เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องที่อาจจะเกี่ยวข้องกับกุมารทองโดยตรง
แต่ก็คงจะให้ข้อคิดอะไรกับท่านผู้เลี้ยงได้หลายๆอย่าง
โดยเฉพาะท่านผู้ที่ชอบเลี้ยงตามกระแส
ขอให้เรื่องนี้เป็นข้อเตือนใจ สำหรับคนที่อาจจะเผลอลืมไป
ทั้งๆที่..ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี หรือนึกไม่ถึงก็ดี..อีกหลายๆท่านนะคะ
คือ...ดิฉันมักเป็นคนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่ซึ่งคนอื่นๆมักจะอยู่ไม่ได้นาน
แบบไม่การงานเจ๊ง ก็ครอบครัวเลิกร้างแล้วย้ายออกกันไปในที่สุด
ส่วนใหญ่มักเป็นบ้านที่ไม่เจ้าที่แรง ก็บ้านตามทางโค้ง ตามทางสามแพร่ง
ที่เขามักว่าเป็นที่อาถรรพ์ดวงมักจะสมพงศ์กับบ้านต่างๆเหล่านี้ตลอดแต่ก็จัดว่าดิฉันเป็นคนที่อยู่ได้ค่อนข้างนานกว่าคนอื่นเขานะคะเหตุที่ได้ย้ายส่วนใหญ่ คือ ไม่ได้อยู่แล้วมีปัญหาแต่มักจะไปเจอที่ๆดีกว่าที่เก่าอยู่เรื่อยๆก็เลยย้าย เรื่องมีอยู่ว่า บ้านที่อยู่ปัจจุบันเจ้าที่ท่านก็จัดว่าแรงเห็นเขาย้ายเข้าย้ายออกกันตลอดแต่ดิฉันอยู่มาจะ 2 ปีแล้วและก็เริ่มมาเลี้ยงกุมารตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้คุณใจดีท่านหนึ่งให้มา 2 ตนเพราะกุมารเป็นกึ่งเทพกึ่งพรายด้วยค่าบูชาที่ไม่แพงหลังจากได้มาก็มักจะได้มาอีกเรื่อยๆรวมทั้งรัก-ยมจนมีร่วม 30 องค์ ทั้งเทพ กึ่งเทพกึ่งพรายและสายพรายชีวิตดีขึ้นค่ะ ทางกายไม่มาก แต่ทางใจดีขึ้นเยอะคือ ปกติจะเป็นคนขี้เกียจสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ ตักบาตร ทำสังฆทานแต่พอได้กุมาร รัก-ยมมาทำเสมอต้นเสมอปลายและดิฉันก็ได้แบ่งกุมาร รัก-ยมไปให้ท่านที่มีจิตศรัทธาคนอื่นๆเลี้ยงด้วยให้ฟรีๆค่ะ บางคนก็ส่งเงินมาช่วยทำบุญ 40-400ตอนนี้เลยมีเหลืออยู่ที่บ้าน รัก-ยม1 กุมารเทพ2 กุมารกึ่งเทพกึ่งพราย3 ก็เล่าเรื่องนี้ให้หลายๆคนที่สนิทฟังข้าราชการผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสนใจจึงฝากให้ดิฉันไปนำกุมารมาให้บ้างก็ไปนำมาให้ค่ะไปรับมาจากวัดที่ชอบไปทำบุญด้วยบ่อยๆแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยาหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านมีเมตตาแต่เรื่องมีอยู่ว่ากุมารที่ข้าราชการผู้ใหญ่ที่นับถือกันเขาต้องการเขาต้องการ กุมารเทพ จากศาลท่านพ่อปู่ฤาษีตาไฟในวัดของหลวงพ่อเพราะเขาบอกว่าน่าจะแรงดี มีจิตจริง ดิฉันจัดให้ค่ะวันนั้นดิฉันเข้าไปกราบขอหลวงพ่อก่อนหลวงพ่อท่านให้แต่ให้ไปจุดธูปบอกกล่าวขอท่านพ่อปู่ฤาษีตาไฟที่ศาลอีกทีดิฉันเสี่ยงทายว่าถ้าพ่อปู่ฤาษีตาไฟอนุญาตขอให้ธูปมอดไหม้หมดดอกแต่ถ้าท่านพ่อปู่ฤาษีตาไฟไม่อนุญาตก็ขอให้ธูปดอกใดดอกหนึ่งไหม้ "ไม่"หมดดอก สรุป ธูปไหม้หมดดอกค่ะดิฉันถูกตาต้องใจกะกุมารเสื้อเหลืององค์ยืนองค์หนึ่งเห็นใหม่ เป็นพลาสติก เปลี่ยนเสื้อผ้าได้และหน้าตาน่ารักดีเลยถ่ายและส่งภาพให้คนที่เขาสามารถพอจะสื่อกับกุมารได้เขาบอกว่าองค์เสื้อเหลืององค์ยืนไม่อยากมาแต่องค์แดงเก่าๆและองค์เหลืองเก่าๆปางนั่งเป็นปูนทาสีเสื้ออยากตามมาด้วย วันนั้นดิฉันขออนุญาตหลวงพ่อขอมาแค่ 1 องค์จึงนำองค์แดงมาเรื่องก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่.......ลูกกุมารดันไม่อยากไปอยู่กะท่านผู้ใหญ่ข้าราชการที่นับถือกันคนที่พอจะสื่อกะกุมารที่รู้จักกันได้คนเดิมบอกว่าถ้าดิฉันให้เขาไปเขาอาจจะไปแต่ร่างจิตก็ยังอยู่กับดิฉันนี่ล่ะ ดิฉันตัดสินใจไม่ให้ค่ะอีกใจก็รักเขาแล้วด้วยเลยไปเช่าในวัดของหลวงพ่อเอาไปให้ท่านผู้ใหญ่แทนเป็นองค์เล็กๆน่ารักเพราะท่านผู้ใหญ่ต้องการแบบที่ดูแลง่ายๆหน่อย อาทิตย์ต่อมาดิฉันก็ได้ไปทำบุญที่วัดอีกไปกับเพื่อนแล้วก็ได้ไปขออนุญาตหลวงพี่ ท่านพ่อปู่ฤาษ๊ตาไฟนำองค์เหลืองปางนั่งที่อยากมากะดิฉันด้วยคราวก่อนมาด้วยอีกองค์ทุกอย่างก็เป็นปกติตามขั้นตอนเหมือนเดิม และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กพ 54 ดิฉันก็ได้ป่วย เริ่มจากไอ มีน้ำมูกใสๆ3วันเต็มก็คิดว่าจากสภาพภูมิอากาศ กลางวันร้อน รุ่งเช้าหนาวแต่ปกติดิฉันป่วย จะป่วยแค่1-3วันเพราะทำงานเกี่ยวกับการยกของที่เหงื่ออกตลอดเวลาเลยจะหายไวแต่มางวดนี้แค่ไอมีน้ำมูกธรรมดามีแต่ทรุดกับทรุดไปซื้อยาที่ร้านเภสัชตามปกติก็ไม่หายไปหาหมอคลินิคข้างบ้านที่สนิทกัน ฉีดยาเลย พร้อมได้ยามาทานก็ไม่หายจนอาทิตย์ที่ 20 กพ 54 แทบคลาน ร้องไห้ ไม่ไหวแล้วเลยไป รพ.นวนครได้แค่ยาภูมิแพ้ธรรมดาๆมาทานอาการที่เป็น ใครจับตัวก็ว่าดิฉันตัวไม่ร้อนแต่ดิฉันกลับรู้สึกเหมือนคนมีไข้สูงมากๆน้ำมูกไหลออกตลอดเวลาคอเจ็บ จมูกแสบกลางคืนนอนไม่ได้หายใจไม่ออกจนถึงตี3 ตี4 ต้องใช้งีบตอนกลางวัน วันนั้นนอนซมอยู่กะที่นอน คือ ลุกจะไม่ได้อยู่แล้วมือก็กดภาพในบีบีดูไปเรื่อยๆแล้วก็มาสะดุดที่ภาพๆหนึ่งตอนแรกคิดว่าตาลายเลยส่งให้เพื่อนในบีบีดูหมดสรุปทุกคนเห็นเหมือนกันหมดคือภาพ เหล่าข้าราชบริพาร(ล่างซ้าย)ที่ศาลพ่อปู่ฤาษีตาไฟหน้ามีเลือดตอนถ่ายไปทำบุญที่วัดกับเพื่อน 2 คนทุกอย่างก็ปกติและไปในเวลาประมาณ 16.00 น. ทีนี้พอเพื่อนเห็นภาพเลยเอาภาพไปให้คนที่สามารถสื่อกะกุมารได้อีกท่านดูเขาบอกว่า กุมารที่ถือธนู ท่านโกรธที่ดิฉันไปเอาเพื่อนเขาอีกคนดูบอกว่า เจ้าที่หน้าบ้านดิฉันโกรธเหมือนไปข้ามหน้าข้ามตาท่านทั้งๆที่เวลาดิฉันจะนำกุมารเข้าบ้าน ดิฉันย่อมจุดธูปขออนุญาตท่านเจ้าที่ พร้อมพระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านอยู่แล้ว คืนวันอาทิตย์ดิฉันเลยจุดธูปบอกกุมารที่เอามาจากศาลว่าถ้าแม่ผิดพลาดทำให้เพื่อนหนูขุ่นเคืองใจหรือพลาดพลั้งอะไรไป เผลอเรออะไรไปให้คืนนี้หนูไปปรับความเข้าใจกับเพื่อนที่ศาลแทนแม่หน่อยนะ เช้าดิฉันก็ลุกไปใส่บาตร 2 ชุด ให้ท่านเจ้าที่ ให้กุมารสายๆก็จัดข้าวปลาอาหารมาขอขมาท่านเจ้าที่หน้าบ้านอีกรอบหนึ่ง
พร้อมไหว้พระทั้งบ้านพร้อม
ที่ซมๆหายดีขึ้น ตอนนี้ก็กลับมาทำงานได้ปกติเช่นเดิมทั้งๆที่เมื่อวานแทบลงไปกองกับพื้น..........................
ก่อนที่คุณจะมอบใจให้กุมาร คุณนึกถึงเจ้าที่เจ้าทางบ้านคุณหรือยัง???