หัวข้อ :การทำแท้ง ศพเด็กศาสนาพุทธไม่ได้มีบัญญัติไว้ว่าให้เผาหรือฝัง
29/11/2010
, 12:25
Quote
จริงๆตามหลักศาสนาพุทธไม่ได้บอกว่าเผาหรือฝัง แต่ศาสนาพราหมณ์ฮินดู บอกว่าเผาไม่ได้ เดิมที่ ศาสนา พราหมณ์ ฮินดู เกิดก่อนพระพุทธศาสนาเรา 3,000ปีและปฎิบัติตามๆกันมา พระพุทธเจ้าท่านไม่อยากหักพล้าด้วยเข่า ก็ผนวกและไม่ได้ห้ามประเพณีบางอย่าง หรือ การปฎิบัติ เอาเข้าไว้ด้วยกัน แต่ไม่ได้อยู่ในหลักคำสอนของศาสนาพุทธ เช่น การกรวดน้ำ ปรกติคนที่นับถือพราหมณ์ฮินดู จะอาบน้ำ เผาศพ หรือทำกิจกรรมต่างๆริม แม่น้ำคงคา อยู่เป็นเดิมอยู่แล้ว การกรวดน้ำนี้ทำหลังการเผาศพ ญาติพี่น้องของตน และกวักน้ำชูเหนือศีรษะและบอกเล่ากันแม่น้ำให้วิญญาณไปสู่สวรรค์ และได้รับสิ่งของต่างๆที่ต้นเผาไปให้ เลยการเป็นประเพณีบ้านเราว่าสวดศพหรือบังสกุลเสร็จจะต้องกรวดน้ำให้กับญาติพี่น้องของตัวเองที่ล่วงลับไป
ศพที่ไม่เผา การตายมีอยู่3 ประเภท ของศาสนาพราหมณ์ฮินดู
1 เด็กทารก 2 สตรีพรมจรรย์ 3 นักบวช ผู้ทรงศีล
เชื่อกันว่า การตาย3ประเภทนี้ ได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ไม่ต้องเผา เป็นการเอาไปเก็บไว้แทน
ส่วนการตายโหงแบบคนไทยทำมัยต้องฝัง
1 เพราะญาติพี่น้องผู้ตายยังทำใจไม่ได้ เพราะตายแบบกระทันหัน 2 เพราะญาติพี่น้องของผู้ตาย ต้องทำบุญกุศลให้แก่ผู้ตาย การตายโหง กลัวผู้ตายไม่สามารถรับส่วนบุญได้ 3 ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์โบราณของไทย หรือจาก รากเง่าจากขอมโบราณ ญาติพี่น้องและความเชื่อ กลัวผู้ตายจะไม่มีที่สถิต เร่ร่อน และจะตามมาหาญาติ หาคนรัก มาหลอกหลอนญาติพี่น้อง หรือมาห่วงหาอาทร 4 คนไทยเชื่อกันว่า ศพที่ตายกระทันหัน ไม่ได้ตายตามอายุไขนั้น จะต้องเร่ร่อนเป็นผีจนกว่าจะถึงเวลาหมดเวลาอายุไขตอนเป็นมนุษย์ เช่นคนเรามีอายุไข70ปี แต่พออายุ20 ตายจากอุบัติเหตุ จะเป็นวิญญาณอีก50ปี หรือบางดวงหมดห่วงก็ไปเกิดก็มี แต่น้อยมาก เพราะวิญญาณเหล่านี้ ยังจะเป็นห่วง คนรัก พ่อแม่ พี่น้อง ของพวกเค้า เช่น แม่นาก หรือย่านากวัดมหาบุตร
จริงๆตามหลักศาสนาพุทธไม่ได้บอกว่าเผาหรือฝัง แต่ศาสนาพราหมณ์ฮินดู บอกว่าเผาไม่ได้ เดิมที่ ศาสนา พราหมณ์ ฮินดู เกิดก่อนพระพุทธศาสนาเรา 3,000ปีและปฎิบัติตามๆกันมา พระพุทธเจ้าท่านไม่อยากหักพล้าด้วยเข่า ก็ผนวกและไม่ได้ห้ามประเพณีบางอย่าง หรือ การปฎิบัติ เอาเข้าไว้ด้วยกัน แต่ไม่ได้อยู่ในหลักคำสอนของศาสนาพุทธ เช่น การกรวดน้ำ ปรกติคนที่นับถือพราหมณ์ฮินดู จะอาบน้ำ เผาศพ หรือทำกิจกรรมต่างๆริม แม่น้ำคงคา อยู่เป็นเดิมอยู่แล้ว การกรวดน้ำนี้ทำหลังการเผาศพ ญาติพี่น้องของตน และกวักน้ำชูเหนือศีรษะและบอกเล่ากันแม่น้ำให้วิญญาณไปสู่สวรรค์ และได้รับสิ่งของต่างๆที่ต้นเผาไปให้ เลยการเป็นประเพณีบ้านเราว่าสวดศพหรือบังสกุลเสร็จจะต้องกรวดน้ำให้กับญาติพี่น้องของตัวเองที่ล่วงลับไป
ศพที่ไม่เผา การตายมีอยู่3 ประเภท ของศาสนาพราหมณ์ฮินดู
1 เด็กทารก 2 สตรีพรมจรรย์ 3 นักบวช ผู้ทรงศีล
เชื่อกันว่า การตาย3ประเภทนี้ ได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ไม่ต้องเผา เป็นการเอาไปเก็บไว้แทน
ส่วนการตายโหงแบบคนไทยทำมัยต้องฝัง
1 เพราะญาติพี่น้องผู้ตายยังทำใจไม่ได้ เพราะตายแบบกระทันหัน 2 เพราะญาติพี่น้องของผู้ตาย ต้องทำบุญกุศลให้แก่ผู้ตาย การตายโหง กลัวผู้ตายไม่สามารถรับส่วนบุญได้ 3 ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์โบราณของไทย หรือจาก รากเง่าจากขอมโบราณ ญาติพี่น้องและความเชื่อ กลัวผู้ตายจะไม่มีที่สถิต เร่ร่อน และจะตามมาหาญาติ หาคนรัก มาหลอกหลอนญาติพี่น้อง หรือมาห่วงหาอาทร 4 คนไทยเชื่อกันว่า ศพที่ตายกระทันหัน ไม่ได้ตายตามอายุไขนั้น จะต้องเร่ร่อนเป็นผีจนกว่าจะถึงเวลาหมดเวลาอายุไขตอนเป็นมนุษย์ เช่นคนเรามีอายุไข70ปี แต่พออายุ20 ตายจากอุบัติเหตุ จะเป็นวิญญาณอีก50ปี หรือบางดวงหมดห่วงก็ไปเกิดก็มี แต่น้อยมาก เพราะวิญญาณเหล่านี้ ยังจะเป็นห่วง คนรัก พ่อแม่ พี่น้อง ของพวกเค้า เช่น แม่นาก หรือย่านากวัดมหาบุตร
|