สืบเนื่องจากได้อ่านข้อมุลบางเว็บเกี่ยวกับกุมารทองของสำนักวัดไผ่ล้อม ลพ.พูล มีข้อมูลซึ่งเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่ถูกต้อง ทั้งเรื่องกุมารทองสมบัติซึ่งออกโดยวัดไผ่ล้อมมีหลากหลายุรุ่น แต่วันนี้จะขอลงรูปและข้อมูลที่มีหลักฐานประกอบจากหนังสือพระในช่วงที่ทางวัดออกให้บูชา เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจ
          เมื่อก่อนผมไปวัดไผ่ล้อม นครปฐม มาเกือบทุกเดือน จึงอยากนำเสนอข้อมูลในส่วนที่ผมพบเห็นมา
          ลพ.พูลได้ออกวัตถุมงคลเป็นกุมารทองรุ่นสมบัติขนาดพกพา  เป็นเนื้อผงดิน 7 ป่าช้าผสมผงไม้ตะเคียน รุ่นแรกในปี 2541 จำนวน 500 องค์ ใต้ฐานจะมีโค๊ตแผ่นทองคำ "สมบัติ" ตัวอักษรด้านหน้ากุมารทองจะเป็นตัวอักษรจม ไม่ใช่อักษรนูน ออกให้บูชาวันแรกก็แทบหมดจากวัด  ลพ.พูลปลุกเสกวันสุดท้ายคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2541 เวลา 19.09 น.
วันที่ผมไปบูชาไปรอที่วัดตั้งแต่ 6 โมงเช้า หลังปลุกเสกเสร็จ ลพ.พูลไม่ได้พักผ่อน ปลุกเสกทั้งคืนในคืนสุดท้าย มีลูกศิษย์มารอบูชาก่อนผมกันจำนวนมาก บางคนมานั่งรอในพิธีทั้งคืน บางคนมาจากต่างจังหวัดขับกระบะนั่งมากันเต็มท้ายรถมารอบูชา  ตอนออกให้บูชาต่างบูชากันคนละหลายๆ องค์ จนหลวงพี่น้ำฝน (ผู้ช่วยในขณะนั้น) บอกให้พระลูกวัดแบ่งเก็บไว้สำหรับผู้สั่งจอง วันนั้นวันเดียวก็หมดแล้ว ในหนังสือพระเครื่องบางฉบับบอกว่าหมดภายใน 3 วัน ก็น่าจะเข้าใจอยู่ว่าคงตกค้างเหลือหลังจากแบ่งเก็บกันไว้ส่วนหนึ่งสำหรับผู้สั่งจอง บางคนมาทีหลังไม่ได้ ไม่พอต่อความต้องการ จำได้ว่าหลวงพี่น้ำฝนบอกกับคนที่มาเช่าหาว่าให้ลองไปที่วัดใหม่ปิ่นเกลียวดู เพราะมีแบ่งไปให้ 100 องค์ ทำบุญทอดผ้าป่าเข้าวัดใหม่ปิ่นเกลียว ลพ.สมพงษ์ ธีรธมโม เป็นเจ้าอาวาส และไม่มีสร้างเสริม  แต่มีการจัดสร้างขึ้นใหม่ปลุกเสกใหม่เป็นรุ่นสองตอบสนองความต้องการของลูกศิษย์ จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2541 ปลุกเสกใหญ่ในปลายปีต่อเนื่องในปีถัดมา ถือเป็นปี 2542ได้ออกกุมารทองสมบัติเนื้อผงรุ่นสอง ขนาดรูปร่างใกล้เคียงรุ่นแรกมาก (ออกจะใหญ่กว่านิดๆ )  เนื้อมวลสารเหมือนกับรุ่นแรก  ดูตามรูป  แต่แตกต่างกันตรงตัวอักษรกุมารทอง เป็นตัวอักษรนูน ตอกโค๊ตทองคำ"สมบัติ" และมีโค๊ตยันต์เล็กๆ ตอกจมลงไปในเนื้อองค์กุมารทอง  ปลุกเสกนานเช่นเดียวกับร่นแรก จากนั้นจึงเป็นรุ่นสัตโลหะมวลสารตะปูตอกฝาโลง ฯลฯก้นอุดผงดิน 7 ป่าช้าและผงตะเคียนเหมือนรุ่นแรกๆ  รุ่นหลังๆ ผมไม่ได้บูชาเก็บไว้ครับ เพราะชอบเก็บรุ่นแรกๆ ระหว่างที่กุมารทองของลพ.กำลังดัง ทางวัดได้ออกรัก-ยมบรรจุขวดออกให้บูชา แต่ไม่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ ออกมาจำนวนน้อย  และหลังจากสร้างอุโบสถหลังใหม่เสร็จผมก็ไปน้อยลง เพราะลูกศิษย์มากันเป็นร้อยๆ คิวยาวมาก อีกทั้งลพ.อายุสังขารมาก เลยไม่ไปรบกวน ปล่อยให้ศิษยานุศิษย์ท่านอื่นได้เข้าพบเวียนกันไป ไปครั้งหลังสุดตอนไปกราบลพ.พูล ตอนท่านมรณภาพบรรจุในโลงแก้ว ร่างไม่เน่าเปื่อย หวยออกตามอายุ และพรรษาของลพ. นสพ.ทุกฉบับลงตีพิมพ์ดังระเบิดทั่วประเทศหลายงวดซ้อน จนหลวงพี่น้ำฝนออกมาเตือนสติคนเล่นหวยและมาหาเลขเด็ดในวัด





กุมารทองสมบัติขนาดพกพารุ่นแรก ตัวอักษรจม ก้นแผ่นทองคำ








กุมารทองสมบัติ รุ่นสอง ตัวอักษรนูน ก้นแผ่นทองคำสมบัติเหมือนกัน บางคนถือเป็นรุ่นแรกเหมือนกัน ก้นตอกโค๊ตยันต์

          ส่วนกุมารทองสมบัติเนื้อดิน 7 ป่าช้า ผสมผงไม้ตะเคียนขนาดบูชามี 2 ขนาดคือ  3 นิ้ว และ 5 นิ้ว สร้างในปลายปี 2541 ออกบูชาในต้นปี 2542  วันที่ผมไปบูชาที่วัดขณะนั้น กุมารทองขนาดบูชาทั้ง 2 ขนาดเป็นเนื้อดินล้วนๆ ยังไม่มีปิดทอง หลวงพี่น้ำฝนได้ให้ช่างมานั่งในกุฎิใกล้กับตู้วัตถุมงคล ให้ทำการปิดทองกุมารทองขนาดบูชา ทะยอยปิดทองทาทองเป็นองค์ๆ ไป บางคนจะบูชาแบบเดิมๆ ก็มี บนตู้บูชามีตัวอย่างให้ชมทั้ง 2 แบบ  หากจะบูชาแบบปิดปัดทองก็มีแต่เพิ่มค่าบูชาเพิ่มอีกนิดหน่อย  เมื่อเทียบดูแล้วดูสวยกว่าเดิมมาก ผมเห็นแล้วจึงรอองค์ที่ปิดทอง เพราะกุมารทองมีคำว่า "ทอง" จึงเหมือนกับถ่วายชุดให้ใหม่ แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วให้ลพ.พูลท่านเสกเจิมให้อีก  ส่วนผู้ที่สั่งจองทางไปรษณีย์หรือจองตามศูนย์พระเครื่องอาจจะได้รุ่นที่ไม่ได้ปิดทองให้ เพราะหากปิดทองต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รุ่นที่ไม่ปิดทองเนี้อจะแห้ง ส่วนที่ปิดทองจะมีลักษณะการทาน้ำยาเคลือบไว้เพื่อให้แผ่นทองติด เหมือนกับปัดทองพระจตุคามรามเทพที่นิยมกัน  สังเกตดูตรงใต้ฐานเนื้อจะแห้งเหมือนรุ่นที่ไม่ติดทอง  อีกทั้งดูจากรูปภาพโฆษณาของทางวัดในนิตยสารพระเครื่องที่ถ่ายภาพประกอบมายืนยัน จะเห็นว่ามีรูปกุมารทองด้านหลังมีองค์ปิดทองอยู่ด้วย  ส่วนกุมารทองรุ่นสมบัติหลังๆ จะเป็นของหลวงพี่น้ำฝนขนาดแตกต่างกัน รูปแบบคล้ายกัน ปัจจุบันของปลอมกมีออกมาก็เพราะไม่มีตัวอย่างให้ศึกษา กุมารทองสมบัติของลพ.พูลจะมีสีออกดำนิดๆ มีผงไม้ตะเคียนผสมอยู่ ไม่มีสีขาวจั๊วะ และให้สังเกตใต้ฐานโค๊ตสมบัติ ตัวหนังสือให้ดี  ตัวอักษรรอบฐาน 
          ดังนั้นกุมารทองสมบัติขนาดบูชา 3 นิ้ว 5 นิ้วมีแบบปิดทองและไม่ปิดทองครับผม  บางองค์ปิดทองมากกว่านี้ก็มีครับ โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย เพราะผมไปบูชาที่วัดและได้พบเห็นการปิดทองมาอดไม่ได้ที่จะบอกเล่าให้ฟัง เพราะกุมารทองสมบัติรุ่นแรกหายากแล้ว    อีกประการหนึ่งกุมารทององค์ที่ปิดทองส่วนใหญ่จะบูชามาจากวัดโดยตรงตามที่กล่าวมาแล้ว และลูกศิษย์ก็อดไม่ได้ที่จะให้ลพ.พูลเจิมเสกให้อีกครั้งครับ
ส่วนกุมารทองสมบัติรุ่นอื่นๆ ของทางวัดไผ่ล้อมรุ่นหลังๆ มาผมไม่ได้ตาม ไม่ได้บูชาไว้และไม่ได้ติดตามจึงไม่ทราบ รู้เท่าที่ได้สัมผัสมาเท่านั้น




ภาพโฆษณาในนิตยสารพระเครื่องยืนยันว่ามีรุ่นปิดทองด้วย  และมีแค่หน้าตัก 3 นิ้วกับ 5 นิ้วครับผม
นอกเหนือจากนี้น่าจะเป็นรุ่นหลังลพ.พูลมารภาพไปแล้ว




กุมารทองสมบัติขนาดบูชา 3 นิ้ว รุ่นแรกของลพ.พูล วัดไผ่ล้อม ปิดทอง สังเกตตัวอักษรรอบๆ ฐานและเหรียญทองแดงใต้ฐาน ตอกโค๊ตสมบัติ













 ผิวเน้ือมวลสารใต้ฐานจะมีลักษณะอย่างนี้ มีมวลสารต่างๆ ให้เห็น แต่หากไม่ได้ปิดทองเน้ือหามวลสารผิวกุมารทองจะแห้งเหมือนกับใต้ฐาน
แต่หากมีการปิดทองผิวตัวองค์กุมารทองจะมัมวาวบางส่วน เหรียญใต้ฐานวงใหญ่


         เมื่อมีกุมารทองจะไม่มีพระขุนแผนก็ไม่ได้ ของคู่กัน ในวาระเดียวกันที่มีปลุกเสกกุมารทองสมบัติ ก็มีพระขุนแผนมี 2 เนื้อคือ เนื้อผงพุทธคุณผสมผงตะเคียนและเนื้อดินเผา ปลุกเสกในพิธีเดียวกัน ลักษณะพระมีความหนาบางแตกต่างกัน  จำนวนการสร้างน่าจะมีมากเพราะมีการออกให้บูชา พร้อมทั้งแจกให้บูชาสำหรับประชาชนเข้าร่วมพิธีสวดนพเคราะห์เสริมดวงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทุกปีเป็นประจำของวัดไผ่ล้อม พระขุนแผนของลพ.พูลมีหลากหลายสี  ผมพยาพยามเก็บให้ได้สีมากที่สุดแต่น่าจะยังไม่ครบแต่ไม่มีข้อมูลว่ามีกี่สี ถือเป็นพระขุนแผนรุ่นสอง เพราะในปี 2506-2508 ลพ.ได้ออกพระขุนแผนยอดขุนพลรุ่นแรกแต่มีจำนวนน้อย มวลสารขุดดินจากหน้าอุโบสถหลังเก่าเป็นดินเหนียวเนื้อแน่นมาก





          ในวาระเดียวกันก็มีปลุกเสกพญาเต่าเรือนเนื้อดินโป่ง รุ่นแรก เป็นดินโป่งอาถรรพ์ที่มีเทพยาดาอารักษ์ดูแลรักษา ดินโป่งส่วนหนึ่งได้จากวัดเกาะวังไทร ของลพ.เต้า เขมโย อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งรวบรวมไว้ตอนลพ.มีชีวิตอยู่ ลพ.เต้าเป็นสหธรรมิกของลพ.พูล มีพรรษาสูงกว่า มีความสนิทสนมกันมาก  ลพ.พูลเรียกลพ.เต้า ว่าหลวงพี่เต้า




ใต้ฐานมีเหรียญทองแดงยันต์เดียวกับกุมารทองสมบัติ แตกต่างกันตรงตัวอักษรใหญ่เล็กกว่ากัน




           ส่วนกุมารทองของลพ.ไสว วัดปรีดารามออกมากี่รุ่นไม่ทราบ แต่ผมมี 2 รุ่นคือร่นแรกและรุ่นสอง เนื้อโลหะอาถรรพ์อุดผงและฝังตะกรุดปลุกเสกเป็นไตรมาสเช่นเดียวกับสายลพ.พูล (พระสายเกจินครปฐม ราชบุรีมักจะนิยมปลุกเสกพระเครื่องเป็นไตรมาส หลายๆ เดือน หาฤกษ์ยามปลุกเสกเดี่ยวและสุดท้ายจะปลุกเสกหมู่ จึงค่อยนำออกให้เช่าบูชา) เอามาให้ชมเป็นตัวอย่าง รุ่นแรกพนมมือ ส่วนรุ่นสองกวักมือครับ

กุมารทองรุ่นแรก ลพ.ไสว วัดปรีดาราม เทพเจ้าแห่งคลองจินดา นครปฐม หายาก ไม่ค่อยจะพบเห็นกัน รุ่นแรกปลุกเสกห้วงเวลาเดียวกับกุมารทองสมบัติ ลพ.พูล
คือปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส ออกให้บูชาเวลาเดียวกับกุมารทองสมบัติ เพื่อนำปัจจัยสร้างอุโบสถหลังใหม่ (สร้างเสร็จเกือบจะพร้อมกับวัดไผ่ล้อม)
ลพ.ไสว มรภาพในวันลอยกระทง ก่อนจะมีพิธีเฉลิมฉลองปิดทองฝังลูกนิมิตอุโบสถหลังใหม่


กุมารทองรุ่นสองของ ลพ.ไสว วัดปรีดาราม นครปฐม ใต้ฐานอุดผงและตะกรุด องค์นี้เลี่ยมจากวัดเลย วัตถุมงคลของลพ.ไสวบางรุ่นจะเลี่ยมให้เสร็จ
เพื่อให้ผู้ที่บูชาไปสวมใส่ห้อยคอได้เลย อีกทั้งช่วยให้ช่างเลี่ยมพระลูกศิษย์วัดมีรายได้ทางหนึ่งด้วย ดารานักร้องนักแสดงจะแวะเวียนไปให้ลพ.ลงนะหน้าทอง เป็นเสน่ห์เมตตา หากเป็นผู้ชายลพ.จะตบทองคำเปลวลงบนหน้าผากโดยไม่ต้องแกะกระดาษหุ้มแผ่นทองเปลวออก มีข้อห้ามสำหรับคนไปลงนะหน้าทองคือห้ามด่าพ่อแม่ บ้วนน้ำลายลงพื้น ขณะขับถ่ายหนักเบาห้ามพูด และผิดลูกเมียชาวบ้าน เคยมีข่าวคนสมัยก่อนได้ลงทองหน้าผาก เมื่อตายไปแล้วเผาศพ พบกระโหลกศีรษะมีติดทองคำเปลวอยู่เลย

          ครั้งก่อนเคยโชว์ลูกกุมารทองของพระอาจารย์โชติ อาภคโค วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลยมังสาหาร จ.อุบลราฃธานีไปค้นเจอข้อมูลมาจากหนังสือพระเอามาให้ดู ว่าใต้ฐานบรรจุผงอาถรรพ์ 108 ไม้พญางิ้วดำ และที่สำคัญบรรจุเส้นผมเกล้านางนี




ใต้ฐานบรรจุผงอาถรรพ์และเส้นผมเกล้านางนี






         กุมารทองของลพ.ดำ วัดสันติธรรม รุ่นแรกใต้ฐานอุดผงมหาภูติลิ้นทองผสมผงกระดูก สังเกตจะเห็นเศษกระดูกชิ้นเล็กๆ บรรจุอยู่ รุ่นนี้แรงมาก



ใต้ฐานกุมารทองของลพ.ดำ วัดสันติธรรม บรรจุมวลสารและกระดูก


          กุมารทองของแต่ละสำนักใต้ฐานหรือส่วนผสมจะแตกต่างกันไปตามตำรับตำราที่แต่ละอาจารย์ได้ศึกษามาแต่โบราณ ผมพยายามค้นหารายละเอียดส่วนผสมของผงต่างๆ ที่ใช้ทำกุมารทองที่แปลกแตกต่างกันไป ได้เก็บรวบรวมไว้เพราะบางองค์แปลกและน่าสนใจ โดยส่วนตัวไม่ค่อยเก็บแบบหล่อโลหะล้วนๆ ถ้าเป็นโลหะต้องมีอุดผงอาถรรพ์ หรือโลหะต้องเป็นโลหะที่มีที่มาที่ไป เป็นวัสดุอาถรรพ์ต่าง ๆ เฃ่นตะปูตอกฝาโลง ฯลฯ พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกได้รับการยอมรับประพฤติปฏิบัติดี พิธีกรรมชัดเจนมีประสบการณ์ทางด้านวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ และโดยเฉพาะหากปลุกเสกตลอดไตรมาสจะยิ่งขลังเพราะพระอาจารย์ต่างๆ ต้องเรียกอาการ 32 ปลุกเสกใช้งานได้เห็นผลจึงจะออกให้ลูกศิษย์ใช้


           ประสบการณ์ตอนแรกๆ ที่บูชากุมารทองสะสมทีละองค์สององค์ เคยอยู่ครั้งหนึ่งจำไม่ได้ว่าไปบูชากุมารทองของลพ.อะไรมานำเข้าบ้านมาแล้วเข้าทำธุระในห้องน้ำ ได้ยินเสียงเด็กๆ กรี๊ด และตะโกนบ้างสลับกับร้องไห้ผสมกันไปเสียงดังมาก ผมเข้าใจว่าเป็นเสียงลูกสาวและลูกชายยังเล็กอยู่ทะเลาะตีกันเสียงดังมานอกห้อง จึงตะโกนไปว่าทะเลาะอะไรกัน แล้วรีบออกมาจากห้องน้ำเปิดประตูเข้าไปในห้อง ปรากฏว่าลูกสาวและลูกชายนั่งเล่นกันอยู่เงียบๆ ถามดูไม่มีทะเลาะกัน และไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ทะเลาะกัน จึงนึกขึ้นได้ว่าเสียงที่ได้ยินเด็กทะเลาะกันน่าจะยังไม่ได้บอกกุมารทองบนหิ้งว่าได้บูชาน้องกุมารทองมาใหม่เพิ่มเติมนั่นเอง จึงรีบไปบอกกล่าวให้รับรู้ อยู่ด้วยกันช่้วยกันทำมาหากินอย่าทะเลาะกัน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้ยินเสียงเด็กทะเลาะกัน

          เนื้อหาข้อมูลถูกผิดอย่างไรหรือไปกระทบผลประโยชน์ผู้ใดขอให้แย้งได้นะครับ ถือเป็นการแบ่งปันความรู้และข้อเท็จจริงที่ผมได้สัมผัสมาโดยตรง หรือหากจะสอบถามกับหลวงพ่อน้ำฝนเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันดูเพิ่มเติมได้