http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,982,531
Page Views33,419,760
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

 


ตำราการสร้างกุมารทองวัดสามง่าม ตอนสอง

(อ่าน 1198/ ตอบ 9)

กุมารวิทยา

ขอเล่าต่อจากตอนที่แล้วครับ เกี่ยวกับวิธีการปลุกกุมารทอง บทคาถาปลุกเสกกุมารทองนั้น มีอยู่สิบสี่บท ในสมัยหลวงปู่เต๋ปลุกกุมารทองนั้น ท่านจะปลุกจนกว่ากุมารจะลุกขึ้นตั้งเองได้ จึงถือว่าใช้งานได้ กุมารทองถูกผู้ปลุกเสกสร้างจิตขึ้นมาเองให้มีชีวิต ไม่ได้เรียกวิญญานเข้ามาสถิตย์หุ่นแต่อย่างใด ผู้ปลุกเสกต้องปลุกสร้างอวัยวะสามสิบสองให้กับกุมาร จากนั้นจะทำการปลุกเพื่อคลอด เหมือนแม่คลอดลูกนี้แหละครับ ปลุกจนกระทั่งกุมารทองกระดิกได้ จากนั้นลุกขึ้นตั้งเอง และสุดท้ายกุมารจะต้องร้องเป็นเสียงเด็กออกมาให้ได้ยิน จึงถือว่ากุมารมีฤทธิ์และใช้งานได้ การปลุกเสกถึงขั้นกุมารลุกขึ้นตั้งและร้องออกมาได้นั้นผู้ปลุกเสกจะต้องบริกรรมคาถาแปดพันกว่าจบ และผู้ปลุกเสกต้องมีกัมฐานดี มีจิตที่เป็นสมาธิแนบแน่น เหมือนมีคนเคยขอให้หลวงปู่แย้มปลุกกุมารให้ลุกขึ้นตั้งให้ดู หลวงปู่บอกว่าเอาแค่กระดิกได้ก็พอ เพราะถ้าจะให้ลุกตั้งได้ต้องบริกรรมคาถาเป็นพันๆจบ ท่านชราแล้วนั่งนานไม่ไหว ก็เลยไม่ได้เห็นครับ ที่หลายคนบอกว่าวัดหรือสำนักโน้นสำนักนี้ปลุกเสกกุมารหนึ่งพรรษาเพื่อจะได้ขลังนั้น จริงๆแล้วการปลุกกุมารจนสามารถลุกขึ้นตั้งได้เองก็ถือว่าสำเร็จแล้วล่ะครับ อย่างมากใช้เวลาปลุกไม่เกินสามวันถือเป็นอันใช้ได้ครับ  


ผมว่าหลายคนแม้กระทั่งตัวผมเอง ก็เคยถามหลวงปู่แย้มว่า ทำไมกุมารทองวัดสามง่ามจึงห้ามเลี้ยงสี่องค์ หลวงปู่ตอบว่าครูบาอาจารย์บอกมาอย่างนี้  ในเรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากสำนักแห่งหนึ่งซึ่งในตอนต้นผมบอกว่า การสร้างกุมารของวัดสามง่ามกับสำนักนี้น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน เหตุผลที่ห้ามเลี้ยงสี่องค์ก็เพราะว่า สี่คนหามสามคนแห่ หลายคนคงเคยได้ยินสำนวนนี้ ซึ่งหมายถึงความตายและไม่เป็นมงคลสำหรับผู้เลี้ยงกุมารทองครับ  คราวต่อไปตอนจบผมจะขอเล่าถึงประวัติตำราการสร้างกุมารทองวัดสามง่ามกับสำนักแห่งนั้นซึ่งกล่าวถึงในเบื้องต้นให้ฟังว่ามีความเกี่ยวพันกันอย่างไร.....


พ่อลูกสาม

งง...แล้วมันดีรึไม่ดีล่ะ ไอ้สามคนเนี่ยะ  เห็นบอกว่าสี่คนไม่ดี  ดิน น้ำ ลม ไฟ นี่ไม่ดีเหรอ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันวานผู้รู้จริงตอบหน่อยครับ

กุมารวิทยา

คงจะเข้าใจกัน คนละความหมายแล้วล่ะครับ ความหมายสี่คนของผม คือ สี่คนแบกโลงศพ ส่วนในความหมายของคุณ Namoza ก็ไม่ผิดแต่ประการใด เป็นความหมายในเชิงสอนธรรมมะครับ ผมแค่ยกสำนวนมากล่าวเท่านั้น แต่ผมหมายความเอาแค่สี่คนเท่านั้นเอง เจ้าของตำราเค้าหมายถึงสี่คนแบกโลงศพ ไม่ได้หมายถึงความหมายทางธรรมมะ....

งงจริงๆ

แล้วถ้า1องค์ไม่เป็นดวงจิตที่เป็นคนตายหรอ ไม่ดีๆเหมือนกันหรอคัรบผม

Namoza

พูดมาต้องอธิบายให้ได้สิจ๊ะ เพราะคนเข้ามาอ่านหลายคนเค้าสงสัยในความคิดเห็นที่คุณเป็นคนเสนอ

เอาเป็นว่าตามที่เคยเห็น+เคยร่วมงานศพแบบโบราณ เอาไปป่าช้ากดี ไปเผาเชิงตะกอนก็ดีนะครับ

แต่ก่อนจะใช้คนที่กำยำๆ หาม ๔ คน สี่มุมโลงศพ  ส่วน ๓ คนแห่ที่ยังไม่จบนั้น หมายถึง

คนที่ ๑ ถือหม้อธาตุ ซึ่งเป็นหม้อที่จุดไฟจะมีควันลอยไปเรื่อยๆ แต่ก่อนใช้หม้อดิน ต่อมาก็เปลี่ยนมาเป็นหม้ออลูมิเนียม แบบที่คนอิสานใช้นึ่งข้าวเหนียว แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาถือกระถางปักธูปแแทนแล้ว

คนที่ ๒ โปรยข้าวตอก ไปตามทางตั้งแต่บ้านงาน หรือที่ที่เริ่งเคลื่อนศพ โปรยไปเรื่อยๆ จนถึงเชิงตะกอนแล้วโปรยในขณะที่เวียน ๓ รอบด้วย ปัจจุบันไม่ค่อยทำกันแล้ว

คนที่ ๓ ถือรูปคนตาย (ในบางศพที่มีรูปถ่าย)  บางทีก็เป็นหุ่นที่ทำด้วยฟาง(โดยเฉพาะในศพที่ตายโหง) หรือไม่ก็กระทงสามเหลี่ยม ใส่อาหาร (โบราณนิยมทำเชื่อว่าให้คนที่ตายเอาไว้กิน)

นี่คือความหมายของ ๓ คนแห่ โดยที่ ๓ คนนี้ จะเดินนำหน้า ๔ คนที่หามโลงศพ (แต่ก่อนจริงๆ ไม่มีโลงก็ห่อเสื่อนี่แหละ)
Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view