ขอเล่าต่อจากตอนที่แล้วครับ เกี่ยวกับวิธีการปลุกกุมารทอง บทคาถาปลุกเสกกุมารทองนั้น มีอยู่สิบสี่บท ในสมัยหลวงปู่เต๋ปลุกกุมารทองนั้น ท่านจะปลุกจนกว่ากุมารจะลุกขึ้นตั้งเองได้ จึงถือว่าใช้งานได้ กุมารทองถูกผู้ปลุกเสกสร้างจิตขึ้นมาเองให้มีชีวิต ไม่ได้เรียกวิญญานเข้ามาสถิตย์หุ่นแต่อย่างใด ผู้ปลุกเสกต้องปลุกสร้างอวัยวะสามสิบสองให้กับกุมาร จากนั้นจะทำการปลุกเพื่อคลอด เหมือนแม่คลอดลูกนี้แหละครับ ปลุกจนกระทั่งกุมารทองกระดิกได้ จากนั้นลุกขึ้นตั้งเอง และสุดท้ายกุมารจะต้องร้องเป็นเสียงเด็กออกมาให้ได้ยิน จึงถือว่ากุมารมีฤทธิ์และใช้งานได้ การปลุกเสกถึงขั้นกุมารลุกขึ้นตั้งและร้องออกมาได้นั้นผู้ปลุกเสกจะต้องบริกรรมคาถาแปดพันกว่าจบ และผู้ปลุกเสกต้องมีกัมฐานดี มีจิตที่เป็นสมาธิแนบแน่น เหมือนมีคนเคยขอให้หลวงปู่แย้มปลุกกุมารให้ลุกขึ้นตั้งให้ดู หลวงปู่บอกว่าเอาแค่กระดิกได้ก็พอ เพราะถ้าจะให้ลุกตั้งได้ต้องบริกรรมคาถาเป็นพันๆจบ ท่านชราแล้วนั่งนานไม่ไหว ก็เลยไม่ได้เห็นครับ ที่หลายคนบอกว่าวัดหรือสำนักโน้นสำนักนี้ปลุกเสกกุมารหนึ่งพรรษาเพื่อจะได้ขลังนั้น จริงๆแล้วการปลุกกุมารจนสามารถลุกขึ้นตั้งได้เองก็ถือว่าสำเร็จแล้วล่ะครับ อย่างมากใช้เวลาปลุกไม่เกินสามวันถือเป็นอันใช้ได้ครับ
ผมว่าหลายคนแม้กระทั่งตัวผมเอง ก็เคยถามหลวงปู่แย้มว่า ทำไมกุมารทองวัดสามง่ามจึงห้ามเลี้ยงสี่องค์ หลวงปู่ตอบว่าครูบาอาจารย์บอกมาอย่างนี้ ในเรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากสำนักแห่งหนึ่งซึ่งในตอนต้นผมบอกว่า การสร้างกุมารของวัดสามง่ามกับสำนักนี้น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน เหตุผลที่ห้ามเลี้ยงสี่องค์ก็เพราะว่า สี่คนหามสามคนแห่ หลายคนคงเคยได้ยินสำนวนนี้ ซึ่งหมายถึงความตายและไม่เป็นมงคลสำหรับผู้เลี้ยงกุมารทองครับ คราวต่อไปตอนจบผมจะขอเล่าถึงประวัติตำราการสร้างกุมารทองวัดสามง่ามกับสำนักแห่งนั้นซึ่งกล่าวถึงในเบื้องต้นให้ฟังว่ามีความเกี่ยวพันกันอย่างไร.....