมารทองเสื่อมอิทธิฤทธิ์

๑. การเลี้ยงดูผิดวิธี
ครูบาอาจารย์จะกำชับหนักหนาว่าต้องเลี้ยงดูกุมารทองอย่างดี เพราะเขามี “ชีวิตจิตใจ” อย่าคิดว่ามองไม่เห็นตัวเขาแล้วเขาจะไม่มีจริง หรือเราจะทำอย่างไรกับเขาก็ได้ เพราะเขาไม่มีปากเสียงมาเถียงมาด่ากับเรา คิดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะเทวดาชั้นล่าง เวลาโมโหหรือโกรธขึ้นมา ก็กลายเป็นเทวดาอันธพาลได้ทันทีเหมือนกัน อย่าคิดว่าเทวดาไม่ทำผิด เพราะขนาดพระอรหันต์ยังมีผิดพลาดได้ พวกเขาเป็นเทวดามีศีลอยู่บ้างจริง แต่ก็ไม่ได้จะไม่ผิดพลาดเลย จำต้องระวังด้วย สำหรับท่านที่ยังประสบการณ์น้อย แรกๆ อาจคิดว่าไม่มีอะไร ไม่มีปัญหา แต่สำหรับท่านที่มีประสบการณ์ยาวนานและเห็นปัญหามามาก จะแนะนำได้อย่างชัดเจน ว่าจะต้องเลี้ยงดูกุมารทองอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามาวุ่นวายแก่ผู้ปลุกเสก

๒. การทำตัวไม่ดีของผู้เลี้ยง

บางท่านเลี้ยงดูถูกวิธี แต่ใช้กุมารทองไปในทางชั่วร้าย กุมารทองก็เหมือนเด็ก ได้กินกับเรา เขาก็ติดรสในอาหาร ยังสละกิเลสไม่ได้ ไม่ใช่พระอรหันต์ ดังนั้น ความยึดติดในลาภสักการะของกุมารทองยังมีอยู่ หากผู้เลี้ยงก็ติดในลาภสักการะหรือหลงเข้าสู่ทางชั่วร้ายแล้วใช้งานกุมารทองไปในทางชั่วร้าย ก็จะส่งผลให้กุมารทองเลียนแบบและทำเรื่องเลวร้ายตามไปด้วย ดังนี้ ตัวผู้เลี้ยงเองก็ต้องรักษาศีลธรรมให้ดีด้วย

ทำอย่างไรให้กุมารทองไม่เสื่อมอิทธิฤทธิ์อีกทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น

ต้องไม่ลืมว่า “กุมารทองไม่ใช่ทาส” ต้องเข้าใจว่า “กุมารทองเป็นเทวดาระดับวิทยาธร” ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์และวิชชาเฉพาะตัวระดับต้นเท่านั้น บุญบารมีน้อยกว่าเทวดาชั้นสูง แต่อยู่ใกล้ชิดกับคน อยู่ร่วมกับคนทั่วไปได้ ดังนั้น วิธีที่จะทำให้กุมารทองไม่เสื่อมอิทธิฤทธิ์ อีกทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มเติม จึงต้องเข้าใจการเกิดขึ้นของกุมารทอง ที่มาอาศัย “รูปขันธ์” คือ ตุ๊กตาเด็กชาย เขาย่อมมีวิสัยคล้ายเด็กชาย คือ ซุกซน และเฉลียวฉลาด มีความสนุกในการร่ำเรียน และมักเลียนแบบ “ผู้เลี้ยง” ประหนึ่งลูกที่ทำตามบิดาฉะนั้น ดังนั้น หากผู้เลี้ยงดูกุมารทองเข้าใจจิตวิญญาณของกุมารทองเช่นนี้แล้ว ย่อมสามารถอบรมสั่งสอนทั้งยังพัฒนาความสามารถของกุมารทองได้ดียิ่ง ดังนี้

๑. ต้องเป็น “แบบอย่างที่ดี” แก่กุมารทอง เพราะกุมารทองจะอยู่ใกล้ชิดเราตลอด การที่เรากินอะไรก็มักชวนกุมารทองมากินด้วย ทำให้กุมารทองต้องคอยดูแลเราอย่างใกล้ชิดนั่นเอง เพราะเขาบุญน้อย อาทิพย์ทิพย์มีจำกัด จึงอาศัยอาหารที่เรากิน หากเราอนุญาตเขาก็จะกิน “อาหารทิพย์” ซึ่งก็คือ มวลออร่าและพลังงานในอาหาร ซึ่งเป็นมวลพลังละเอียด ทำให้อาหารที่เรากินแม้นมีสารอาหารเลี้ยงร่างกาย แต่จิตใจของเราจะไม่มีพลังที่เรียกว่า “วิญญาณาหารหล่อเลี้ยง” ได้เหมือนกัน กุมารทองจะมารอกินกับเราจนติดเราเป็นนิสัย และจะคอยดูแลเราป้วนเปี้ยนรอบกาย และลอกเลียนแบบนิสัยเรา เราจะต้อง “ทำดีละเว้นความชั่วทั้งในที่ลับและที่แจ้ง” เพราะแม้นคนมองไม่เห็น แต่ “กุมารทอง” เห็นเรา ย่อมจะเลียนแบบนิสัยเรา เช่น หากเราขโมยของคนในที่ลับ กุมารทองทำตามก็จะขโมยของเราได้เหมือนกัน ดังนี้ หากเลี้ยงไม่ดี ก็วุ่นวายได้ จึงมักมีปัญหาคนเลี้ยงกุมารทองไม่ไหว เอามาคืนครูบาอาจารย์อยู่มากมายนัก บางท่านเป็นคนขาดเมตตาใช้กุมารทองทำร้ายคน ตนเองก็เป็นคนดุร้าย เมื่อนานวันเข้ากุมารทองก็มีนิสัยดุร้าย เมื่อตนเสื่อมวิชชา กุมารทองเกิดโมโหขึ้นมาก็ทำร้ายผู้เลี้ยงได้เหมือนกัน เฉกเช่น คนเลี้ยงสุนัข ยังมีโอกาสที่ถูกสุนัขกัดขบได้เช่นกัน

๒. เป็นคนที่ “สนุกในการเรียนรู้” อยู่ตลอดเวลา เพราะต้องไม่ลืมว่าตอนอัญเชิญเทวดามาสถิตเป็นกุมารทองนั้น เป็นดวงวิญญาณของ “วิทยาธร” ดังนั้น เป็นดวงวิญญาณที่ชอบการเรียนรู้อยู่แล้ว และมีบุญบารมีไม่มาก ความซุกซนจึงยังมีอยู่ การใช้ชีวิตประจำวันของผู้เลี้ยงกุมารทองจึงต้องมีความสนุกร่าเริงในการเรียนรู้ทุกอย่าง การทำงานทุกอย่างตลอดเวลา เพราะหากทำให้ดูน่าเบื่อไม่สนุกแล้ว กุมารทองก็จะเบื่อไปด้วย และไม่อยากมาทำงานช่วยเรา สำหรับท่านที่บูชากุมารทองเพื่อให้ช่วยเรื่องการค้าขาย จำต้องค้าขายให้สนุกสนาน ให้จินตนาการว่ามีเด็กเล็กๆ คนหนึ่ง คอยแอบมองดูเราและเลียนแบบเราตลอดเวลา ถ้าเราทำงานค้าขายสนุกสนาน พูดจาดีงามกับคนที่มาซื้อของ เขาก็จะทำตามเรา เลียนแบบเราบ้าง การค้าขายของเราจะเพิ่มทวีคูณมากกว่าสองเท่าทีเดียว เพราะกุมารทองนั้นมีอิทธิฤทธิ์มากกว่าเรา และกุมารทองจะคุยกับเทวดาประจำตัวลูกค้า สามารถดลใจให้แวะเข้ามาดูของในร้านเรา หรือดลใจให้ตัดสินใจซื้อของในร้านเราได้

๓. จำต้องฝึก “สมาธิอย่างต่อเนื่อง” เพราะทุกครั้งที่เรียกกุมารทองมากินอาหารนั้น อาหารที่เรากินจะเหลือเพียงสารอาหาร แต่อาจจะไม่เหลือพลังชีวิตหรืออร่าที่เรียกว่า “วิญญาณาหาร” ทำให้เรารู้สึกไม่อยากอาหารใดๆ เบื่ออาหาร อาหารอะไรก็จืดชืดไม่น่ากิน ร้ายแรงถึงขั้นไม่กินอาหารเอาเสียดื้อๆ ก็ได้ ในระยะแรกๆ อาจไม่รู้สึกตัว แต่เมื่อนานวันเข้า อาจเกิดปัญหาพวกนี้ได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้เลี้ยงกุมารทองได้เรียกได้อนุญาตให้กุมารทองกินอาหารทิพย์ คือ ออร่า หรือพลังชีวิตในอาหารไปแล้ว ตนเองจะได้เพียงสารอาหารไม่ได้พลังชีวิต จำต้องเพิ่มพลังชีวิตของตนเองเข้าไปด้วย การอยู่ในที่ๆ อากาศถ่ายเทและบริสุทธิ์ เช่น ตามท้องไร่ท้องนา มักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะออร่าจะพระแม่โพสพจะหล่อเลี้ยงให้กำลังชีวิตแก่ชาวนาตลอดเวลา แต่หากเป็นคนกรุงเทพฯ ที่อยู่แต่ในห้องแอร์แออัด ไม่ค่อยได้สัมผัสพลังชีวิต ชีวิตก็จะค่อยๆ ห่อเหี่ยว เบื่อง่าย มีคนรักก็เบื่อกันง่าย, กินอาหารก็เบื่อง่าย, ใช้สินค้าเสื้อผ้า ฯลฯ ก็เบื่อง่าย ดังนี้ จึงไม่แปลกที่จิตวิญญาณคนกรุงเทพฯ เรียกร้องหาแต่ “ของใหม่ๆๆ” อยู่เรื่อยๆ เพราะจิตวิญญาณของเขาขาดการหล่อเลี้ยงด้วยอาหารที่เรียกว่า “วิญญาณาหาร” หรือออร่าของเขาห่อเหี่ยวนั่นเอง ดังนี้ ให้แก้ไขด้วยการออกไปสูดอากาศในป่าบ้าง ในธรรมชาติ จะมีออร่าธรรมชาติหล่อเลี้ยงพลังชีวิต ให้จิตใจฟื้นคืนสภาพได้ การนั่งสมาธิในห้องก็สามารถรวบรวมกำลังจิต ประสานออร่าหรือพลังชีวิตที่หลงเหลือในเมืองกรุงเข้ามาหล่อเลี้ยงจิตใจได้เช่นกัน เป็น “ออร่าดวงอาทิตย์” หรือ พลังจักรวาลที่เรียกว่า “สุริยเทพ” นั่นเอง ดังนี้ ผู้เลี้ยงกุมารทองจึงควรนั่งสมาธิบ่อยๆ

๔. อย่าผิดครู “อย่าผิดสัญญา” ที่ได้รับปากครูบาอาจารย์ว่าจะดูแลเลี้ยงกุมารทองอย่างไร เพราะหากเราไม่ทำตามนั้นแล้ว กุมารทองอาจไม่อยู่กับเรา เพราะเขาไม่ได้ถูกเราผูกมัดด้วยอำนาจมนตรา แต่เราสื่อจิตอัญเชิญเขามาอยู่กับเราเฉยๆ หากเราเลี้ยงเขาไม่ดี เขามีทางใหม่ เขาก็ไปจากเราได้ เหมือนเราเลี้ยงแมว แล้ววันหนึ่งแมวก็หายไปจากบ้านเราฉะนั้น (แต่อย่าไปมองว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยงละ)





Link: คลิ๊กที่นี่

ตาต้น

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีดี

ณัฐจัง

      


สุดยอดเลย...ควรศึกษาและปฏิบัติอย่างแรงๆๆๆๆๆ


ขอทุกท่านโปรดอ่าน และเคร่งครัดในการปฏบัติตนเอง และต่อกุมารด้วย


ขอบคุณผู้เขียน และผู้นำมาเผยแผ่ด้วยครับ


 

babylove

คำเดียว ขอบคุณจากใจจริง  ขอบคุณค่ะ

พัดโบก

เป็นคำแนะนำที่ดีครับ ควรนำไปใช้อย่างมากครับ ขอบคุณครับ
Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view