ขอขอบคุณ คุณdewo, คุณพัช, คุณspiceza, คุณpreyyyy, คุณอ้วน นะครับ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 52 ผมได้รับโทรศัพท์จากแก๊งค์คนร้ายลวงให้เราโอนเงินทางบัตรเอ.ที.เอ็ม. โทร.มาหลอกลวงผม ต่อไปนี้คือคำสนทนาที่จะนำมาถ่ายทอด
คนร้าย: สวัสดีค่ะนี่จากกรมสรรพากร คุณได้รับเงินคืนภาษี กด 1.เพื่อฟังซ้ำ กด 9.เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
ผมกด 9
คนร้าย: สวัสดีค่ะ ดิฉันอรวรรณ จากกรมสรรพากร
ผม: สวัสดีครับ ผมได้รับเงินอะไรหรือครับ
คนร้าย: คุณบอกชื่อ นามสกุล และเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก ดิฉันจะดูให้ว่าคุณได้รับเงินอะไร
ผม: บาปกรรมนะคุณ หลอกลวงประชาชน
คนร้ายทำเสียงซ่าช่วงนี้ไม่ได้ยินว่าเค้าพูดอะไร แต่ได้ยินช่วงท้าย ๆ ว่า จะวางสายก็ได้นะคะ
จากนั้นคนร้ายก็ตัดสายทิ้งทันทีเมื่อผมรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมเค้า โทรศัพท์ที่ผมได้รับครั้งแรกเวลา 9.02 หน้าจอโชว์คำว่า \"(ไม่มีเบอร์) ผมรู้แล้วว่ามันคืออะไร ครั้งที่สองคนร้ายโทร.มาอีกเมื่อเวลา 14.30 น. หน้าจอโชว์ \"00000\" ก่อนหน้านี้หลายเดือนผมได้รับโทรศัพท์แบบเดียวกันนี้ แต่พอกด 1.เพื่อฟังซ้ำอีกครั้ง คนร้ายตัดสายทิ้งทันที คนที่มีเบอร์โทรศัพท์เริ่มต้นที่ 081 ให้ระวังไว้นะครับ เพราะคนร้ายสืบทราบมาว่าคนที่มีเบอร์ 081 นำหน้าคือพวกมีเงิน คนชั้นกลาง พอที่จะหลอกลวงให้โอนเงินให้คนร้ายได้ ต้องขอขอบคุณรายการ นาทีฉุกเฉิน ทางช่อง 5 ผมดูรายการนี้ อีกทั้งได้รับความรู้จากสื่ออื่นอีก เลยไม่หลงกลคนร้าย คนที่ถูกหลอก น่าสงสารเค้ามาก เงินที่เค้าเก็บมาทั้งชีวิต หมดไปชั่วกระดิกนิ้วกด enter เท่านั้นเอง หากใครหลงกล คนร้ายจะให้ไปที่หน้าตู้เอ.ที.เอ็ม. แล้วคนร้ายบอกให้กดตามที่คนร้ายบอกตามขั้นตอน ซึ่งหน้าจอจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น แก๊งค์คนร้ายเคยถูกจับยกแก๊งค์ในประเทศไทยนั่งกันหน้าสลอนทั้งหญิงทั้งชาย แต่นายใหญ่อยู่เมืองจีน เงินโอนไปให้นายใหญ่ ต่างประเทศก็ถูกหลอกเหมือนประเทศไทยเช่นกัน จับได้ก็จับไป ยังมีแก๊งค์อื่นอีก ฉะนั้นต้องรู้เท่าทันคนร้าย คนที่มีเบอร์ 081 ระวังตัวไว้นะครับ วันดีคืนดีคนร้ายอาจโทร.มากวนใจ หากคุณหลงกลคนร้ายนอกจากกวนใจแล้วยังกวนเงินในธนาคารคุณอีก หมดตัวแน่ ..........
ก่อนหน้าฤดูฝนนี้ ผมได้ให้ช่างตู่ ซึ่งเค้ามาก่อสร้างวัดของเจ้าอาวาสอยู่ เมื่อผมรับใช้ท่านเจ้าอาวาส ทำให้เราคุ้นเคยกัน ก็ให้ช่างตู่มาซ่อมหลังคาบ้านผม เมื่อช่างตู่เข้ามาในบ้านเห็นบรรดารักยม กุมารทอง ซึ่งอยู่บนหลังตู้เสื้อผ้า บ้านผมเนื้อที่จำกัดเลยต้องไว้บนหลังตู้เสื้อผ้า หากไว้บนหิ้งไม่มีเนื้อที่มากพอ ช่างตู่ก็เล่าว่าที่บ้านเค้าที่อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แม่เค้าก็เลี้ยงกุมารทองเหมือนกัน กุมารทองแม่ช่างตู่ชื่อ \"จุก\" ก่อนหน้านี้เจ้าจุกอาจารย์พระหรือฆราวาสเป็นคนสร้าง ไม่มีใครรู้ เพราะได้กันมาเป็นทอด ๆ เจ้าของรายไหนเจ้าจุกไม่อยากจะอยู่ด้วยจะทำให้บ้านหลังนั้นได้รับความเดือดร้อน ต่าง ๆ นานา จนเจ้าของต้องยกเจ้าจุกให้คนอื่น จนกระทั่งมาถึงเจ้าของรายหนึ่งบ้านอยู่ใกล้แม่ช่างตู่ ซึ่งเจ้าจุกก็บอกกับเจ้าของคนนั้นว่าเจ้าจุกขอมาอยู่กับแม่ช่างตู่ หลังจากเจ้าจุกมาอยู่กับแม่ช่างตู่ ช่างตู่ก็ไม่กลัวเจ้าจุกแต่ประการใด อาหารที่นำมาเซ่นเจ้าจุก ช่างตู่จะเอามากินคือแย่งเจ้าจุกนั่นเอง ตกกลางคืนเจ้าจุกก็มาแกล้งช่างตู่โดยดึงแขนบ้าง ขาบ้างไม่ให้นอน เล่นหยอกล้อกันอย่างนี้จนกระทั่งช่างตู่โต และเดินทางไปสร้างวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพราะช่างตู่ทำงานเฉพาะสร้างวัดเท่านั้น ช่างตู่สามารถผูกโครงลวดเป็นรูปมังกรพันเสาได้ แต่ยังไม่ได้พัฒนาถึงขั้นปั้น เจ้าจุกนี่มีคนข้างบ้านเห็นด้วยตาเนื้อ แรก ๆ ก็เป็นเด็ก ๆ จนกระทั่งโตขึ้นมาเรื่อย ๆ คนข้างบ้านเขาก็รู้ว่าที่บ้านแม่ช่างตู่เลี้ยงอะไร เพราะเขารู้ว่าในบ้านช่างตู่ไม่มีเด็กอาศัยอยู่เลย รอบ ๆ บ้านช่างตู่มีคนอิสลามอาศัยอยู่มาก เค้าเห็นเค้าก็รู้เพราะคนไทยเลี้ยงกุมารทองแน่ ๆ อยู่แล้ว พอฝนตกคนเค้าจะเห็นเด็กออกมาเล่นน้ำฝนในบริเวณบ้าน ผมโทร.คุยกับแม่ช่างตู่โดยตรงเลย แต่พอผมเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ผมก็โทร.หาแม่ช่างตู่เพื่อจะขออนุญาตมาที่บ้านเพื่อชมเจ้าจุก และได้พูดคุยกัน แต่แม่ช่างตู่ไม่รับสายเลย ไม่มีรูปเจ้าจุกมาให้ดูกัน เพราะผมจะขออนุญาตถ่ายภาพเจ้าจุกมาให้ชมกัน น่าเสียดาย .....
ในเมื่อช่างตู่เดินทางไปสร้างวัดทั่วประเทศผมก็ถามว่า มีประสบการณ์อะไรแปลก ๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง ช่างตู่ก็เล่าให้ฟังว่าสมัยที่เค้าไปสร้างวัดดอนไฟไหม้ จ.สุพรรณบุรี ช่างตู่ก็นอนอยู่ในที่พักคนร้ายที่ทำเป็นเพิงสังกะสีง่าย ๆ คงจะเคยเห็นกันนะครับ ปรากฎว่าประตูสังกะสีมันเปิดปิดเองเสียงดังเอี้ยดอ้าด เหมือนถูกลมพัด ทั้งที่ไม่มีลมเลย ช่างตู่ปากเปราะพูดว่าจะแสดงอะไรก็แสดงซิ มัวทำเสียงเอี้ยดอ้าดอยู่ได้ เมื่อช่างตู่ลองดี ก็มีดีให้ลอง ประตูสังกะสีเปิดเองดังโครมใหญ่ทันที ช่างตู่โดนของจริงนอนคลุมโปงทันที จนกระทั่งเช้า.........เรื่องที่สองเรื่องเกิดที่วัดคานหาม จ.สิงห์บุรี เจ้าอาวาสให้ไปนอนบนกุฎิหลังหนึ่ง ใต้กุฎิมีโลงศพเต็มไปหมด พอบรรดาพระทราบว่าช่างตู่จะนอนบนกุฎิหลังนี้ ก็ทำหน้าแปลก ๆ กัน ช่วงกลางวันก็ต้องเช็คไฟฟ้าว่ามันทำงานดีหรือเปล่า ดีทุกอย่าง ๆ พอเปิดไฟมันไม่ติด ทั้งที่ทุกจุดตรวจสอบดีแล้ว่ามีไฟฟ้าไหลผ่าน แต่พอเปิดสวิทซ์ ไฟฟ้ากลับไม่ติด น่าแปลกมาก ๆ จนแล้วจนรอดช่างตู่ไม่ได้นอนบนกุฎิหลังนั้น มาทราบภายหลังว่ากุฎิหลังนี้เจ้าของบ้านเค้ามีเรื่องฆ่าตายกันทั้งบ้าน คนมาอยู่ก็ไม่ได้ เลยนำมาถวายวัด แม้นว่าอยู่ในวัดพระก็ยังอาศัยนอนไม่ได้ แรงจริง ๆ แถมใต้กุฎิยังใช้เก็บโลงศพอีกต่างหาก เลยปิดกุฎิไว้เฉย ๆ ........ช่างตู่เล่าว่าบ้านเค้าแถวพรานกระต่าย มีงูจงอางอาศัยอยู่ชุกชุม ฉะนั้นบ้านทุกหลังจะไม่มีฝ้าเพดาน เพระจะเป็นที่อาศัยของงูจงอาง บ้านที่สร้างยกพื้นก็เช่นกันต้องปิดใต้บ้านให้มิดชิด จะปล่อยให้โล่ง ๆ ไม่ได้ เพราะงูจงอางจะไปอาศัย ชาวบ้านเมื่อไปเก็บเห็ดในตอนกลางคืน ตามัวมองตามพื้นดินเพื่อเก็บเห็ด ไม่ได้มองข้างบนต้นไม้ โน่นงูจงอางพันอยู่บนต้นไม้ เมื่อเข้าระยะประชิดอันตราย งูจงอางก็ป้องกันตัวเองกัดทันที คงไม่ต้องบอกว่าผลเป็นอย่างไรนะครับ เลยเป็นสูตรของหมู่บ้านนี้ใครก็ตามพบเห็นงูจงอางที่ไหน จะมาบอกกล่าวกัน ระดมชาวบ้านไปยิงงู มีอยู่คราวหนึ่งชาวบ้านระดมยิงงูจงอางที่เข้ามาอาศัยในบ้านคน ยิงยังไงก็ไม่ตาย มาตายกับของที่ไม่น่าจะตาย ตายกับหนังสะติ๊กครับ ผมก็ถามช่างตู่ว่าปืนที่ชาวบ้านระดมยิงกันเป็นปืนลูกซองหรือเปล่า ช่างตู่บอกว่าเป็นปืนแก๊ปเพราะการที่จะไปขอปืนลูกซอง ขอได้ยากมาก พองูจงอางตัวนั้นตาย ก็ไปเข้าทรงคนในหมู่บ้านว่ามายิงเจ้าพ่อทำไม และทีเจ้าพ่อตายไม่ได้ตายด้วยปืนหรอก มันยิงข้าไม่เข้าหรอก ข้าตายเพราะหนังสะติ๊กต่างหาก ผมก็ยังสงสัยหนังสะติ๊กอะไรยิงงูจงอางตายได้ ........ตัวช่างตู่เองก็เถอะมีอยู่ครั้งหนึ่งขี่จักรยานอยู่ตามถนน ปรากฎว่างูจงอางยาวประมาณ 4 เมตร มันยกตัวสูงขึ้นมาทันที เพื่อดูว่าอะไรมา ดีที่ช่างตู่ไม่เข้าระยะประชิดตัวมัน ไม่งั้นพวกเราคงไม่ได้มาฟังเรื่องเล่าจากช่างตู่ หากมีใครได้ดูรายการเรื่องจริงผ่านจอซึ่งออกอากาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีงูจงอางขนาดยาว 4 เมตร เข้าไปในบ้านข้าราชการบำนาญในจังหวัดทางเหนือ ผมเห็นแล้วนึกเห็นภาพของงูจงอางที่ช่างตู่เล่าให้ฟัง ช่างตู่เองเค้าก็ดูรายการดังกล่าวเหมือนกัน เค้าว่าตัวยาวขนาดนั้นแหละ ...... และยังมีอีกตัวยาวใหญ่มากอาศัยอยู่ในป่าไผ่ ชาวบ้านลงทุนเผาป่าไผ่มาหลายครั้ง ปรากฎว่ามันหนีรอดได้ทุกที พอถึงฤดูผสมพันธุ์จะได้ยินเสียงมันส่งเสียงเหมือนกับเสียงแตรรถยนต์ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังจัดการกับงูตัวนั้นไม่ได้ .......ช่างตู่ยังเล่าอีกว่ามีน้าหมานพกมีดหมอของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ชนิดเป็นปากกา ไปกับเพื่อนอีกคน ก็มีเรื่องกับคู่อริซึ่งมากันหลายคน เพื่อนที่ไปด้วยกันถูกตีสบักสบอม แต่น้าหมานแทงฝ่ายตรงข้ามได้ถึง 3-4 คน แสดงว่าฝ่ายตรงข้ามต้องมากกว่า 4 คน .....สำหรับเรื่องงูจงอางผมก็ออกความเห็นว่าทำไมไม่เชิญชาวบ้านหมู่บ้านโคกสง่าไปจับงูจงอางล่ะ เพราะหมู่บ้านนี้เลี้ยงงูจงอางไว้ใต้ถุนบ้านทุกหลัง แม้นกระทั่งเด็กตัวเล็ก ๆ ก็มีความสามารถจับงูได้........
เรื่องเล่าของผมมักจะขาดแคลนภาพประกอบ ฉะนั้นตอนนี้ผมขอโชว์บรรดาวัวและควายธนูที่ผมสะสมไว้ เพราะผมชอบสะสมมาก ทราบว่าวัดไหนมีผมจะเช่ามาหมด ก็ชมกันตอนท้ายเรื่องนี้ได้นะครับ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ.......