http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,957,374
Page Views33,394,452
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 32

(อ่าน 870/ ตอบ 2)

โกสินทร์

          ขอบคุณครับคุณพัชและคุณอ้วน.....คุณเล็กผมไม่ทราบครับว่าวัวธนูหลวงพ่อพุฒ ที่สร้างสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ยังมีอยู่หรือไม่ ของผมก็ให้น้องผมไปเช่าที่วัด นานหลายปีแล้ว......คุณลิโป้ ผมไม่ทำรวมเล่มครับ จะเล่าไปเรื่อย ๆ เป็นธรรมทาน ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ .....คูณdewo ดีแล้วครับเลิกสนใจในสิ่งที่หาไม่พบ ปฎิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ พบแสงสว่างของชีวิตเอง    รบกวนคุณมาเล่าเรื่องพญานาคในมุมมองของคุณ ประสบการณ์ของคนท้องถิ่นรับฟังไม่ได้ง่าย ๆ นัก.......คุณอม พญานาคนี่ผมต้องยกให้เรื่องของหลวงปู่คะนิง วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ท่านเดินทางไปเมืองใต้บาดาลถิ่นพญานาคด้วยกายเนื้อ เรื่องยาวมาก  เรื่องที่รองลงมาก็มีร่องรอยพญานาคที่วัดบ้านพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ก็มีรอยเลื้อยพญานาคยาว 5 เมตร กว้างเท่ายางรถยนต์, ที่วัดจอมนาง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ก็มีรอยยาว 1 เมตร กว้างขนาดล้อรถยนต์พาดผ่านฐานพระพุทธรูป ที่วัดนี้เจ้าอาวาสฝันว่ามีหญิงลาว 2 คน มาบอกให้คนล้างบรรได เพื่อเค้าทั้งสองจะได้มากราบไว้พระพุทธรูปในพระอุโบสถในวันใกล้ขึ้น 15 ค่ำ ก็ในวันออกพรรษานั่นล่ะ (ถึงตอนนี้ผมนึกถึงเรื่องที่ท่านเจ้าอาวาสของผมเล่าว่า อย่าไปนอนขวางพระพุทธรูปในพระอุโบสถ เพราะยามดึกจะมีเทวดามากราบไหว้พระพุทธรูป ดังที่ผมเล่าไว้ในตอน 25 ลว. 13 ก.ค. 52) รอยที่เห็นมักจะเห็นในวันออกพรรษาในหนองคาย, ข้ามมาฝั่งลาววัดหนองคำแสน แขวงเวียงจันทน์ ตรงกับกับหนองคาย ชาวบ้านเขาเชื่อว่าเขาเป็นลูกหลานพญานาค ที่ใต้ฐานพระพุทธรูปวัดนี้มีรูเล็ก ๆ เชื่อว่าเป็นรูพญานาค ทะลุเมืองบาดาลได้, วัดนาคใหญ่ แขวงเวียงจันทน์ มีฆ้องใช้ตีเมื่อมีเภทภัย ต่อมาฆ้องนี้หายไป ว่ากันว่ามีประตูติดต่อกับเมืองบาดาล แต่ถูกวิหารสร้างทับไว้, วัดไทยในอ.โพนพิสัย  ก็เชื่อว่ามีทางลัดสู่เมืองบาดาลเหมือนกัน และที่ฮือฮาเมื่อหลายปีมาแล้วมีภาพทหารอเมริกันแบกปลาออร์ฟิซ ราว 30 คน แล้วมีคนมาขายภาพดังกล่าวอ้างว่าเป็นพญานาค ซึ่งปลาออร์ฟิซเป็นปลาอยู่ในมหาสมุทรลึก แต่พญานาคอยู่ในน้ำจืด คนละเรื่องเลยแต่โยงเข้ามาหากัน สำหรับปลาออร์ฟิซนี้ที่อินโดนีเซียก็เคยพบเห็นออกข่าวในโทรทัศน์เมื่อหลายปีมาแล้ว  ....ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราคงได้เห็นพญานาคกัน เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนนิยมติดตั้งกล้องวงจรปิด คงเห็นเข้าสักวัน แต่ละปีก็จะมีรอยเลื้อยพญานาคที่ในบ้านบ้าง บนหลังคารถยนต์ หรือบนกระโปรงรถยนต์บ้าง  เรื่องต่าง ๆ คุณก็คงทราบแล้ว ผมขอกล่าวพอเป็นสังเขป เดี๋ยวจะกลายเป็นเอามะพร้าวมาขายสวน.......


          เมื่อประมาณสัก 20 ปีมาแล้วผมทราบข่าวเรื่องราวของควายธนูที่น่าสนใจมาก เพราะผู้เล่าเป็นตัวตนจริง ๆ พ่อของเค้าเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องของปู่คุณพรทิพย์เสกควายธนูป้องกันทรัพย์สิน คุณพรทิพย์ยินดีให้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ผมทราบเรื่องนี้ก็เวลาล่วงเลยไปแล้วเกือบ 10 กว่าปี ก็ลองสอบถามไปดู ไม่ได้รับคำตอบ เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าของคุณพรทิพย์ครับ......


          เมื่อประมาณ 70 ปีเศษมาแล้ว พ่อมีอายุ 6-7 ปี อยู่กับคุณปู่และคุณย่า ที่หมู่บ้านเนินทราย ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน นครปฐม พ่อมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหญิงและชายรวม11 คน พ่อเป็นลูกสุดท้องของคุณย่า คุณปู่มีนาข้าวจำนวน 200 ไร่เศษ และได้แบ่งให้พวกพี่สาวและพี่ชายของพ่อ ซึ่งแต่งงานไปแล้ว 5 คน คนละ 20 ไร่ คุณปู่คงเหลือที่ดินอีก 100 ไร่เศษ (ปัจจุบันเป็นพุทธมณฑลไปแล้ว) ที่ดินนาข้าวของคุณปู่ที่กล่าวมาแล้วอยู่กลางทุ่งกว้าง สมัยนั้นการคมนาคมยังไม่เจริญ ถนนหนทางไม่มี รถยนต์ไม่มี มีแต่เกวียนซึ่งเทียมด้วยควาย 2 ตัว ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้น หากมีกิจธุระทางกรุงเทพฯ หรือนครปฐม ถ้าเป็นฤดูแล้ง ก็ต้องเดินไปโดยสารรถไฟที่สถานีรถไฟศาลายา หรือวัดสุวรรณแล้วแต่กรณี หากเป็นฤดูน้ำ ก็ต้องพายเรือไปตามทางในนาข้าวทะลุออกคลองขวาง แล้วไปออกคลองภาษีเจริญ หรือคลองขุดไชยพฤกษ์ แล้วแต่ทางไหนจะใกล้กว่ากัน


          ชาวบ้านในหมู่บ้านนั้น เมื่อถึงฤดูทำนาข้าว ก็จะเว้นที่ดินไว้เป็นทางเรือ คนในตำบลกระทุ่มล้มนั้น อยู่กันด้วยความสามัคคีธรรม ไม่มีการวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน หากจะมีบ้าง ก็แต่การโต้เถียงเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณปู่ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ก็จะทำการไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน โดยไม่ต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน คนร้ายที่เรียกว่าขโมยเล็กขโมยน้อยไม่มี เมื่อถึงฤดูแล้งเลิกจากการทำนาแล้ว ที่บ้านคุณปู่และชาวบ้านใกล้เคียงปล่อยควายให้กินหญ้ากลางทุ่งนาจนมืดค่ำจนถึงเวลาคนจะนอน จึงจะออกไปไล่ต้อนควายกลับบ้าน


          สมัยนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญ คนในสมัยนั้นเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจ และคุณไสยว่ามีจริง ยิ่งไกลปืนเที่ยงออกไป ก็ยิ่งเชื่อมากขึ้น ที่ว่าไกลปืนเที่ยงนั้น คืออยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพราะในสมัยนั้นถึงเวลาเที่ยงวัน ทางราชการเขาจะยิงปืนใหญ่ 1 นัด บอกเวลาเที่ยงวัน ในสมัยนั้นตามชนบทยังไม่มีนาฬิกาใช้ บ้านของคุณปู่คุณย่าอยู่ตำบลบางขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี นครปฐม คุณตาและคุณยายของพ่อซึ่งเป็นทวดของดิฉัน เป็นคนชาวสวน คุณตาทวดมีสวนหลายไร่ เป็นสวนผลไม้บ้าง และเป็นที่ดินว่างเปล่าบ้าง ที่ดินว่างเปล่าไว้สำหรับปลูกกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้า แต่คุณตาและคุณยายทวดไม่ได้ทำเอง มอบให้ลูก ๆ ซึ่งเป็นน้าของพ่อทำกันเอง คุณตาทวดเป็นหมอรักษาไข้แผนโบราณ ส่วนคุณยายทวดเป็นหมอตำแยทำการคลอดบุตรให้กับชาวบ้าน


          เมื่อถึงฤดูน้ำประมาณเดือน 11-12 คุณย่าจะพายเรือลำปั้นจากตำบลกระทุ่มล้มไปเยี่ยมคุณตา และคุณยายทวด ซึ่งเป็นแม่ของคุณย่าอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ได้เอาพ่อไปด้วย และฝากคุณตาทวดไว้ เพื่อให้คุณตาทวด ส่งพ่อเข้าโรงเรียนที่วัดกลางบางแก้ว หลังจากนั้นพอนานวันเข้า พ่อก็คุ้นเคยกับลูกศิษย์วัด โรงเรียนเลิกตอนเย็น พ่อขี้เกียจเดินกลับไปบ้านคุณตาทวด ก็เลยนอนค้างคืนเสียที่วัด แต่วันไหนจะค้างคืนกับเพื่อนที่วัด พ่อจะต้องบอกคุณตาทวดเสียก่อน มิฉะนั้นอาจโดนไม้เรียวจากคุณตาทวดได้ วันไหนเป็นวันโกน พ่อจะต้องบอกคุณตาทวดไว้เลยว่าจะนอนค้างที่วัด เพราะจะต้องช่วยเพื่อนลูกศิษย์วัด ขัดถาดทองเหลือ 2 ใบ พร้อมฝาบาตรและตีนบาตร ซึ่งเป็นทองเหลืองให้สุกสะอาด เป็นเงางาม ลูกศิษย์วัดต่างคนต่างขัดประกวดประชันกัน รุ่งขึ้นเช้าวันพระจะได้นำเอาถาดบรรจุถ้วยสำหรับใส่กับข้าวถาดละ 7 ใบ พร้อมด้วยบาตรไปตั้งบนศาลา เพราะวันพระชาวบ้านเขาจะมาทำบุญกันบนศาลา พระภิกษุก็จะลงไปฉันอาหารที่ศาลา ถ้าบาตรและฝาบาตรตีนบาตรและถาดของใครไม่สะอาด เมื่อพระฉันเสร็จแล้วกลับไปมีหวังโดนไม้เรียว จนมีคำพังเพยว่า วันโกนโดนไม้เรียววันพระฉะข้าวเหนียว แต่ความจริงวันโกนไม่ได้โดนไม้เรียวดอก ไปโดนเอาวันพระ แต่วันโกนเป็นต้นเหตุที่ขัดบาตร ฝาบาตร ตีนบาตรไม่สะอาด พระท่านคงจะนึกอายชาวบ้านที่มาทำบุญ จึงลงโทษเอาไว้เพื่อให้เข็ดหลาบ สมัยนั้นโรงเรียนต้องอาศัยศาลาวัดเป็นที่เรียน ถึงวันโกนวันพระจึงต้องหยุดโรงเรียนเพราะชาวบ้านมาทำบุญกันบนศาลา และนักเรียนส่วนมากก็เป็นลูกศิษย์วัดโรงเรียน ไม่ได้หยุดวันเสาร์อาทิตย์ เหมือนสมัยนี้


          แหมขอขัดจังหวะ นี่ก็ใกล้จะออกพรรษาแล้ว ได้เห็นบรรยากาศของชนบท  ธรรมชาติของวิถีชาวบ้านไทย เรื่องยังมีมากครับ ค่อยมาอ่านกันสัปดาห์หน้านะครับ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ.......


 


 


fReyyyy

ก่อนจะอ่าน ต่อ ผมขอโพสก่อนเลยแล้วค่อยอ่าน เพราะผมก้อได้ไปไล่อ่านติดตาม มาตั้งแต่ ตอนที่1 จนถึงปัจจุบัน เข้าจังหวะช่วงนี้พอดีเลยที่ผมไปไล่อ่าน หาข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับ พญานาค ทั้งที อ.โพนพิสัย และที่ เมืองคำชะโนด ช่างเหมาะเจาะ กับเรื่องตอนนี้ของคุณโกสินทร์เสียจิงๆ

   หายไปนานหลายอาทิตย์เลย กว่าจะได้มาเล่าต่อ ยังติดตามอยู่ตลอด และเป็นกำลังใจให้พี่คับ

lek

ขอบคุณครับ
Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view