ช่วยตอบด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้วครับ [Engine by iGetWeb.com]

ช่วยตอบด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้วครับ

(อ่าน 886/ ตอบ 20)

ยุต

61.7.236.34

หัวข้อ :ช่วยตอบด้วยนะครับ ผมผิดไปแล้วครับ 19/05/2011 , 15:06 Quote

คือว่าผมมีอะไรกับแฟนคนอื่น โดยที่ผมไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน คือเธอเพิ่งจะมาบอกตอนหลัง อย่างนี้นี้มันเรียกว่า “ผิดลูกผิดเมียคนอื่น”

ในปัจจุบันผมได้บูชาลูกๆกุมารเทพ

ผมอยากทราบว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่าครับเกี่ยวกับตัวผมและลูกๆกุมารนะครับ

แล้วลูกๆกุมารจะหนีผมไปไหมครับ

ผมจะมีวิธีแก้ความผิดนี้อย่างไรบ้างครับ

Golden Doll

ความคิดเห็นที่ 1 19/05/2011 , 16:52 Quote

ผิดศิลเต็มๆ ปืนต้นงิ้ว ครับ

1.ไม่เกี่ยว
2.ไม่หนี
3.ไม่มีทางแก้ ครับ

เรื่องจริง ครับ กรรมแก้ไม่ได้

โอ๊ะ

49.49.83.214

ความคิดเห็นที่ 2 19/05/2011 , 17:10 Quote

ผมว่าถ้าไม่รู้ก้ไม่น่าจะเปงไรนะ ถึงจะผิด แต่ก้คงจะน้อยกว่าที่เรารู้แล้วทำ แต่ตอนนี้ถ้ารู้แล้ว ยังกินตับกันอีก อันนี้น่าจะผิดแน่นอนเลย

แม็ก ทางสามแพร่ง

61.90.99.202

ความคิดเห็นที่ 3 19/05/2011 , 18:28 Quote

จะบาปหรือไม่ อยู่ที่เจตนาครับ

แต่คุณก็บาปครับ แต่ความผิดไม่เท่ากับคนที่รู้แล้วยังกระทำ

แต่เรื่องนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังครับ

doremon

1.47.90.224

ความคิดเห็นที่ 4 19/05/2011 , 19:46 Quote

หากตอนแรกถ้าไม่รู้จริง ๆ ถือว่าไม่ผิดครับ
แต่ในเมื่อรู้แล้วก็เลิกซะนะครับ ไม่งั้นผิดศิล 5 เต็ม ๆ ครับ

สุดสุด

58.8.51.71

ความคิดเห็นที่ 5 19/05/2011 , 20:13 Quote

ศีลคือการละเว้นค่ะ

ปานาติปาตา เวรมณี คือการเว้นจากการฆ่าสัตว์
เพราะฉน้นไม่รู้ไม่ผิดค่ะ แต่ถ้ารู้แล้วยังทำผิดค่ะ

แม็ก ทางสามแพร่ง

61.90.99.202

ความคิดเห็นที่ 6 19/05/2011 , 21:13 Quote

ความผิดมีครับ บอกไปแล้วครับแต่ไม่ร้ายแรงเท่าคนที่รู้
ถึงจะไม่ผิดในข้อศีล เหตุเพราะไม่รู้

แต่ก็ผิดที่ทำให้อีกฝ่าย (ผู้ชายฝ่ายของผู้หญิง)

ต้องเสียใจ เพราะคุณก็ไปมีส่วนมีสัมพันธ์แบบชู้สาว

ถึงแม้คุณไม่รู้ก็ตาม แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายนั้นรู้ คุณจะเสียใจมั๊ยล่ะครับ

ชั่งน้ำหนักเอาครับ บอกได้เท่านี้

พราย

223.206.147.207

ความคิดเห็นที่ 7 19/05/2011 , 21:23 Quote

ขออนุญาตแย้งครับ เค้าว่าผู้ไม่รู้ทำบาปมักจะได้บาปมากกว่าผู้รู้นะ
ดังเช่น
อุปมา มีคนสองคนโดนทำโทษให้กำเหล็กที่โดนเผา มีคนที่จะโดนลงโทษให้กำคนนึงรู้ว่าเหล็กร้อน กับอีกคนไม่รู้ว่าเป็นเหล็กร้อน
ถามว่า สองคนนี้ใครจะกำแรงกว่ากัน
ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม รู้รึไม่รู้ก็ทำไปแล้ว แต่เมื่อรู้แล้วจะยังทำอีกไหมแค่นั้น
ลดล่ะเลิก เจริญธรรม

PP

61.90.92.69

ความคิดเห็นที่ 8 19/05/2011 , 22:28 Quote

ART_WizarD จริงเหรอ

ปริญญา

58.8.201.206

ความคิดเห็นที่ 9 20/05/2011 , 11:00 Quote

เคยดูองค์คุลีมารไหมครับ ก็ตามนั้น ผมว่าการโดนหลอกมาอีกที ผิดก็ผิดน้อย

แม็ก ทางสามแพร่ง

115.87.147.140

ความคิดเห็นที่ 10 20/05/2011 , 14:04 Quote

สมมุติ

คนที่ ๑ ขับรถถอยหลังชนแมวตาย แต่ถอยหลังชนแมวตายโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเพราะคนขับมองไม่เห็นแมว

เลยชนโดยที่ไม่รู้ว่ามีแมวอยู่หลังรถตรงนั้น

ส่วนคนที่ ๒ ขับรถถอยหลังตั้งใจชนแมวให้ตาย โดยที่เห็นแมวตัวอยู่ข้างหลังรถ

แต่คนขับก็ยังจะถอยหลังชนให้ตาย

แล้วระหว่างคนที่ ๑ ที่ไม่ได้ตั้งใจชนกับคนที่ ๒ ที่ตั้งใจชนคนไหนจะบาปกว่ากันครับ

เรื่องเหล็กร้อน ถ้าคนที่รู้ว่าร้อนจะไม่จับเหล็กนั้น แต่คนที่ไม่รู้ว่าร้อนจะจับเหล็ก

แต่ถ้าคนที่ไม่รู้ว่าเหล็กนั้นร้อนหรือไม่ ถามคนที่รู้ว่าเหล็กร้อน เค้าก็คงไม่จับเหล็กนั้น

ถึงเค้าจะจับไปแล้ว ถ้ารู้ว่าร้อนคงไม่จับอีกแน่

เหมือนคุณ เจ้าของกระทู้ รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้มีครอบครัวแล้ว คงไม่ไปยุ่งอีก ก็คงจะไม่ไปจับเหล็กให้ร้อนอีกครั้ง

ผู้หญิง ก็คือ เหล็กที่ร้อน (ทำให้คุณร้อน ร้อนใจ หรือร้อนอะไรก็ตาม)

แต่ถ้ารู้แล้ว คุณ เจ้าของกระทู้ยังจะไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก รู้ว่าเหล็กร้อนก็ยังไปจับ อันนี้นี้สิครับ สำคัญกว่าเพราะว่ารู้แล้วแต่ก็ยังไปจับ เจตนาที่จะทำทั้งที่รู้ บาปหนัก กว่าตอนแรกที่คุณไม่รู้อีกครับ

ที่บอกว่าคนที่ไม่รู้บาปกว่านั้น คือ พอเค้ารู้ว่าไปเป็นชู้ คนที่ไม่รู้ว่าไปเป็นชู้เค้ามีความละอายต่อบาปมากกว่า

จึงบาปกว่าคนที่รู้ บาปกว่าเพราะละอายในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

ส่วนคนที่รู้แล้วยังไปกระทำบาปน้อยกว่า คือ รู้ว่าไปเป็นชู้ แต่ไม่มีความละอายต่อบาปเลย รู้แล้วยังทำ

จึงบาปน้อยกว่าคนที่ไม่รู้ บาปน้อยกว่าเพราะไม่ละอายในสิ่งที่ตัวเองทำ ทั้งๆที่รู้ครับ

จึงมาให้พิจารณากันครับ

แม็ก ทางสามแพร่ง

61.90.74.248

ความคิดเห็นที่ 11 20/05/2011 , 20:14 Quote

ขอโทษนะครับตัวเล็กไป บางคนมองไม่ชัด

สมมุติ

เลยชนโดยที่ไม่รู้ว่ามีแมวอยู่หลังรถตรงนั้น

แต่คนขับก็ยังจะถอยหลังชนให้ตาย

ถึงเค้าจะจับไปแล้ว ถ้ารู้ว่าร้อนคงไม่จับอีกแน่

ผู้หญิง ก็คือ เหล็กที่ร้อน (ทำให้คุณร้อน ร้อนใจ หรือร้อนอะไรก็ตาม)

จึงบาปกว่าคนที่รู้ บาปกว่าเพราะละอายในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

จึงมาให้พิจารณากันครับ

พราย

223.207.188.154

ความคิดเห็นที่ 12 20/05/2011 , 23:10 Quote

ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความมากกว่ากันแห่งบาปและบุญ

“ ข้าแต่พระนาคเสน บุญและบาปข้างไหนมากกว่ากัน ? ”
“ ขอถวายพระพร บุญมากกว่าบาป บาปน้อยกว่า ”
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ทำไมจึงว่าบุญมากกว่า บาปน้อยกว่า? ”
“ ขอถวายพร บุคคลทำบาปแล้วย่อมร้อนใจในภายหลังว่า เราได้ทำบาปไว้แล้วเพราะเหตุนั้นบาปก็ไม่ได้มากขึ้น ส่วนบุญเมื่อบุคคลทำเข้าแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง มีแต่เกิดปราโมทย์ ปีติ ใจสงบมีความสุข จิตเป็นสมาธิ เพราะฉะนั้น บุญจึงมากขึ้น ดังมีบุรุษผู้มีมือมีเท้าขาดแล้ว ได้บูชาพระด้วยดอกบัวเพียงกำเดียว ก็จักได้เสวยผลถึง ๙๑ กัปด้วยเหตุนี้แหละ จึงว่าบุญมากกว่า ขอถวายพระพร”
“ ชอบแล้ว พระผู้เป็นเจ้า ”

ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงการทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้

“ ข้าแต่พระนาคเสน สมมุติว่ามีคน ๒ คน คนหนึ่งรู้จักบาป อีกคนหนึ่งไม่รู้จัก แต่กระทำบาปด้วยกันทั้งสองคน ข้างไหนจะได้บาปมากกว่ากัน ? ”
“ ขอถวายพระพร ข้างไม่รู้จักได้บาปมากกว่า ”
“ ข้าแต่พระนาคเสน ราชบุตรของโยมหรือราชมหาอำมาตย์คนใดรู้ แต่ทำผิดลงไปโยมลงโทษแก่ผู้นั้นเป็นทวีคูณ ”
“ ขอถวายพระพร มหาบพิตรจะเข้าพระทัยความข้อนี้อย่างไร...คือสมมุติว่ามีคน ๒ คน จับก้อนเหล็กแดงเหมือนกัน คนหนึ่งรู้ว่าเป็นก้อนเหล็กแดง อีกคนหนึ่งไม่รู้ คนไหนจะจับแรงกว่ากัน ? ”
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คนไม่รู้จับแรงกว่า ”
“ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ไม่รู้บาปได้บาปมากกว่า”
“ ชอบแล้ว พระนาคเสน ”

ปัญหาที่ ๒ ถามว่า ผู้ที่ทำบาปมาตั้ง ๑๐๐ ปี ถ้าเวลาจะตาย ทำจิตให้ผ่องใสได้ก็ไปสุคคติ จะไปได้จริงหรือ
(เป็นสำนวนแปลของนายยิ้ม ปัณฑยางกูร จากหนังสือ "ปัญหาพระยามิลินท์" ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)

     พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า
     "ดูก่อนพระนาคเสน คำที่เธอว่าผู้ที่ทำบาปกรรมเรื่อยมาแม้ตั้ง ๑๐๐ ปี แต่ถ้าเวลาจะตาย มีสติระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าได้ ก็ย่อมนำไปเกิดในสวรรค์ ส่วนผู้ที่ทำบาปแม้แต่ครั้งเดียวก็ย่อมไปเกิดในนรกนั้น ดูไม่สมเหตุผล ข้าพเจ้าก็ยังไม่เห็นด้วย"
     พระนาคเสนทูลตอบว่า
     "ขอถวายพระพร ศิลาแม้ก้อนเล็กโดยลำพังจะลอยน้ำได้หรือไม่"
     " ไม่ได้ "
     " ก็ถ้าศิลาตั้ง ๑๐๐ เล่มเกวียน แต่อยู่ในเรือ ศิลานั้นจะลอยน้ำได้หรือไม่ "
     " ก็ได้สิเธอ "
     " ขอถวายพระพร เปรียบบุญกุศลเหมือนเรือ บาปกรรมเหมือนศิลา อันคนที่กระทำบาปอยู่เสมอจนตลอดชีวิต ถ้าเวลาจะตาย มิได้ปล่อยจิตใจให้ตามระทมถึงบาปที่ตัวทำมาแต่หลังนั้น สามารถประคองใจไว้ในแนวแห่งกุศลอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น อาจทำใจให้แน่วอยู่เฉพาะแต่ในพระคุณของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ถ้าตายลงในขณะแห่งจิตดวงนั้น ก็เป็นอันหวังได้ว่าไปสู่สุคติ ประหนึ่งศิลา ซึ่งมีเรือทานน้ำหนักไว้ มิให้จมลงฉะนั้น ส่วนผู้ที่กระทำบาปที่สุดแต่ครั้งเดียว ถ้าเวลาใกล้จะดับจิต เพียงแต่จิตหวนไปพัวพันถึงกิริยาอาการที่ตัวกระทำบาปกรรมไว้เท่านั้น จิตดวงนั้นก็เป็นหนักพอที่จะถ่วงตัวไปให้เกิดในนรก ซึ่งเหมือนศิลาที่เราโยนลงไปในน้ำ แม้จะก้อนเล็กก็คงจมเช่นเดียวกัน "
     " สมเหตุสมผลละ "

ปัญหาที่ ๙ ถามถึงความมากกว่ากันแห่งบาปและบุญ

ปัญหาที่ ๑๐ ถามถึงการทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้

Golden Doll

ความคิดเห็นที่ 13 21/05/2011 , 08:56 Quote

เอาเป็นว่าถือศิล 5 ละเลิกการทำบาปทั้งปวง จบข่าว

แม็ก ทางสามแพร่ง

58.11.60.75

ความคิดเห็นที่ 14 21/05/2011 , 10:47 Quote

โดยทั่วไป ผู้ไม่รู้ว่าผิดทำลงไป มักทำด้วยเจตนาที่แรง จึงมักได้บาปมากกว่า

แต่ก็เป็นกรณีๆไป เพราะผู้ที่รู้มักจะ กระทำอย่างระวัง เช่น ทำร้ายร่างกาย อาจคิดที่จะเอาถึงชีวิต

แต่ถ้าเอาถึงชีวิตอาจ จะบาปมากกว่า เลยเอาแค่บาดเจ็บ

แต่ถ้าเป็นกรณีพิเศษ อย่างเจ้าของกระทู้ หลักที่พึงใช้ในการพิจารณาว่าอันไหนแรงกว่ากันต้องดูเป็นกรณีไป

ที่คนที่รู้ทั้งรู้แต่ยังทำอย่างตั้งใจชนิดไม่เกรงกลัวบาปกรรม กรณีนี้คนที่รู้ทั้งรู้ก็คงจะบาปมากกว่า เพราะขนาดรู้ทั้งรู้

ยังไม่กลัวบาปกรรมเจตนาจึงแรงกล้ามากคนที่ไม่รู้

ART_WizarD

182.53.147.64

ความคิดเห็นที่ 15 21/05/2011 , 13:45 Quote

โอ๊ยยยยยยยย ลายตา เอาเป็นว่าถ้ารู้แล้วยังจะทำต่อหรือป่าว เพราะคงเถียงกันไม่จบ ถึงเราไม่ทำบาปข้อนี้แล้วคิดหรือว่าชีวิตนี้เราจะไม่ทำบาปอะไรอีก

บางทีอาจจะหนักกว่าข้อนี้อีก

ART_WizarD

182.53.147.64

ความคิดเห็นที่ 16 21/05/2011 , 14:09 Quote

นึกขึ้นมาได้ ประเด็นนี้เหมือน เรยา กับ CK พอ CK รู้ว่า เรยาเป็นเมียพี่ชายใหญ่ หลังจากนั้นเขาก้อไม่ยุ่งกับ เรยา เลย

แล้วก้อลองคิดดูนะคับว่า CK จะบาปไหม อิอิ

ในด้าน เรยา ที่ไปแย่งสามี คุณเด่น และคุณดี๋ ทั้งๆที่รู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว สุดท้าย เรยา เป็นยังไงคับ