http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,951,567
Page Views33,388,641
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 31

(อ่าน 850/ ตอบ 8)

โกสินทร์

          คุณ dewo สรุปว่าการมีวัว,ควายธนูดีซิครับ ทำได้หลายอย่าง ส่วนใหญ่คนรู้จักกันว่าใช้กันผี นอกเหนือจากนั้นทำเสน่ห์ก็ได้ ทำน้ำมันต์ก็ได้ เป็นยามเฝ้าทรัพย์สินก็ได้ สัตว์เลี้ยงไม่สบายทำน้ำมนต์รดก็ได้ กันคุณไสยก็ได้ (คุณไสยในที่นี่หมายถึงทั้งที่ผู้มีวิชาเค้าทำขึ้นมาแล้วปล่อยมากับลมเฉย ๆ หรือมีคนเจตนาทำร้ายเราโดยเฉพาะ) ก็ให้พระรูปนั้นท่านตรวจดูซิครับว่าอยู่ตรงไหนของบ้าน ในเมื่อท่านตรวจสอบว่าในบ้านเรามีวัว,ควายธนู ท่านก็ต้องตรวจสอบได้ว่าอยู่ตรงไหนของบ้าน  วัว,ควายธนูมีสองชนิด (พูดจากประสบการณ์การเลี้ยงครับ) แบบแรกแบบสำเร็จคือที่พระตามวัดท่านปลุกเสกให้เรามาบูชากัน เราให้หญ้า ให้น้ำ หรือไม่ให้ก็ได้ แต่ชนิดที่สองแบบมีวิญญาณภายใน แบบนี้ผู้เลี้ยงต้องมีวิชา เกิดลืมหรือทำผิดกฎบางอย่าง เป็นได้เรื่องถึงชีวิต อย่างกรณ๊พลเอกคนหนึ่งมีชื่อในประเทศไทย เอ่ยชื่อรู้จักแน่ เค้าเสียชีวิตไปหลายปีแล้วด้วยโรคหัวใจวาย แต่พวกเราคนเลี้ยงวัว,ควายธนูต่างก็รู้กันว่า เค้าเลี้ยงวัว,ควายธนูชนิดมีวิญญาณแล้วทำผิดกฎ ก็เลยถึงแก่ชีวิต  ของคุณน่าจะเป็นวัว,ควายธนูแบบสำเร็จ หากเป็นแบบวิญญาณเค้าไปตั้งแต่ไม่ได้ให้หญ้า น้ำ ว่าคาถาบูชาแล้วล่ะ และแบบชนิดมีวิญญาณนี่สามารถตรวจสอบได้ พอถึงวันพระจะมีดวงไฟออกไปจากตัวหุ่น ผมสะสมมาหลายปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ยังไม่พบอาจารย์ที่เลี้ยงแบบมีวิญญาณเลย ส่วนใหญ่ท่านมักจะอยู่เงียบ ๆ คนภายนอกไม่รู้จักหรอก รู้กันแบบปากต่อปาก คุณสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิทุกคืน สิ่งเลวร้ายไม่เข้ามาแผ้วพานในชีวิตคุณหรอกครับ.......


          คุณ hanu-marn คงได้รับคำตอบผมแล้ว ประสบการณ์วัวธนูที่ผมได้ยินเสียงร้องผมเล่าไปแล้วในตอน 2 ลว. 22 ส.ค. 51 คุณคงไม่ได้อ่าน เรื่องเล่าของผมต้องอ่านตั้งแต่ต้น ไม่งั้นไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็พยายามจะบอกตอน เมื่อต้องอ้างถึงตอนที่กล่าวมาแล้วตอนที่แลวผมบอกเมล์ที่คุณจะติดต่อผมได้ พอกด send  เรื่องที่พิมพ์มาตั้งแต่ต้นหายหมดเลย ไม่รู้ไปกดปุ่มอะไรเข้า  ถอดใจว่าจะกลับบ้านแล้ว ดีแต่สมัยเรียนพาณิชยการพิมพ์ดีดเร็วเป็นทีหนึ่งของห้อง เลยปั่นใหม่ทำให้ผิดไปสามสี่แห่ง ผมเลยให้บอกเมล์คุณแทน ไม่กล้าบอกเมล์ผมเดี๋ยวจะหายอีก  คุณกลับไปอ่าน ตอน 7 ลว.24 ต.ค. 51 ผมกล่าวถึงอาจารย์บุญยัง ซึ่งเป็นอาจารย์หลวงพี่จรินทร์ สมัยผมจำพรรษาวัดถ้ำเสือ ผมกล่าวถึงควายธนูไว้ นอกจากนั้นผมเคยฝันว่ามีผี เข้ามาในรั้วบ้าน แต่ไม่ได้เข้าบ้านอยู่ในบริเวณบ้าน วัว,ควายธนูไล่ขวิดทันที ผีออกจากบริเวณบ้านทันที ผมยังจำความฝันนั้นได้อยู่เลย ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นของอาจารย์ท่านใด เพราะเลี้ยงไว้หลายตัว แต่เป็นเพียงความฝัน ผมเลยไม่เล่า แต่พอคุณถามว่าเลยขอถือโอกาสนี้เสริมซะเลย ผมก็ดีใจที่สิ่งเหล่านี้แสดงนิมิตให้ผมทราบว่าเค้าคุ้มครองผมอยู่แม้นในความฝันก็เถอะ.....


          ปัญหาคุณ lek  คุณ mark ก็ตอบไปแล้ว ผมขอเพิ่มเติมคุณทำหักเอง แสดงว่าวัวธนูยังไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณ mark บอก คุณดูซิว่าหลังจากคุณทำเขาหักแล้ว วัวธนูมาสื่ออะไรกับคุณบ้าง วัวธนูหลวงพ่อพุฒที่ถ่ายภาพมาให้ดูกันนั้น เขาก็เริ่มกิ่วทั้งสองเขาแล้ว ไม่นานก็คงหัก ทางวัดก็แก้ไขจากทำด้วยครั่งมาเป็นโลหะ ก็ยังไม่วายหักอยู่ดี .......


          คุณพัช เนสซี่ ก็สัตว์ธรรมดา ๆ อยู่คู่กับโลกเรามานี่แหละครับ คนละพวกกับพญานาค เรื่องไทย ๆ คราวหน้าผมจะนำเรื่องควายธนู มาเล่าให้ฟังสนุกและยาวด้วย น่าจะ 3 ตอน จบ ผมคงไม่ได้เมล์ไปหาคุณหรอกครับ มาเล่าเรื่องอย่างเดียว ก็อกสั่นขวัญระทึก ตั้งแต่มีไข้หวัด 2009 เข้าร้านเน็ตทีไร ใจสั่นระทึทุกที ไม่รู้วันไหนมันพิศวาสผมขึ้นมายุ่งเลย ดีที่ช่วงอายุผมมันเป็นอัตราเสี่ยงท้ายสุด ก็เลยรีบมารีบไป คนไม่มีคอมก็ลำบากอย่างนี้แหละ.....


            เรายังอยู่กับท่านฤาษีลิงดำ ท่านเล่าว่าจานบินมาจาก 2 แห่ง แห่งหนึ่งเป็นดาวเล็ก ๆ เลยพระศุกร์ไปทางซ้ายเล็กน้อยเรียกว่า จามรทวีป อยู่ในจักรวายเดียวกับเรา เป็นจานบินขนาดสูงไม่เกิน 4 เมตร สีเขียว ใช้เวลาเดินทางมาโลก 8 ช.ม. โลกนี้มีเพชรมีแก้วเกลื่อนกลาดเป็นของไม่มีค่า เอามาประดับตามโต๊ะเก้าอี้ คนของจามรทวีปผิวขาว เนื้อเต็ม สวย ผู้หญิงแต่งกายกางเกงรัดเหนือเข่า เสื้อแขนสั้นรัดแขนเป็นสีเขียว ๆ มีลายทางดิ่ง คนเมืองนี้ไม่มีอาวุธประหัตประหารกัน  มีวิทยาการก้าวหน้ามาก ที่เขามาโลกเราเพราะอยากเที่ยวไปทุกแห่งในจักรวาล แต่ที่ไปอเมริกาเพราะเห็นปล่อยจรวดบ่อย คิดว่าจะติดต่อด้วยได้ ที่เขาจับคนในโลกมนุษย์ไปเพื่อตรวจอารมณ์ด้วยเครื่องตรวจอารมณ์ ตรวจแล้วพบว่ามีความโลภอยู่มาก ระยะทางจากโลกเขากับโลกมนุษย์ห่างกันเป็นแสน ๆ โยชน์  สำหรับที่ตัวดาวพระศุกร์มีหลายบริเวณ ส่วนหนึ่งเป็นเขาหัวโล้น ร้อนจัดมาก อีกตอนหนึ่งหนาว มีหิมะ แต่มีสัตว์ขนยาวกว่าชะนีอาศัยอยู่มากในแดนอบอุ่นที่มีต้นไม้ อีกแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศพระอาทิตย์ขึ้น เยื้องไปทางซ้ายเล็กน้อย เรียกว่า สูตู คนในโลกนั้นมีผิวคล้ำ ยานของเขามีขนาดสูงไม่เกิน 10 เมตร มีสีเหลือง ๆ ใช้เวลาเดินทางมาโลกเรา 17 ช.ม. ในตัวจานบินดูแล้วไม่มีอะไร มีลูกกลม ๆ ใส ๆ เป็นแหล่งพลังงาน.......


          เรื่องที่สองเป็นเรื่องของท่านไพบูลย์ สุมงฺคโล วัดอนาลโย พะเยา ท่านเล่าว่าในวัยเด็กที่อ.เกาะคา ลำปาง วันหนึ่งท่านชวนเพื่อนไปวิ่งเล่นแถวสนามบิน ซึ่งหลังสงครามโลกแล้ว ด้านหนึ่งก็รกร้างอยู่ มีหญ้าสูงมีซอกมุม มีซากเครื่องบินทิ้งรกร้างอยู่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นซ่อนหาของเด็ก ท่านหลบอยู่สักครู่ สายตาก็มองสอดส่ายหาเพื่อน รอบตัวราวกับมีฝาผนังมาห้อมล้อมเป็นที่กำบัง จึงค่อนข้างมืด เห็นแต่แสงสว่างบนศีรษะลอดผ่านลงมา ท่านมองตรงแสงสว่างนั้น ไม่นานก็ประหลาดใจที่เห็นวัตถุอย่างหนึ่งลักษณะกลมแบนใหญ่โตมาก ลอยนิ่งอยู่บนฟ้า ดูไปสักครู่ก็เห็นสิ่งนั้นเคลื่อนตัวช้า ๆ ลอยเลื่อนลงมา ท่านมองนิ่งอยู่ มีความคิดว่าสิ่งนั้นดูเหมือนจะลอยนิ่งเข้ามา ท่านมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในภวังค์ ได้แต่มองภาพสิ่งนั้นลอยใกล้เข้ามา เอ๊ะมันลอยลงมาหาเรานี่ เป็นความคิดที่สว่างวาบในใจ ท่านกระพริบตาถี่ ลืมตาใหม่ก็เห็นชัดอย่างนั้น แถมอาการเคลื่อนตัวก็เพิ่มความเร็วขึ้นมาก วัตถุลักษณะกลมแบนนั้น มีแสงสว่างรอบตัวของมัน ยิ่งใกล้เข้ามา ก็ยิ่งสว่างจ้าขึ้นเท่านั้น


           ท่านลืมนึกถึงเรื่องซ่อนตัว คิดอย่างเดียวว่าต้องหนี ท่านกระโจนออกจากที่ซ่อน วิ่งไปตามสนามบิน เมื่อเงยหน้ามองฟ้าก็ตกใจเพราะวัตถุสิ่งนั้นก็ลอยตามท่านมา ท่านวิ่งไปอีกทางหนึ่ง วัตถุนั้นก็เคลื่อนตัวตามไปอีก คราวนี้ท่านนึกถึงเพื่อน ก็ตะโกนเรียกเพื่อน วิ่งล้มลุกคลุกคลานไป โดยมีวัตถุใหญ๋คล้ายยานอวกาศลอยตามไป สุดท้ายท่านล้มนอนหงาย เพื่อนสนิทตามมาถึง เห็นเพื่อนร้องเอะอะก็ซักถาม ท่านจึงชี้ระล่ำระลักให้เพื่อนดู ทุกคนตกใจที่เห็นภาพนั้น ช่วยกันโห่ไล่ ทั้งกลัว ทั้งตกใจ น่าแปลกที่ว่าภาพวัตถุลักษณะยานอวกาศที่ลอยตามท่านมานั้น สุดท้ายก็หายไป.......


              เรื่องที่สามนี่สำคัญมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมสนใจเรื่องจานบิน ก็แม่ผมเห็นด้วยตัวเองนี่ครับ ไม่เชื่อแม่แล้วจะเชื่อใคร เกิดขึ้นในสม้ยผมยังไม่เกิดที ช่วงใกล้เคียงกับสงครามโลกครั้งที่สอง สถานที่เห็นริมแม่น้ำ ลักษณะที่เห็นมันลอยพริ้ว พลิกซ้ายที ขวาที ลักษณะที่แม่ผมทำมือประกอบเหมือนใบไม้ร่วงจากต้นหล่นลงสู่พื้น ผมก็เก็บความสงสัยนี้ไว้จนกระทั่งพบน้าหยงเพื่อนรุ่นน้องแม่ ผมเห็นว่าเคยอยู่บริเวณเดียวกัน ก็ถามถึงเรื่องนี้ น่าอัศจรรย์ใจอะไรเช่นนั้น น้าหยงบอกทันทีว่าแกไม่เห็นหรอก แต่พี่สาวแกเห็น และไปเที่ยวพูดให้ใครต่อใครถึงเรื่องนี้ จนกระทั่งเค้าหาว่าแกบ้า นี่ล่ะไปเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเค้าเห็นกัน ก็โดนว่ายังงี้ แม่ผมถึงปิดปากเงียบเล่าเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น ผมก็ดีใจว่าสิ่งที่แม่เห็น พี่สาวน้าหยงก็เห็นด้วย น่าจะเห็นใวนคราวเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม่ผมไม่ได้ตาฝาดแต่ประการใด    สมัยผมเป็นเด็กก็มีเหตุการณ์หนึ่ง ดึกสงัดของคืนหนึ่งยายผมปลุกให้ลุกขึ้นมา แล้วบอกว่าเมื่อสักครู่ คนในบ้านเห็นดวงไฟใหญ่ลอยในท้องฟ้า ลอยจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ไม่มีเสียง ยายผมให้ผมเขียนบันทึกเอาไว้ ระบุวัน เดือน ปี และเวลา ที่เห็น ยายผมนี่น่ารักจริง ๆ ทำให้ผมจำเหตุการณ์นั้นได้ เพราะผมเป็นคนบันทึกเรื่องราว แต่ผมไม่น่ารักเพราะไปทำบันทึกฉบับนั้นหาย น่าจะเป็นเพราะบ้านผมย้ายบ้านถึงสองครั้งสองคราว เวลาย้ายสมัยก่อนก็ใช้ระบบขนส่งของ ร.ส.พ. ซึ่งถูกฝนขณะขนย้าย หรือผมทำบันทึกหายเองก็ไม่ทราบได้ ช่วงนั้นยังเด็กอยู่เลย เมื่อผมกลับไปสถานที่นั้น ผมก็ไปถามคนเก่าแก่คือป้าฟุ้ง แกจำได้อีก แกก็สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอุกกาบาตมากกว่า เพราะแกเป็นคนเห็นด้วยเหมือนกัน..........


          จนกระทั่งเมื่อ 3 ม.ค. 52 ผมไปจัตุจักรพร้อมกับลูกและหลาน ก็ไปพบคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าภาพถ่ายจานบินหลาย ๆ ภาพ ผมเห็นภาพจานบินก็นึกถึงเรื่องแม่ผมเล่าให้ฟังเลยเข้าไปคุยด้วย ผู้ชายสองสามคนไม่พูดด้วย เพราะเป็นญี่ปุ่น ผู้หญิงมาพูดด้วย คงเป็นล่ามของญี่ปุ่น ผมก็บอกว่าแม่ผมก็เห็นจานบินเหมือนกัน ก็บอก สถานที่ จังหวัด ระยะเวลากี่ปีมาแล้วที่เห็น ญี่ปุ่นสนใจมาก เค้าก็ซักถาม แต่มาทราบจากลูกและหลานผมว่า ล่ามผู้หญิงแปลจากไทยเป็นอังกฤษ และอังกฤษเป็นไทย ภาษาไม่สมบูรณ์แบบ เก็บรายละเอียดไม่หมด ลูกและหลานผมจะแปลโดยไม่ผ่านล่ามก็จะเป็นการหักหน้าล่ามอีก เลยฟังล่ามแปลฝ่ายเดียว ฝ่ายล่ามก็ดูท่าจะรู้ว่าลูกและหลานผมฟังอังกฤษได้ดี เค้าก็อ้อมแอ้ม ๆพูดไม่ถนัดปาก เลยสื่อสารกันไม่สมบูรณ์แบบแบบเจาะลึก ความรู้ที่ได้ก็เพียงผิวเผิน ก็สรุปคร่าว ๆ ว่าที่เค้ามาเมืองไทย เพราะต้องการให้ทุกคนในโลกรักกัน ไม่อยากให้เกิดสงครามโลก เพราะมันเกิดมาแล้ว 2 ครั้ง พอผมเริ่มซัก ญี่ปุ่นก็เสนอให้ผมอ่านหนังสือสาส์นจากต่างดาว แต่งโดยราแอล เพราะสิ่งที่ผมอยากรู้อยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ผู้แต่งไปพบมนุษย์ต่างดาวบนเขาลูกหนึ่งในต่างประเทศ เค้าก็เลยนำมาถ่ายทอดให้ชาวโลกได้รับรู้ สังคมของพวกเค้าในไทยก็มีแต่เงียบ ๆ หากฉาวโฉ่เดี๋ยวจะถูกว่าแบบพี่สาวน้าหยงอีก เรื่องราวในหนังสือจะกล่าวถึงเค้าไปพบมนุษย์ต่างดาวที่ไหน, โมเสส, ศาสนาคริสต์, ศาสนาพุทธ และศาสนาอื่นอีก ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำได้ขนาดไหน มนุษย์เรารบกันตั้งแต่ยุคหินจนถึงยุคปล่อยยานอวกาศ ก็ยังรบกันไม่เลิกตามภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก.........


          ก่อนผมจะเล่าเรื่องแม่ผมเห็นจานบิน ผมกลัวจัง กลัวถูกหาว่าเหมือนพี่สาวน้าหยงถูกต่อว่า แต่ไม่อยากให้เรื่องราวเหล่านี้รู้เฉพาะพวกเราในครอบครัว คิดเสียว่าหากแม่คุณเล่า คุณจะเชื่อเรื่องเหล่านี้ไม๊ .....ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ.....


 


lek

lek

ที่วัดยังมี วัวธนูที่ทันหลวงพ่อพุฒ อยู่ไหมครับ

เอม

อยากรู้เรื่องพญานาค ใรแม่น้ำโขงครับ หรือบั้งไฟพญานาคครับ ไม่อยากรุเรื่องประวัติอ่าครับ

ลิโป้

ถึงเนื้อเรื่องจะยาวแต่ก็อ่านสนุกดีครับ

ลิโป้

ลืมบอกไปว่าจะทำรวมเล่มเมื่อไรครับ

dewo

บางทีสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่เสมอไป


ส่วนเรื่องควายหรือวัวธนูนั้นเลิกหา เเล้วก็เลิกสนใจเเล้วค่ะ อะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด เพราะทุกวันนนี้ก็สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวันอยู่เเล้วค่ะ


แล้วเรื่องพญานาคในส่วนตัว ค่อนข้างจะเชื่อมากเลยค่ะว่ามีจริงเพียงเเต่เราไม่สามารถสัมผัสหรือเห็นได้เพียงเท่านั้นเอง


ได้ฟัง ตา กะ ยาย เล่ามาก็เยอะพอสมควร ที่เชื่อก็เพราะว่าบ้านอยู่ นครพนมค่ะ อยู่ อ. ธาตุพนมเลย มีเรื่องเล่าที่จริง เเล้วได้เห็นอะไรมามากมาย 


 

พัช

คุณโกสินทร์ พัชยังคงเข้ามาติดตามอ่านเรื่องของคุณอีกเหมือนเคยนะค่ะ เรื่องมนุษย์ต่างดาว จานบินนั้น พัชเชื่อ เพราะพัชเชื่อพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้ตรัสรู้ และมีบันทึกเรื่องเช่นนี้ไว้เหมือนกัน อยากให้คุณโกสินทร์นำเรื่องต่างๆมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อยๆนะค่ะ ^^


คงต้องให้คุณ dewo มาเล่าเรื่องพญานาคให้ฟังมั่งแหละ

อ้วน

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view