http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,993,445
Page Views33,430,798
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

 


เรื่องเล่าจากโกสินทร์ ตอน 34

(อ่าน 673/ ตอบ 2)

โกสินทร์

          คุณ freyyyy เลี้ยงวัว,ควายธนูของอาจารย์อะไรครับ หากผมไม่มีจะได้เก็บไว้บ้าง ไม่ว่าวัดไหน ผมเก็บหมดขอให้รู้เถอะ บางทีหลงหูหลงตาผมไปบ้าง บอกเฉพาะชื่ออาจารย์ผู้สร้างก็พอ.....เมื่อ 20 ปีมาแล้ว มีอาจารย์ฆราวาสท่านหนึ่ง สมัยบวชท่านฝึกนั่งสมาธิจนสามารถถอดกายทิพย์ได้ เมื่อสึกออกมาก็นำความรู้ตรงนี้มาช่วยเหลือผู้คนที่ประสบเคราะห์กรรม จนกระทั่งคืนหนึ่งขณะที่อาจารย์นอน จู่ ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างมาชนตัวบ้านจนกระเทือน อาจารย์กำหนดจิตดูก็รู้ว่ามีคนมีวิชาซึ่งเป็นฝ่ายอธรรมได้ปล่อยควายธนูมาลองของ เพราะการที่อาจารย์ไปช่วยเหลือผู้คน ทำให้การทำงานของหมอผีไม่สัมฤทธิ์ผล เค้าก็เลยส่งควายธนูมาทำร้าย แต่ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ อาจารย์ก็ไม่เป็นอะไร อาจารย์ก็แก้ไขตามกรรมวิธีของอาจารย์ไป ควายธนูก็แค่มาชนตัวบ้าน ไม่สามารถเข้ามาในบ้านได้.....


          เมื่อกลางคืนของ 21 ต.ค. 52 ขณะผมไปธุระนอกบ้าน เมื่อกลับมาที่รถก็มีน้องผู้หญิงนำแผ่นกระดาษเล็ก ๆ มาปิดตรงที่ปัดน้ำฝน ผมก็เข้าไปอ่านและคุยกับน้องเค้า ทราบว่าทางคริสตจักรเค้าได้เชิญ ศจ.ดร.มัทธิว คูรูวิลล่า ชาวอินเดีย มารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้บรรดาผู้คนโดยไม่คิดค่าบริการ และไม่จำกัดศาสนา โดยใช้พลังของพระเจ้าผ่านร่างดร.มัทธิว เพียงแต่เราเปิดใจให้กว้างรับการรักษานั้น แม้นกระทั่งผู้ที่ต่อต้านหรือเรียกว่าอยากลองของ ก็ได้รับการรักษาหายมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาคริสต์ ผมก็บอกกับน้องเค้าว่าหากสนใจอยากจะพูดกับดรงมัทธิวเป็นการส่วนตัวได้ไม๊ น้องเค้ารับว่าได้เค้าอาสาจะเป็นล่ามให้ผม ผมว่ามีคนมาร่วมงานเป็นพันคน ผมจะเข้าไปคุยส่วนตัวได้ไง น้องเค้าก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเค้าทำได้ อยู่ที่ตัวผมจะไปจริงหรือเปล่า ก็ตกลงกันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไปวันไหน เพราะเค้ามีหมายกำหนดการช่วยเหลือผู้คนถึง 3 วัน  เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมอยู่ในตัวบ้านจะออกไปด้านนอกตัวบ้าน ปรากฎว่าลูกบิดประตูมันล็อคจากภายนอก ไม่สามารถเปิดประตูจากภายในได้ ผมก็คิดว่าจะออกไปอีกประตูหนึ่ง ประตูกลับเปิดล็อคได้ พอผมจะออกมันก็ล็อคออกไม่ไดอีก เป็นอยู่อย่างนี้เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับผมอยู่พักใหญ่  ผมชักเอะใจวันนี้มันยังไง ประตูนี้เคยเข้าออกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน วันนี้มันเป็นอะไร นึกถึงเหตุการณ์ทีไปคุยกับน้องเค้า แหมมันเข้าเหตุการณ์พอดี  หากคิดกลาง ๆ มันคงเป็นเพราะสายยูประตูด้านนอก พอผมเข้าบ้านความแรงที่ผมดึงประตูมันก็คงจะล็อคโดยอัตโนมัติ ทำให้ออกไม่ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุอันใดแน่ หรือโรคภัยไข้เจ็บของผมที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2540 มันเป็นสิ่งลี้ลับ พอจิตเราตั้งใจจะไปรักษากับดร.มัทธิว มันเลยกลัวไม่ให้ผมไปรับการรักษา แหมเหมือนกับหนังผีฝรั่งยังไงยังงั้นเลย หรือประตูมันล็อคเองตามธรรมชาติ ก็แล้วแต่จะคิด เล่าสู่กันฟังแค่นั้นเอง ..........


          เรามาต่อเรื่องควายธนู ตอนจบกันเลยนะครับ  เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่รับประทานอาหาร คุณตาทวดก็บอกกับคุณตาพุดว่า วันนี้เอ็งไปธุระกับข้าหน่อย ตาพุดถามว่าไปไหนพ่อ คุณตาทวดตอบว่าไปบ้านทิดเขียว เมื่อวานมันมาหาบอกให้ไปดูไข้ลูกชายมัน พอทานข้าวเสร็จ คุณตาทวดกับตาพุดก็เดินออกจากบ้านไป โดยตาพุดสะพายกระเป๋ายาของคุณตาทวดไปด้วย พ่อก็เดินตามไปด้วย แต่ตาพุดห้ามไม่ให้ไป คุณตาทวดก็พูดว่ามันจะไปก็ช่างมันเถอะ พอไปถึงบ้านตาเขียว ก็เห็นตาเขียวกับญาตินั่งคอยกันอยู่แล้ว และเห็นนายทองกับนายมากนอนคลุมผ้าห่มอยู่ คุณตาทวดจึงถามว่ามึงเป็นอะไรวะ นายทองยกมือไหว้ คุณตาทวดแล้วตอบว่ามันเจ็บที่ชายโครงด้านหลังเหมือนกับผึ้งต่อย แต่ปวดกว่าผึ้งหลายเท่า คุณตาทวดจึงเลิกผ้าห่มออกดู พ่อก็เข้าไปดูบ้าง เห็นที่ชายโครงของนายทองกับนายมาก มีรอยห้อเลือดเป็นจุด ๆ  คุณตาทวดจึงถามว่ามึงไปทำอะไรกันมา นายทองตอบว่าเดินผ่านสวนของพ่อหมอมา คุณตาถามว่าเข้าไปในสวนหรือเปล่า นายทองตอบว่าเข้าไป คุณตาทวดถามต่อไปว่าเข้าไปทำไม นายทองตอบว่าเข้าไปตัดกล้วยคนละ 2 เครือ แต่เอามาไม่ได้ คุณตาร้องอ้อ เข้าไปขโมยกล้วยของกู ไอ้มากด้วยใช่ไหม ขโมยมากี่หนแล้ว นายทองตอบว่า 3 หนทั้งหนนี้ด้วย คุณตาทวดถามว่าแล้วมึงทำไมต้องฟันกล้วยที่ยังอ่อน ๆ ทิ้ง นายทองตอบว่าเจ็บใจไอ้พุดมันด่าแม่ฉัน ตาพุดขยับจะพูด แต่คุณตาทวดยกมือห้ามไว้แล้วพูดว่า เออดีมึงรับกับกูตามจริง ตาเขียวก็เข้าไปขอโทษแทนลูกชายเขา แล้วพูดว่าพี่หมอจะรับรักษาไหม และจะคิดค่ายาเท่าไร คุณตาทวดว่าค่ายาข้าไม่คิดหรอก แต่เอ็งต้องไปจ่ายเครื่องยามาให้ข้า ๆ จะจดไปให้ ข้าคิดแต่ขวัญข้าว 6 สลึง ข้าวสาร 1 ขัน ดอกไม้ 7 ดอก ธูปเทียนอย่างละ 7 เล่ม แต่เอ็งต้องใช้ค่ากล้วยที่ลูกเอ็งไปลักมา ตาเขียวรับว่าได้ พี่จะคิดเท่าไร คุณตาทวดบอกว่าเอ็งไปตกลงกับไอ้ทิดมัน ตาเขียวกับตาทิดจึงตกลงกันเป็นเงิน 1 ชั่ง (เท่ากับ 80 บาท) คุณตาทวดจึงต้มยาให้คนป่วยคนละหม้อและอาบน้ำมนต์ให้ 3 ขัน แล้วคุณตาทวดสั่งตาเขียวว่า เมื่อพ้น 7 วันไปแล้ว ให้ตาเขียวไปบอกอาการของคนไข้ว่าเป็นอย่างไร


          เมื่อคุณตาทวดกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็เข้าไปในห้องนอน เอามีดตัดเชือกที่ผูกหุ่นฟางเป็นรูปควายธนูออก มีดหมอของคุณตามีตัวหนังสือขอมลายไปทั้งตัวมีด แต่จะเขียนว่าอย่างไรพ่ออ่านไม่ออก แล้วคุณตาทวดก็สั่งให้พ่อเอารูปหุ่นฟางที่ตัดออกไปแล้วไปเผาเสียที่ทาง 3 แพร่ง เมื่อพ่อจัดการที่คุณตาทวดสั่งเสร็จแล้ว จึงถามคุณตาทวดว่า แก้เชือกหุ่นฟางออกเสียทำไม คุณตาทวดตอบว่าถ้าไม่แก้ เมื่อพ้น 7 วันไปแล้วไอ้สองคนนั่น มันก็ต้องตาย บาปกรรมเปล่า ๆ แล้วคุณตาทวดก็ถามพ่อว่า เอ็งอยากเรียนวิชานี้บ้างไหม พ่อตอบว่าอยากเรียน คุณตาทวดก็ว่าถ้าเอ็งอยากเรียน ก็จงหัดทำใจให้เป็นสมาธิ ตั้งอยู่ในศีลธรรมและสัจธรรม อย่าข่มเหงรังแกใครให้เดือดร้อน และจะกินเหล้าเมามายไม่ได้ เมื่อยามทะเลาะกับผู้อื่นอย่าด่าแม่เขา และยังมีข้อห้ามอีกหลายข้อ แต่ก็อยู่ในศีล 5 ถ้าเอ็งออกจากโรงเรียนแล้ว ตอนนั้นเอ็งก็รุ่นหนุ่มแล้ว ข้าจะให้เอ็งเรียนวิชาหมอและวิชานี้แทนข้า แต่จะทำให้เขาเดือดร้อนไม่ได้ ถ้าทำเขาแล้ว เขามาหาให้แก้จะต้องรีบแก้ให้เขาทันที และจะเรียกร้องเงินทองจากเขาไม่ได้ นอกจากค่าขวัญข้าว กับดอกไม้ธูปเทียนเท่านั้น


          ต่อจากนั้นประมาณ 7-8 วัน ตาเขียวก็มาที่บ้านคุณตาทวด ๆ ถามว่า ไอ้สองคนนั่นเป็นอย่างไรบ้าง ตาเขียวตอบว่าไม่เป็นไรแล้ว แต่ยังอ่อนเพลียเท่านั้น อีก 7-8 วัน ก็คงจะหาย ตาเขียวนั่งคุยกับคุณตาทวดพักหนึ่งจึงกลับไป ต่อจากนั้นมาอีก 2 ปี เศษ คุณตาทวดก็ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา เมื่ออายุได้ 83 ปีเศษ พ่อยังไม่ได้ออกจากโรงเรียน จึงไม่มีโอกาสจะได้เรียนวิชาหมอแผนโบราณจากคุณตาทวด เพียงแต่คัดลอกตำรายาไว้บางส่วนเท่านั้น ส่วนวิชาไสยศาสตร์ปลุกเสกควายธนูนั้น เขาเขียนไว้ในสมุดข่อยเป็นอักษรขอม พ่ออ่านหนังสือขอมไม่ออก จึงไม่ได้คัดลอกไว้ ............


          แหมเกือบลืมเรื่องราวของดร.มัทธิว ก่อนหน้านั้นเกือบปี ได้มีฝรั่งนิกายพระยะโฮวา มาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ที่บ้านผม พอดีวันนั้นผมจะออกไปนอกบ้านพอดี เลยบอกฝรั่งว่าไว้วันหลังค่อยมาใหม่ วันนี้ไม่ว่าง ผมเองก็อยากจะคุยอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นฝรั่งคนนี้ก็มาอีก เค้าก็นำหนังสือเกี่ยวกับคริสตศาสนามาให้ผมดู ผมก็นำหนังสือของผมที่มีมาให้เค้าดู ฝรั่งก็ยิ้มว่าผมมีเหมือนกัน ผมก็ว่าผมสนใจทุกศาสนาล่ะ เพียงแค่ศึกษาหลักการของแต่ละศาสนา ก็ทุกศาสนาทำให้คนเป็นคนดี หลังจากนั้นก็คุยกันหลาย ๆ เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ฝรั่งคนนี้เข้ามาอยู่ 2-3 ครั้ง  พอผมถามหนัก ๆ เข้า เค้าก็ย้อนถามว่าผมอ่านหนังสือที่เค้าให้บ้างหรือไม่ ผมบอกว่าไม่ หลังจากนั้นฝรั่งก็ไม่มาอีกเลย สงสัยทุกคำถามที่ผมถาม มันคงอยู่ในหนังสือนั่นแล้วล่ะ  ช่วงที่ฝรั่งมาคุยกับผม ตกกลางคืนผมก็ฝันว่า มีภูเขาสูงถล่มพังลงมา ผมก็ไปถามท่านเจ้าอาวาสว่ามันสื่อความหมายอะไรหรือเปล่า ท่านก็บอกว่านั่นล่ะ มันเป็นนิมิตแสดงว่า ศาสนาพุทธที่ผมนับถือและปฎิบัติมาตั้งแต่เด็กจนโต พอผมเริ่มสนใจศาสนาอื่น มันเปรียบเสมือนสิ่งที่เรายึดมั่นมาโดยตลอดเป็นเวลานาน มันก็พังลงมา เพราะเราเริ่มหันเหสนใจศาสนาอื่น ผมก็บอกท่านว่ายังไง ๆ ชีวิตนี้ก็นับถือศาสนาพุทธตลอดล่ะ เพียงแต่อยากจะรู้เรื่องราวของศาสนาอื่นบ้าง  อ้อดร.มัทธิวนี่เป็นของนิกายโปรเตสเต้น (สงสัยจะพิมพ์ผิดแฮะ)  ก่อนหน้านั้นหลายปี นิกายคาทอลิกเค้าก็นำคนมารักษาเหมือนกัน ภายในจังหวัดของผม .........


          วันนี้ขอยุติเพียงแค่นี้ก่อน ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ......


Freyyyy

  ตอนนี้ผมแค่ ศึกษาหาความรู้ ยังไม่ได้เริ่มตามเก็บเลยครับ คงยังไม่ถึงเวลา และไม่ค่อยมีเวลาด้วยคับ

เรื่องเล่า ของพี่โกสินทร์ ผมยังติดตามอ่านทุกๆตอน  ตอนนี้ผมได้เก็บรวบรวมตั้งแต่ตอนที่ 1ไว้(เก้บไว้คนเดียวน่ะคับไม่ได้เอาไปเผบแพร่) เผื่อวันใดวันนึง บอร์ดอาจมีปัญหา ข้อมูลหาย  จะเป้นที่น่าเสียดายครับ จะให้กลับมาเล่าใหม่ ก้อคงไม่จำไม่ได้เป็นแ่น่ ผมเลยขอเก็บไว้เพื่อเป็นการศึกษา

อ้วน

แจ๋วเหมือนเดิม
Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view