http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,965,977
Page Views33,403,120
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

 


เวลาเปลี่ยนอะไรๆที่วัดก็เปลี่ยน

(อ่าน 1503/ ตอบ 8)

อนรรฆ

บรรยากาศที่วัดไม่เหมือนเมื่อก่อนเพื่อนๆว่าอย่างนั้นมั้ยครับ


อนรรฆ

1.เบอร์โทรวัดไม่ทราบเปลี่ยนหรือเปล่าเพราะทุกวันนี้โทรไปติดแต่ไม่มีผู้รับสายครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนโทรไปรับสายตลอดครับ
2. การเข้าพบหลวงพ่อท่านนั้นยากไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เดินเข้าหาได้เลย อาจจะเพราะว่าคนไปหาท่านเยอะกว่าแต่ก่อน แต่ผมก็เห็นลูกศิษย์บางกลุ่มได้เข้าไปหาท่านด้วยไม่รู้ทำไมเค้าให้เข้าเพราะอะไร(เห็นดูแล้วมีฐานดีหน้าตาท่าทางมีเงิน)
3.พิพิธภัณฑ์ไม่รู้เข้าไปดูได้เหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่าเพราะเดี๋ยวนี้เอาตู้กระจกมากั้นไม่ให้เข้าบริเวณนั้น
4.เข้ากุมารทองแล้วให้หลวงพ่อท่านเจิมโดยตรงได้มั้ย เพราะเดี๋ยวนี้เห็นมีหลวงพ่ออีกรูปเหมือนมาทำหน้าที่แทนในการเจิมกุมารและประพรมน้ำมนต์ ไม่ค่อยมั่นใจถ้าไม่ใช่หลวงพ่อท่านเจิมให้โดยตรง
    โดยรวมแล้วไปแล้วผมผิดหวังครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยครับ

เด็กพี่จุก

ถ้า เป็น หลวงตาขวัญ ก้สุดยอดแล้วครับ เรียนมาพร้อมหลวงปู่แย้ม

คนรักกุมารทอง

อย่าคิดอย่างนั้นซิคะ  หลวงปู่ท่านแก่แล้วและท่านก็ป่วยอยู่  เราควรจะดีใจนะคะที่หลวงปู่ได้พักบ้าง   ส่วนหลวงปู่ขวัญท่านก็เก่งนะคะ   เรายังเคยให้หลวงปู่ขวัญเจิมกุมารให้เลย   หลวงปู่แย้มท่านคงไม่ปล่อยให้ใครมานั่งแทนที่ท่านมั่วหรอกคะ  ถ้าอยากให้หลวงปู่อยู่กับเรานานๆ  คุณต้องพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่

k123

เห็นด้วย ..กับคนนตั้งกระทู้เลย ..

เพราะส่วนตัวคิดว่า ที่ไปนั้น เพื่อไปบูชากุมารทอง จากหลวงตา ..

เเต่ไปถึง ..ดัน ..ได้พระอีก คนมาเสกเเทน ..

ชมตา

เราเองเหมือนกัน ตั้งใจไปแบบเต็มร้อยไม่ใช่ว่าจะเช่าหาเพราะตามกระแส แต่เนื่องจากเราอธิฐานกับหลวงปู่เต๋ไว้ว่าหากคนที่เขาโกงเงินเราไป นำเงินมาคืนเราภายใน 3 วัน 7 วัน เราจะไปรับกุมารทองจากวัดสามง่ามมาเลี้ยงดู หลังจากให้สัจจะไปแล้วเราพยายามโทรติดต่อคนๆนั้นๆแต่เขาปิดเครื่องหนี พอเปิดเครื่องก็ไม่รับสาย จนเราอ่อนใจคิดว่าคงไม่ได้เงินคืนแล้ว พอครบวันที่ 3 หลังจากอธิฐานไปปาฎิหาร์ยก็เกิดขึ้นจู่ๆประมาณ บ่ายโมงกว่า เขาบอกว่าเขาจะคืนเงินให้เราและเราก็ได้เงินคืนจริงๆครบตามจำนวน เราจึงจุดธูปอธิฐานไปถึงหลวงปู่เต๋ ว่าเราจะไปรับลูกกุมารมาเลี้ยงดูแต่ขอเวลาสักระยะเพราะเราก็ไม่มีเงิน เวลาผ่านไปหลายเดือนจนกระทั่งวันที่ 15 เมษายน 2553 เราฝันว่ามีเด็กผู้ชายรูปร่างเล็กๆมาเข้าฝันและจูงมือเราไปกราบหลวงปู่แย้มที่วัดสามง่าม ตื่นเช้ามาก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไรจนกระทั่งเล่าให้พี่คนหนึ่งฟัง เขาบอกว่าเราให้สัจจะไว้แล้วต้องไปรับเขามาเลี้ยง ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะทำให้เราทำอะไรไม่สำเร็จก็ได้ วันอาทิยต์ที่ 25 มีนาคม 2553เราจึงเดินทางไปกับเพื่อนอีกคนหนึ่งทั้งๆที่ไม่เคยไปก็นั่งรถตู้กันไปลงที่ตลาดและเดินถามทางเขาไปเรื่อยๆจนเจอรถสองแถวไปดอนตูม ก็ไปแบบไม่รู้ คนขับใจดีจอดให้ลงที่หน้าวัด เราเข้าไปยังไม่รู้จะไปทางไหนถามแม่ค้าที่วางแผนขายของหน้าวัดไปจนกระทั่งถึงกุฎิหลวงปู่แย้ม เราจุดธูปไหว้พระ และไปกราบร่างของหลวงปู่เต๋และอธิฐานจิตสื่อไปยังหลวงปู่เต๋ว่าเรามารับลูกกุมารทองตามสัจจะวาจาที่ได้บอกกล่าวไว้และไปไหว้ท่านเจ้าสัวรับทรัพย์โตองค์ใหญ่พอไหว้เสร็จ ขณะนั้นมีกลุ่มคนมีฐานะกลุ่มหนึ่งเข้าไปกราบหลวงปู่แย้มให้ท่านเจิมกุมารทองให้ เราก็เข้าไปแต่เรายังไม่ได้เช่ากุมารจึงถามว่าเช่ากุมารตรงไหนและออกมาเช่ากุมารตรงตู้ด้านหน้าบนกุฎิแต่ไม่ทันให้หลวงปู่แย้มท่านปลุกเสกเลยได้แต่เข้าไปรับน้ำมันที่ท่านกำลังปะพรมให้คนมีฐานะกลุ่มนั้น หลังจากนั้นลูกศิษย์หลวงปู่บอกว่าให้รอหลวงปู่จะนอนพักผ่อน เราก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นขอรอหลวงปู่แย้มก็ได้ไหนๆก็มาแล้วเมื่อเช่าลูกๆแล้วก็อยากให้หลวงปู่แย้มท่านเจิมให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ลูกศิษย์วัดบอกว่าไปให้หลวงปู่ขวัญเจิมให้ก็ได้เหมือนกัน เราก็มองหน้ากับเพื่อนแบบงงๆ แล้วตอบว่าไม่เป็นเราขออนุญาตรอหลวงปู่แย้มก็แล้วกัน จากนั้นประมาณ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีโยมสีกาคนหนึ่งมาเช่ากุมาร หลวงปู่ก็จัดแจงห่มจีวรเราก็เลยเข้าไปร่วมด้วย แต่สิ่งที่ผิดหวังมากๆก็คือ หลวงปู่แย้มปัดพานที่เราใส่กุมารทองของเราและพานของเพื่อนให้ออกไปและบอกไปให้ข้างนอกเจิมให้ เราผิดหวังมากจริงๆ เราไปด้วยศรัทธาจริงๆ เพื่อนเราจึงบอกกับหลวงปู่ว่า เดินทางมาไกลขอให้หลวงปู่แย้มเจิมให้ด้วย หลวงปู่ท่านนั่งเฉยๆ นิ่งๆ และหยิบภู่กันมาจิ้มแป้มป้ายๆกุมารของเราและเพื่อน 2-3 ครั้ง และก็หยิบชานหมากมาฉันท์แบบไม่สนใจเลย ลูกศิษย์หลวงปู้แย้มก็บอกว่าเสร็จแล้วเรากับเพื่อนงงมากๆเลย เราทำอะไรให้หลวงปู่แย้มไม่พอใจหรือ จากนั้นเราและเพื่อนจึงกราบลาท่านออกมา หลังจากนั้นเราก็เห็นหลวงปู่แย้มหยิบกุมารของโยมสีกาคนนั้นขึ้นมาปลุกเสก ใครไม่เป็นเราในเวลานั้นคงไม่รู้หรอกว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง ความเสียใจมันเอ่อล้นเต็มตาทั้งสองข้างของเราเลย ท่านคงมองว่าเรายังเด็ก หรือว่าเราไปรับลูกๆตามกระแสสังคม แต่เราอยากบอกว่ามันไม่ใช่ เราไปรับลูกๆก็เพราะสัจจะที่อธิฐานต่อหลวงปู่เต๋ คงทองไว้ ก่อนกลับเราจึงเข้าไปกราบหลวงปู่เต๋ ขอบารมีหลวงปู่เต๋ปลุกเสกอบรมสั่งสอนลูกๆกุมารให้เรา และขออนุญาตนำลูกๆกุมารกลับมาเลี้ยงดูที่บ้าน และเข้าไปขอท่านเจ้าสัวรับทรัพย์โตอีกครั้ง วันนั้นเราเดินทางกลับมาบ้านแบบผิดหวังจริงๆ เพราะเราอ่านประวัติหลวงปู่แย้มแล้ว หลายๆคนบอกว่าท่านเป็นพระที่มีความเมตตาแต่วันนี้เราเชื่อในสายตาและความรู้สึกของเรา เรากลับมาคืนวันนั้นเราสวดมนต์เสร็จแล้วก็นั่งปฎิบัติกรรมฐาน เพื่อสื่อความรู้สึกของเราให้ท่านรับรู้ เราไม่รู้หรอกว่าท่านสามารถรับรู้ความรู้สึกของเราได้ไหม แต่หากว่าเราได้มีโอกาสกลับไปกราบหลวงปู่เต๋อีกครั้ง เราคงไม่กล้าที่จะเข้าไปกราบขอพรหลวงปู่แย้มอีกแล้วล่ะ เราดีใจกับเพื่อนๆทุกๆคนที่ท่านเมตตาเจิมลูกๆกุมารทองให้กับมือนะ
*** ไม่มีอะไรมากหรอกเราก็แค่อยากระบายความรู้สึกที่มันอึดอัดมาจนวันนี้ก็เท่านั้น.......บางทีเราอาจจะไม่มีบุญวาสนาพอให้ท่านเมตตาก็ได้

สยามไทม์

ท่านคงทดลองความอดทนของน้องมั้งเพราะน้องนั่งสมาธืจิตคงถึงท่านเลยอยากลองความอดทนของน้องจะมีความอดกลั้นขนาดไหนมีความศรัทธาจริงจังแค่ไหนท่านมีเมตตาจิตสูงนะเคยโดนท่านตำหนิมาแต่ถ้าเรารักษาอารมณืได้ก็จะดีมากหาอยากแล้วครับพระผู้มีอภิญญามีแต่พระเก่งแต่โฆษณาชวนเชื่อออกนั่นออกนี่แต่ของลป.ท่านใครมาใครเข้าหาได้หมดทันไม่เคยปฎิเสธนะมีแต่ศิษย์ใกล้ชิดกันท่ามากกว่าแต่คงมีเหตุผลท่านคงไม่สบายหรือเหนื่อยรับเจิมมากไปศิษย์อยากให้พักผ่อนอายุ95แล้วอย่าไปน้อยใจท่านเลยเป็นบาปนะครับแค่คิดก็ไม่ดีแล้ว  ไปกราบท่านเถอะครับแล้วลองส่งจิตถึงท่านใหม่

แปลก

1.เรื่องโทรศัพท์นั้นทุกวันนี้มีมือถือ เด็กวัดลูกศิษย์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบกุฎิก็ไม่ได้อยู่เฝ้ากุฎิตลอดเวลา ด้วยสุขภาพหลวงปู่ท่านก็ชราภาพแล้ว เวลาพักผ่อนก็ไม่อยากให้อะไรมารบกวนเวลาพักผ่อน คนชราภาพกับสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรง นอนก็หลับๆตื่นๆเมื่อเวลาหลับสนิทก็อยากให้ท่านพักเต็มที่ ผมว่าบางเขาก็ถอดสายออกนะครับ


2.ต้องถามตัวเราเองก่อนครับว่าเราไปด้วยศรัทธา หรือกระแส กุมารทองที่อยู่ในตู้นั้นท่านคิดว่าจะมีจิตต่อเมื่อตอนเจิมหรือ ท่านคิดว่าก่อนหน้านั้นก็ก้อนดินธรรมดาเหรอ แต่หากอยากเจิมก็หลวงตาขวัญก็เป็นศิษย์ท่านหนึ่งที่ทันหลวงพ่อเต๋ ถ้าไม่แน่จริงหลวงพ่อแย้ม และคนในวัดคงไม่วางใจปล่อยให้ทำแทน สิ่งสำคัญถ้าท่านทันหลวงพ่อเต๋คงทราบว่าก่อนเข้าไปหรือหลังออกมาแม้ไม่ได้เจิมก็มาขอต่อหน้าสรีระของหลวงพ่อเต๋ก็แน่มั่นใจได้ครับ นอกจากตามกระแส อีกประการหลวงปู่บ่นเสมอว่าท่านจะมีโอกาสอยู่ทันภาระที่สร้างไว้เสร็จทันไหม หลวงปู่เองท่านก็ถนอมตัวเองไม่ใช่กลัวมรณะภาพแต่กลัวไม่มีใครทำต่อให้เสร็จได้ ในมุมมองศิษย์อย่างเราก็ต้องทราบครับ(หากเป็นการปรามาสหลวงพ่อต้องกราบขอโทษท่านด้วย) ที่ท่านกลัวไม่ทันก็เพราะกลัวหาจจัยไม่ทันสำเร็จ  ผู้ตั้งกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่าผู้เข้าไปน่าจะมีกระตังแบบกล้าร่วมถวาย มิได้แค่มาบูชากุมารตามราคาวัดเท่านั้น  ปรการที่สำคัญหลวงพ่อคงไม่ได้เป็นผู้กำหนดว่าให้ใครเข้าได้หรือไม่ นอกจากดุลพินิจของลูกศิษย์ที่หว่งในสุขภาพ เราศรัทธาก็อนุโมทนาที่ร่วมบูชากุมาร แต่จำเป็นมากเหรอครับที่ต้องขอศิษย์เข้าหาให้เสมอภาค


3.เรื่องพิพิฒภัณฑ์ มีความหมายอยู่ในคำแล้ว ท่านครับมองในแง่ดีหากเปิดตลอดเวลานั่นหมายถึงต้องใช้แรงงานที่ต้องดูแลหรือเฝ้าและทำความสะอาด  ในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็นมากนักก็อาจปิดเพื่อลดความรับผิดชอบลงไปบ้างก็ได้ อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับหลวงพ่อเลยครับ  ศรัทธาเป็นสิ่งแรกก่อเกิดความมั่นใจ


4.คำตอบข้อนี้อยู่ในต้นๆแล้ว สมัยหลวงพ่อเต๋ คงทอง ไม่มีแม้การเจิมทำไมเข้มขลังทั้งคุณภาพและราคา ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีองค์จิตอยู่หรือไม่ก็ไม่เห็นมี  ใครที่บูชาของหลวงพ่อเต๋อยู่ทุบทิ้ง หรือให้กันฟรีๆ


*ขอโทษกับข้อความนี้หากผิดใจท่านใด*

อั่ม

ท่านสอบจิตคุณแล้วล่ะ คุณอย่าเสียใจไปเลยลูกศิษย์สายพระป่าก็โดนแบบนี้จากพระอาจารย์ที่เคารพ ตอนที่คุณกราบหลวงพ่อเต๋จิตคุณยึดมั่นถือมั่นมากไง จนไม่ละวางปล่อยวาง คุณต้องประคองจิตให้อยู่กลางๆได้ก็ได้ไม่ได้ก็ไม่ได้ พอคุณมาเจอหลวงปู่แย้มจิตคุณมุ่งมั่นไม่ละวางยึดมั่นเต็มๆ ท่านเลยเมตตาทดสอบคุณ จิตที่ยึดมั่นถือมั่นเป็นอัตตาไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องการให้คุณละวางตรงนี้ลง


หลวงปู่แย้มท่านรู้วาระจิตทุกคน ท่านไม่ให้คุณยึดติดครูบาอาจารย์ ท่านรู้วาระจิตรู้ว่าคุณนั่งรอรอพบท่านทั้งๆที่หลวงตาอีกองค์ท่านก็สามารถเจิมให้ได้


เมื่อคุณยึดมั่นถือมั่น นั่นเป็นอัตตา อย่าลืมว่าทุกอย่างตั้งมาและก็ดับไปเป็นธรรมดา ประคองจิตคุณให้อยู่กลางนั่นล่ะคือสิ่งที่หลวงปู่สอน โชคดีครับคุณน่ะโชคดีแล้ว ถ้าคุณเคยบวชชียิ่งแถบอีสานด้วยคุณจะเข้าใจ เวลาพระอาจารย์ท่านทดสอบจิตหนักกว่านี้อีก ถึงขั้นรื้อกุฏิกันก็มี รื้อเพื่อดูว่าทนความยากลำบากได้ไหม จิตยังยึดติดกับที่อยู่อาศัยหรือเปล่า ถ้าผ่านก็สร้างใหม่ กุฏิใบจากกระต๊อบนะครับรื้อง่าย รื้อกุฏิเหมือนรื้อกิเลสแล้วแต่พระแต่ละองค์ว่าท่านจะสอบจิตคุณแบบไหน

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view