กุมารี ( อินเทรนเหมือนกันนะ)
ประวัติ
ตามประวัติมีหลักฐานว่า ในประเทศอินเดีย ประเพณีเกี่ยวกับ "กุมารี" มีมานานมากกว่า 2,600 ปี และเผยแพร่เข้าสู่ประเทศเนปาลในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 โดยหริ สิงห์ เทวะ ที่หลบหนีมาจากทางอินเดียตอนเหนือ เขาได้นำความเชื่อนี้ติดตัวมาด้วย แต่มีหลักฐานที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรถึงพิธีการคัดเลือกกุมารี การแต่งตัวของกุมารี และ ความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อกุมารี ไว้เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 13
ในเนปาล มีตำนานปรัมปราเกี่ยวกับ "กุมารี" มากมาย แต่ที่เลื่องลือและ น่าเชื่อถือที่สุด คือ ตำนาน ของกษัตริย์เนปาล องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์มัลละ ขณะที่พระองค์กำลังเล่นทอยลูกเต๋า (บางแห่งก็ว่าสะบ้า) กับ เทวีทาเลจู เทพผู้ปกป้องรักษาราชวงศ์ของพระองค์ วาบหนึ่งในความนึกคิด พระองค์ทรงหลงใหลในความงดงามของ เทวีทาเลจู มาก และทรงคิดว่านางงามกว่ามเหสีของพระองค์เสียอีก ขณะเดียวกัน เทวีทาเลจู ก็อ่านความคิดนั้นออก จึงยุติการเล่นทอย ลูกเต๋าทันที นางตำหนิพระองค์ และประกาศว่า ต่อไปนี้ถ้าพระองค์จะพูดคุยกับนางอีก ก็จะไม่อยู่ในร่างของ เทวีทาเลจู ให้ทรงเห็น แต่นางจะเป็น เด็กหญิงจากวรรณะล่าง และพระองค์จะต้องออกจากพระราชวังไปสักการะนาง ซึ่งอยู่ในร่างของเด็กหญิงจากวรรณะล่างเท่านั้น
การสรรหากุมารี
การ สรรหากุมารี การตรวจดูว่าเด็กหญิงคนนั้นมี ลักษณะของเทพ หรือไม่ จะต้องเป็นผู้มี รูปร่างเหมือนต้นกล้วย ขาเหมือนขากวาง หน้าอกเหมือนสิงห์ ลำคอเหมือนหอยสังข์ นํ้าเสียงสดใสและอ่อนนุ่ม (และตามที่เราเคยอ่านเจอมาจากหนังสือบางเล่มเขาบอกว่า การเลือกกุมารีนั้น ยังมีอีกนั่นคือการให้เข้าไปในห้องของกุมารีแล้วหยิบของใช้กุมารีออกมา ละจากอีกเล่มนึงบอกว่าจะถูกขังไว้ในห้องที่มีหัววัวโชกเลือด 108 หัวและหน้ากากปิศาจหน้ากลัวทั้งคืนถ้าไม่ร้องไห้ออกมาก็คือกุมารี)เมื่อคัด เลือกได้แล้ว เด็กหญิงคนนั้นจะต้องจากครอบครัวของเธอมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของผู้ดูแลภาย ใน วังใหญ่ ที่เรียกว่า การ์
วังของกุมารี
ก่อ สร้างด้วยอิฐ เป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีหน้าต่างไม้เจาะรอบๆ สร้างขึ้นตามรูปแบบของวัด ไม้ที่แกะสลักโดยรอบนั้นจะเป็นเรื่องราวของฮินดูปกรฌัม ที่มีอายุกว่า 250 ปี (วังที่เมืองกาฏมัณฑุ) ตามปกติ "กุมารี" จะต้องเดินบนผ้าชนิดพิเศษ ที่ปูเป็นทางในวัง เนื่องจากมีข้อห้ามไม่ให้เท้าของเธอสัมผัสพื้นดิน นอกจากนี้ "กุมารี" ยังถูกห้ามไม่ให้ออกไปเล่นข้างนอก ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ยกเว้นเวลาที่ต้องปรากฏ ตัวต่อหน้าสาธารณชน ในงานเทศกาลสำคัญต่างๆ เท่านั้น ซึ่งมีประมาณ 13 ครั้งต่อปี
ชีวิตของ "กุมารี" มีข้อจำกัดข้อห้ามมากมาย แต่เด็กสาวชาวเนปาลส่วนใหญ่ที่เป็น ชาวศากยะ ก็ต้องการที่จะเป็น "กุมารี" เพราะมีเกียรติสูง และครอบครัวของเธอก็จะได้รับการดูแลจากรัฐบาลเป็นอย่างดี
คือ เทพธิดาผู้มีชีวิตจริงของชาวเนปาล ที่เชื่อว่าเป็นเทวีทาเลจูมาจุติเกิด มาจากการสรรหาจากเด็กหญิงจากวรรณะล่าง และเป็นที่เคารพของผู้นับถือศาสนาฮินดู จนกระทั่งเทวีทาเลจูมาออกจากร่าง ซึ่งจะนับเมื่อเด็กหญิงผู้นั้นมีประจำเดือน หรือได้รับบาดแผลจนมีเลือดออกจากร่างกายเป็นจำนวนมาก