รบกวนดูจิตให้หน่อยคับ [Engine by iGetWeb.com]

รบกวนดูจิตให้หน่อยคับ

(อ่าน 899/ ตอบ 8)

แบ็งค์ meang_cool@hotmail.com 223.206.67.208	หัวข้อ :รบกวนดูจิตให้หน่อยคับ 12/08/2011 , 15:49 Quote อยากทราบว่า มีจิตมั้ยคับ แล้วอายุเท่าไรอ่าคับ (ผมเคยทำผิดต่อเค้า กลัวน้องเค้าน้อยใจวิ่งกลับวัดไปอ่าคับ อยากทราบว่า มีจิตมั้ยคับ แล้วอายุเท่าไรอ่าคับ (ผมเคยทำผิดต่อเค้า กลัวน้องเค้าน้อยใจวิ่งกลับวัดไปอ่าคับ Tweet
กุมารทอง 202.91.19.169	ความคิดเห็นที่ 1 12/08/2011 , 21:14 Quote กุมารกินบุญ� ถ้าจะหมายถึง เราต้องทำบุญให้เขาก็ถูกต้องแล้วนะครับ� กุมาร ต้องอาศัยบารมี ในการช่วยเหลือคนครับ� ไม่ใช่ว่า มาบูชาแล้วก็ ให้ข้าวให้น้ำ แบบนั้น เขาเรียกว่าเลี้ยงผีครับ ผมเห็นมาเยอะแล้ว เลี้ยงกุมาร พราย ส่วนมากระแทกเข้าตัวหมดไม่เหลือครับ หลายคนก็บูชามา เยอะ หลายวัด แรงๆ อภนิหารเยอะ แยะไปหมด คิดวา่ดี คิดว่าแรง จริงๆ ผิดครับ นั้นเขาเรียกว่าผีหลอกแล้ว� กุมารที่เก่งจริงๆ นั้น ต้องช่วยดลใจ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เดือนภัย และที่ำสำคัญจริง คือดลใจ ครับ กุมารจะถนัด เรื่องนี้เป็นส่วนใหญ่� แต่ถ้าเรามีบารมีมากกว่าเขา แต่เขาไม่มีบารมีเลย ยากครับที่จะติดต่อกันได้� นั้นก็หนึ่งเหตุผลที่กุมารเงียบ แต่ถ้ากุมาร มีบารมีเก่งพอควร แต่เราเป็นคนที่ไม่มีบารมี (หรือไม่ไว้พระสวดมนต์ ทำบุญไม่ถูกทาง ) อันนี้กุมาร เขาก็จะสามารถติดต่อได้กับเราได้ เพื่อช่วยเหลือ ในสิ่งช่วยได้ครับ ตอบคุณ มือใหม่� ถ้าเป็นกุมารสายพราย สิ่งที่ผมจะแนะนำได้เบื้องต้น การถวาย เราก็ถวายผลไม้ ขนม หรืออะไรที่เป็นเจ หรือ มังสารัติ ไปเลย เราก็เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่กับเขา ก็เหมือนเลี้ยงลูกครับ� หัดเขาไปเรื่อย เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนไปเอง (อันนี้ความคิดของผมนะ)� ถ้าหาคนดูจิตกุมารเก่งๆ ได้ก็ดีจะได้รู้ว่าเขาอายุกี่ขวบ แต่ถ้า 4 เดือน - 3 ขวบ เนี่ย ช่วยเหลืออะไรไม่ได้แน่นอน ต้องเลี้ยงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะใช้งานได้ อันนี้ มันก็ต้องดูผู้เรียกกุมาร ว่าเขากำกับแบบไหนมา บางอาจารย์ไม่เก่ง ได้เดือน 8 เดือนมา เลี้ยงเหนื่อยหน่อย เขาจะโต ใช้งานได้ **** เรื่องการจุดธุป ผมไม่เคยจุดเลยครับ เพราะไม่สะดวกในการจุด ผมใช้กำยานแทน แต่เป็นการจุดถวาย พระและเทพทั้งหมด * การบูชาเบื้องต้นที่จะแนะนำก่อนเลยนะครับ� ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างเพื่ออะไร� และราคาเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมรู้มาว่า ถ้าจะสร้างกุมารเทพเนี่ย� กฎของเบื้องบนคือต้องมาช่วยเหลือคนครับ ถ้าวัดนั้นทำถูกต้อง รับรองกุมารที่ได้มา เกือบ 100 % เป็นเทพทั้งหมด� แต่ถ้าวัดนั้น เน้นธุรกิจ หรือ เชิงพานิชย์ เกินไป ก็โดนปิดครับ สิ่งที่ได้มาก็ ผี รอบๆ วัด หรือ พิธีแถวนั้น เอง� ดีหรือไม่ดี ก็คิดเอาเองครับ ***จากประสบการณ์********* มีน้องอยู่คนหนึ่ง เขาได้ไปเอากุมาร มา 2 องค์ มาไว้ที่บูชาที่ตัวครับ� อยู่มาวันหนึ่งเริ่มมีเรื่องผิดปกติ เกิดขึ้นคือ น้องคนนั้น ไ่ม่อ้วนครับ ผอมลงทุกวัน และเวลาพูด ก็จะมีกลิ่นปากเหม็นมากๆ สุดท้าย คือเจอกุมาร แฝงร่างไปเต็มเลยครับ เพราะนิสัยมักง่ายเขา ไม่ค่อยถวายข้าว หรือ ขนมให้กุมาร ชอบเรียกว่า ลูกมากินกับพ่อมา สุดท้ายเป็นไง กุมาร แฝงร่างไปเต็ม� จนติดเป็นนิสัย ผมจึงให้เขา สวดมนต์ และตามด้วยบท พ่อยม เท่านั้นกุมาร หลุดเลย แต่ผมจะไม่บอกวิธีแก้นะครับ เดี๋ยวคนจะหมั่นใส้ ว่ามาหาผลประโยชน์ ยิ่งกลัวโดนด่าอยู่ กุมารกินบุญ� ถ้าจะหมายถึง เราต้องทำบุญให้เขาก็ถูกต้องแล้วนะครับ� กุมาร ต้องอาศัยบารมี ในการช่วยเหลือคนครับ� ไม่ใช่ว่า มาบูชาแล้วก็ ให้ข้าวให้น้ำ แบบนั้น เขาเรียกว่าเลี้ยงผีครับ ผมเห็นมาเยอะแล้ว เลี้ยงกุมาร พราย ส่วนมากระแทกเข้าตัวหมดไม่เหลือครับ หลายคนก็บูชามา เยอะ หลายวัด แรงๆ อภนิหารเยอะ แยะไปหมด คิดวา่ดี คิดว่าแรง จริงๆ ผิดครับ นั้นเขาเรียกว่าผีหลอกแล้ว� กุมารที่เก่งจริงๆ นั้น ต้องช่วยดลใจ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เดือนภัย และที่ำสำคัญจริง คือดลใจ ครับ กุมารจะถนัด เรื่องนี้เป็นส่วนใหญ่� แต่ถ้าเรามีบารมีมากกว่าเขา แต่เขาไม่มีบารมีเลย ยากครับที่จะติดต่อกันได้� นั้นก็หนึ่งเหตุผลที่กุมารเงียบ แต่ถ้ากุมาร มีบารมีเก่งพอควร แต่เราเป็นคนที่ไม่มีบารมี (หรือไม่ไว้พระสวดมนต์ ทำบุญไม่ถูกทาง ) อันนี้กุมาร เขาก็จะสามารถติดต่อได้กับเราได้ เพื่อช่วยเหลือ ในสิ่งช่วยได้ครับ ตอบคุณ มือใหม่� ถ้าเป็นกุมารสายพราย สิ่งที่ผมจะแนะนำได้เบื้องต้น การถวาย เราก็ถวายผลไม้ ขนม หรืออะไรที่เป็นเจ หรือ มังสารัติ ไปเลย เราก็เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่กับเขา ก็เหมือนเลี้ยงลูกครับ� หัดเขาไปเรื่อย เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนไปเอง (อันนี้ความคิดของผมนะ)� ถ้าหาคนดูจิตกุมารเก่งๆ ได้ก็ดีจะได้รู้ว่าเขาอายุกี่ขวบ แต่ถ้า 4 เดือน - 3 ขวบ เนี่ย ช่วยเหลืออะไรไม่ได้แน่นอน ต้องเลี้ยงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะใช้งานได้ อันนี้ มันก็ต้องดูผู้เรียกกุมาร ว่าเขากำกับแบบไหนมา บางอาจารย์ไม่เก่ง ได้เดือน 8 เดือนมา เลี้ยงเหนื่อยหน่อย เขาจะโต ใช้งานได้ **** เรื่องการจุดธุป ผมไม่เคยจุดเลยครับ เพราะไม่สะดวกในการจุด ผมใช้กำยานแทน แต่เป็นการจุดถวาย พระและเทพทั้งหมด * การบูชาเบื้องต้นที่จะแนะนำก่อนเลยนะครับ� ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างเพื่ออะไร� และราคาเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมรู้มาว่า ถ้าจะสร้างกุมารเทพเนี่ย� กฎของเบื้องบนคือต้องมาช่วยเหลือคนครับ ถ้าวัดนั้นทำถูกต้อง รับรองกุมารที่ได้มา เกือบ 100 % เป็นเทพทั้งหมด� แต่ถ้าวัดนั้น เน้นธุรกิจ หรือ เชิงพานิชย์ เกินไป ก็โดนปิดครับ สิ่งที่ได้มาก็ ผี รอบๆ วัด หรือ พิธีแถวนั้น เอง� ดีหรือไม่ดี ก็คิดเอาเองครับ ***จากประสบการณ์********* มีน้องอยู่คนหนึ่ง เขาได้ไปเอากุมาร มา 2 องค์ มาไว้ที่บูชาที่ตัวครับ� อยู่มาวันหนึ่งเริ่มมีเรื่องผิดปกติ เกิดขึ้นคือ น้องคนนั้น ไ่ม่อ้วนครับ ผอมลงทุกวัน และเวลาพูด ก็จะมีกลิ่นปากเหม็นมากๆ สุดท้าย คือเจอกุมาร แฝงร่างไปเต็มเลยครับ เพราะนิสัยมักง่ายเขา ไม่ค่อยถวายข้าว หรือ ขนมให้กุมาร ชอบเรียกว่า ลูกมากินกับพ่อมา สุดท้ายเป็นไง กุมาร แฝงร่างไปเต็ม� จนติดเป็นนิสัย ผมจึงให้เขา สวดมนต์ และตามด้วยบท พ่อยม เท่านั้นกุมาร หลุดเลย แต่ผมจะไม่บอกวิธีแก้นะครับ เดี๋ยวคนจะหมั่นใส้ ว่ามาหาผลประโยชน์ ยิ่งกลัวโดนด่าอยู่
สงสัยอย่างแรง 49.48.222.210	ความคิดเห็นที่ 2 13/08/2011 , 15:30 Quote คุณกุมารทองบอกว่า หุ่นกุมารถ้าเป็นดิน 7 ป่าช้า จะเปนผี แล้วของหลวงปู่แย้มหลวงพ่อเต๋ละคับ ทำจากดิน7 ทำไมไม่ใช่ผี คุณกุมารทองบอกว่า หุ่นกุมารถ้าเป็นดิน 7 ป่าช้า จะเปนผี แล้วของหลวงปู่แย้มหลวงพ่อเต๋ละคับ ทำจากดิน7 ทำไมไม่ใช่ผี
กุมารทอง 1.47.232.75	ความคิดเห็นที่ 3 13/08/2011 , 16:58 Quote ที่ทราบมาไม่น่าจะใช่เทพล้วนๆนะครับ ดูจากสิ่งที่ใช้ในการทำกุมารก็ของอาถรรทั้งนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดท่านา เถ้ากระดูกคนตาย มีอีกหลายอย่างครับ จึงไม่น่าจะใช้เทพอย่างเเน่นอน น่าจะเป็นกึ่งเทพ กึ่งพรายมากกว่าครับ ที่ทราบมาไม่น่าจะใช่เทพล้วนๆนะครับ ดูจากสิ่งที่ใช้ในการทำกุมารก็ของอาถรรทั้งนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดท่านา เถ้ากระดูกคนตาย มีอีกหลายอย่างครับ จึงไม่น่าจะใช้เทพอย่างเเน่นอน น่าจะเป็นกึ่งเทพ กึ่งพรายมากกว่าครับ
กุมารทอง 1.47.232.75	ความคิดเห็นที่ 4 13/08/2011 , 17:02 Quote กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม �อิทธิฤทธิ์ กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม เสริมโชคลาภ-ค้าขายร่ำรวย-เงินทองไม่ขัดสน หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต มีนามเดิมว่า แย้ม เดชมาก เป็นบุตรของนายแหยม และ นางวงษ์ เดชมาก เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๕๘ ณ บ้านเลขที่ ๔๒หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนตูม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม อุปสมบท ณ อุโบสถวัดสามง่าม เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๘๑ โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อสุข ปทุมวสโณ) วัดห้วยจระเข้เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเต๋ คงทอง เจ้าอาวาสวัดสามง่าม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพชร วัดสามง่าม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรีแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนด้านการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานการเจริญสมาธิ-จิต เล่าเรียนวิชาอาคม การจารอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ จากหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ ให้ความเมตตา ครอบครูถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างครบถ้วน � ปัจจุบันหลวงพ่อแย้ม อายุ ๙๔ ปี พรรษาที่ ๗๐ ได้รับการแต่งตั้งให้มีสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ซึ่งเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าท่านมีผลงานด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างดี ยิ่งนอกจากนี้ท่านยังมีชื่อเสียงด้านความเข้มขลังในพลังจิตตานุภาพ และความเชี่ยวชาญในพระเวทวิทยา โดยเฉพาะอักขระเลขยันต์ คาถาอาคมท่านจารเอง เขียนเอง ปลุกเสกด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สร้างความเชื่อมั่นในฤทธิ์อำนาจของมงคลวัตถุของสำนักวัดสามง่าม � หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเต๋ คงทอง อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเรื่องอาคม เจ้าตำรับตะกรุดโทน ตะกรุดหนังเสือและกุมารทองเนื้อดินโป่งวัดสามง่าม ส่วนหลวงพ่อเต๋ คงทอง เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และ หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด ซึ่งพระอาจารย์เหล่านี้เป็นครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ คงทอง ให้ความเคารพอย่างสูง หลวงพ่อแย้ม ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อยู่หลายครั้งเพราะหลวงพ่อแช่มมักจะมาที่วัดสามง่ามเป็นประจำ บางครั้งก็แวะมาคุยกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง ทำให้หลวงพ่อแย้ม ได้รับวิชาความรู้บางประการจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง � นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ทั้งฆราวาสและบรรพชิต เช่น หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างมีความ วิริยอุตสาหะเป็นอย่างยิ่งจนทำให้ท่านมีสมาธิจิตกล้าแกร่งมีความรู้และ ประสบการณ์ในด้านไสยเวทวิทยาเพิ่มพูนขึ้น ท่านมีความรู้ในด้านโหราศาสตร์แบบโบราณ การสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา วิชาแพทย์แผนไทยเป็นตำรายาสมุนไพรต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังทุกรูปแบบทุกประเภท เป็นที่ยอมรับทั่วไปว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเมือง นครปฐม ดังนั้นไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ณ ที่แห่งใด ก็มักจะต้องปรากฏชื่อหลวงพ่อแย้มร่วมพิธีปลุกเสกด้วยเสมอ � หลังจากที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณภาพแล้ว คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งหลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่ามเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๒๕ วัตถุมงคลของหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ที่ขึ้นชื่อลือชาปรากฏอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีประสบการณ์หลายรุ่น เช่น เหรียญรุ่น ๑ พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างเป็นที่ระลึกงานบุญฉลองอายุครบ ๕ รอบ เป็นเหรียญที่ดีหายากค่านิยมอยู่ในระดับสูง เพราะมีประสบการณ์เรื่องคงกระพันชาตรีหลายครั้งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่เกิด ขึ้นที่เขตบางรัก กรุงเทพฯ เมื่อคนร้ายถูกตำรวจล้อมยิงด้วยอาวุธปืนแต่ยิงไม่ออกต้องใช้วิธีจับเป็น ปรากฏว่าแขวนเหรียญ รุ่น ๑ หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ทำให้เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ฮือฮาเป็นพิเศษขนาดนายพลตำรวจคนดังท่านหนึ่งก็มา ขอฝากตัวเป็นศิษย์ นอกจากนี้ก็มีพระกริ่งบารมี ๘๐ เหรียญตลับยาหม่อง พระผงรูปเหมือนเหรียญหล่อ พระขุนแผน เนื้อว่าน พระผงนางพญาเนื้อว่าน ตะกรุดโทน ตะกรุดชุด ตะกรุดสามห่วง ผ้ายันต์ � แต่ที่นิยมอย่างสูงสุดจนเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในประเทศและต่างประเทศถึง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ความเข้มขลังก็คือ กุมารทองเนื้อดินและเนื้อโลหะทุกรุ่นที่ กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม ปลุกเสก โดยเฉพาะถือเป็นแบบฉบับและเป็นเอกลักษณ์ของ กุมารทองวัดสามง่าม อย่างแท้จริง ตามแบบ กุมารทอง�หลวงพ่อเต๋ คงทอง เนื่องจากสร้างและปลุกเสกตามแบบโบราณทุกขั้นตอน มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่องลือระบือไกลทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ � บรรดาศิษยานุศิษย์ พ่อค้าแม่ค้าที่นำกุมารทองของหลวงพ่อแย้มไปบูชาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โดดเด่นทางโชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เงินทองไม่ขัดสน � กุมารทอง�วัดสามง่าม นายเสน่ห์ ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๕๖ ปี อดีตตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เล่าว่าตนเองเป็นเด็กวัด ตั้งแต่หลวงพ่อเต๋ คงทองเป็นเจ้าอาวาส อยู่มาจนถึงสมัยหลวงพ่อแย้ม ฉะนั้นตนจะเห็นหลวงพ่อเต๋ และหลวงพ่อแย้ม ผสมมวลสารเพื่อนำมาสร้างกุมารทองตลอด บางครั้งก็จะเป็นคนไปหามวลสารเอง มวลสารที่หลวงพ่อใช้ เท่าที่จำได้คือมีดิน ๗ ป่าช้า ดิน ๗ โปร่ง ดิน ๗ ท่าน้ำ เถ้ากระดูกคนมีชื่อเสียงจากเมรุเผาศพ เส้นผมของสาวพรหมจรรย์ โดยหลวงพ่อแย้มจะปลุกเสก ๗ วันเน้น เฉพาะวันแข็งคือวันเสาร์ และวันอังคาร บางครั้งท่านนั่งปลุกจนมีคนได้ยินเสียงเหมือนดังขลุกขลัก แล้วจะบอกว่าองค์ไหนใช้ได้แล้ว หลวงพ่อแย้ม ได้วิชาอาคม แบบฉบับเขมรที่หลวงพ่อเต๋สอนให้ ทำให้ท่านไม่ทรงน้ำมาหลายสิบปีแล้ว เพราะคนที่ศึกษาวิชาด้านเขมร จะไม่ชอบน้ำ และไม่กลัวร้อน � นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ มีเพื่อนเป็นชาวสิงคโปร์ และมาเลเซียหลายคนต่างกล่าวขวัญถึงชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแย้ม ตนจึงพามาให้หลวงพ่อลงกระหม่อมและลงนะหน้าทองให้ � ทางด้าน นายบุญชัย กิตติกุลยุทธ์ เจ้าของโรงงานทอผ้า ได้นำวัวจำนวน ๒๒ ตัว ที่� ซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์� มาถวายหลวงพ่อ เพื่อให้หลวงพ่อมอบให้คนยากจนนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ และใช้งานด้านเกษตรกรรม โดยห้ามนำไปขายและฆ่า �� นางอื๊ด ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๓๗ ปี บ้าน อยู่จังหวัดพะเยา อาชีพค้าขายกาแฟสด และเครื่องดื่ม บอกว่าตนเองบูชากุมารทองไว้หลายองค์ ตั้งแต่รุ่นปี ๒๕๔๗ ซึ่งเป็นรุ่นแรกของหลวงพ่อแย้ม ก็ทำมาค้าขายดีตลอดมา เงินทองไม่ขัดสน และกำลังจะขยายสาขาไปที่ อ.แม่สาย เร็ว ๆ นี้ � นายสิทธิชัย ปลาแสนกุล อายุ ๒๕ ปี เหลนของหลวงพ่อแย้ม กล่าวว่า ตนเป็นคนดูแลหลวงพ่อมาตลอด ๔-๕ ปี หลวงพ่ออายุ ๙๔ ปี แล้ว แต่ยังแข็งแรงดี หลวงพ่อไม่เคยสรงน้ำเลย เพียงแค่เช็ดตัวเท่านั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่เด่น ๆ ก็คือกุมารทอง และตะกรุด ๓ ห่วง ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของกุมารทองก็คือ เวลามีคนเช่าไปบูชา ก็จะโชคดี และย้อนกลับมาแก้บน จะซื้อของมาถวาย ตั้งแต่น้ำแดง จนถึงทองคำ และที่แปลกก็คือ มีจักรยานยนต์, จักรยาน นำมาถวายบ่อยมาก หลวงพ่อก็จะมอบให้เด็กนักเรียน ใช้ขี่สำหรับไปโรงเรียน ส่วนจักรยานยนต์ก็จะจอดไว้ที่กุฏิหลวงพ่อ สำหรับให้เด็กวัดเอาไว้ขี่ไปซื้อของใช้ในวัด �� ขณะที่หลวงพ่อแย้มฝากธรรมเตือนใจแก่ญาติโยมว่า อยากให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตัวดี คิดดี ทำดี และทำออกมาจากใจ ให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ให้ละความโลภ ยอมรับในสังขารของตัวเองว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เนื่องจากความหลงเป็นสิ่งไม่รู้จริง ฉะนั้น ต้องให้ทุกคนรู้เท่าทันสังขารตัวเอง ทุกอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟันหัก ผมหงอก เพราะมันเป็นเรื่องอนิจจัง คิดมากไป ก็จะเป็นทุกข์ อยากให้ญาติโยมรู้ไว้ว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์หลีกหนีสิ่งเหล่านี้ไปไม่พ้น กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม �อิทธิฤทธิ์ กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม เสริมโชคลาภ-ค้าขายร่ำรวย-เงินทองไม่ขัดสน หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต มีนามเดิมว่า แย้ม เดชมาก เป็นบุตรของนายแหยม และ นางวงษ์ เดชมาก เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๕๘ ณ บ้านเลขที่ ๔๒หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนตูม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม อุปสมบท ณ อุโบสถวัดสามง่าม เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๘๑ โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อสุข ปทุมวสโณ) วัดห้วยจระเข้เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเต๋ คงทอง เจ้าอาวาสวัดสามง่าม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพชร วัดสามง่าม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรีแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนด้านการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานการเจริญสมาธิ-จิต เล่าเรียนวิชาอาคม การจารอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ จากหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ ให้ความเมตตา ครอบครูถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างครบถ้วน � ปัจจุบันหลวงพ่อแย้ม อายุ ๙๔ ปี พรรษาที่ ๗๐ ได้รับการแต่งตั้งให้มีสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ซึ่งเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าท่านมีผลงานด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างดี ยิ่งนอกจากนี้ท่านยังมีชื่อเสียงด้านความเข้มขลังในพลังจิตตานุภาพ และความเชี่ยวชาญในพระเวทวิทยา โดยเฉพาะอักขระเลขยันต์ คาถาอาคมท่านจารเอง เขียนเอง ปลุกเสกด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สร้างความเชื่อมั่นในฤทธิ์อำนาจของมงคลวัตถุของสำนักวัดสามง่าม � หลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเต๋ คงทอง อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเรื่องอาคม เจ้าตำรับตะกรุดโทน ตะกรุดหนังเสือและกุมารทองเนื้อดินโป่งวัดสามง่าม ส่วนหลวงพ่อเต๋ คงทอง เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และ หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด ซึ่งพระอาจารย์เหล่านี้เป็นครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ คงทอง ให้ความเคารพอย่างสูง หลวงพ่อแย้ม ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อยู่หลายครั้งเพราะหลวงพ่อแช่มมักจะมาที่วัดสามง่ามเป็นประจำ บางครั้งก็แวะมาคุยกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง ทำให้หลวงพ่อแย้ม ได้รับวิชาความรู้บางประการจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง � นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ทั้งฆราวาสและบรรพชิต เช่น หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างมีความ วิริยอุตสาหะเป็นอย่างยิ่งจนทำให้ท่านมีสมาธิจิตกล้าแกร่งมีความรู้และ ประสบการณ์ในด้านไสยเวทวิทยาเพิ่มพูนขึ้น ท่านมีความรู้ในด้านโหราศาสตร์แบบโบราณ การสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา วิชาแพทย์แผนไทยเป็นตำรายาสมุนไพรต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังทุกรูปแบบทุกประเภท เป็นที่ยอมรับทั่วไปว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเมือง นครปฐม ดังนั้นไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ณ ที่แห่งใด ก็มักจะต้องปรากฏชื่อหลวงพ่อแย้มร่วมพิธีปลุกเสกด้วยเสมอ � หลังจากที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณภาพแล้ว คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งหลวงพ่อแย้ม ฐานยุตฺโต เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่ามเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๒๕ วัตถุมงคลของหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ที่ขึ้นชื่อลือชาปรากฏอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีประสบการณ์หลายรุ่น เช่น เหรียญรุ่น ๑ พ.ศ. ๒๕๑๖ สร้างเป็นที่ระลึกงานบุญฉลองอายุครบ ๕ รอบ เป็นเหรียญที่ดีหายากค่านิยมอยู่ในระดับสูง เพราะมีประสบการณ์เรื่องคงกระพันชาตรีหลายครั้งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่เกิด ขึ้นที่เขตบางรัก กรุงเทพฯ เมื่อคนร้ายถูกตำรวจล้อมยิงด้วยอาวุธปืนแต่ยิงไม่ออกต้องใช้วิธีจับเป็น ปรากฏว่าแขวนเหรียญ รุ่น ๑ หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ทำให้เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ฮือฮาเป็นพิเศษขนาดนายพลตำรวจคนดังท่านหนึ่งก็มา ขอฝากตัวเป็นศิษย์ นอกจากนี้ก็มีพระกริ่งบารมี ๘๐ เหรียญตลับยาหม่อง พระผงรูปเหมือนเหรียญหล่อ พระขุนแผน เนื้อว่าน พระผงนางพญาเนื้อว่าน ตะกรุดโทน ตะกรุดชุด ตะกรุดสามห่วง ผ้ายันต์ � แต่ที่นิยมอย่างสูงสุดจนเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในประเทศและต่างประเทศถึง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ความเข้มขลังก็คือ กุมารทองเนื้อดินและเนื้อโลหะทุกรุ่นที่ กุมารทอง หลวงพ่อแย้ม ปลุกเสก โดยเฉพาะถือเป็นแบบฉบับและเป็นเอกลักษณ์ของ กุมารทองวัดสามง่าม อย่างแท้จริง ตามแบบ กุมารทอง�หลวงพ่อเต๋ คงทอง เนื่องจากสร้างและปลุกเสกตามแบบโบราณทุกขั้นตอน มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่องลือระบือไกลทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ � บรรดาศิษยานุศิษย์ พ่อค้าแม่ค้าที่นำกุมารทองของหลวงพ่อแย้มไปบูชาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โดดเด่นทางโชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เงินทองไม่ขัดสน � กุมารทอง�วัดสามง่าม นายเสน่ห์ ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๕๖ ปี อดีตตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร เล่าว่าตนเองเป็นเด็กวัด ตั้งแต่หลวงพ่อเต๋ คงทองเป็นเจ้าอาวาส อยู่มาจนถึงสมัยหลวงพ่อแย้ม ฉะนั้นตนจะเห็นหลวงพ่อเต๋ และหลวงพ่อแย้ม ผสมมวลสารเพื่อนำมาสร้างกุมารทองตลอด บางครั้งก็จะเป็นคนไปหามวลสารเอง มวลสารที่หลวงพ่อใช้ เท่าที่จำได้คือมีดิน ๗ ป่าช้า ดิน ๗ โปร่ง ดิน ๗ ท่าน้ำ เถ้ากระดูกคนมีชื่อเสียงจากเมรุเผาศพ เส้นผมของสาวพรหมจรรย์ โดยหลวงพ่อแย้มจะปลุกเสก ๗ วันเน้น เฉพาะวันแข็งคือวันเสาร์ และวันอังคาร บางครั้งท่านนั่งปลุกจนมีคนได้ยินเสียงเหมือนดังขลุกขลัก แล้วจะบอกว่าองค์ไหนใช้ได้แล้ว หลวงพ่อแย้ม ได้วิชาอาคม แบบฉบับเขมรที่หลวงพ่อเต๋สอนให้ ทำให้ท่านไม่ทรงน้ำมาหลายสิบปีแล้ว เพราะคนที่ศึกษาวิชาด้านเขมร จะไม่ชอบน้ำ และไม่กลัวร้อน � นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ มีเพื่อนเป็นชาวสิงคโปร์ และมาเลเซียหลายคนต่างกล่าวขวัญถึงชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแย้ม ตนจึงพามาให้หลวงพ่อลงกระหม่อมและลงนะหน้าทองให้ � ทางด้าน นายบุญชัย กิตติกุลยุทธ์ เจ้าของโรงงานทอผ้า ได้นำวัวจำนวน ๒๒ ตัว ที่� ซื้อมาจากโรงฆ่าสัตว์� มาถวายหลวงพ่อ เพื่อให้หลวงพ่อมอบให้คนยากจนนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ และใช้งานด้านเกษตรกรรม โดยห้ามนำไปขายและฆ่า �� นางอื๊ด ไกลวงค์ตุ้ม อายุ ๓๗ ปี บ้าน อยู่จังหวัดพะเยา อาชีพค้าขายกาแฟสด และเครื่องดื่ม บอกว่าตนเองบูชากุมารทองไว้หลายองค์ ตั้งแต่รุ่นปี ๒๕๔๗ ซึ่งเป็นรุ่นแรกของหลวงพ่อแย้ม ก็ทำมาค้าขายดีตลอดมา เงินทองไม่ขัดสน และกำลังจะขยายสาขาไปที่ อ.แม่สาย เร็ว ๆ นี้ � นายสิทธิชัย ปลาแสนกุล อายุ ๒๕ ปี เหลนของหลวงพ่อแย้ม กล่าวว่า ตนเป็นคนดูแลหลวงพ่อมาตลอด ๔-๕ ปี หลวงพ่ออายุ ๙๔ ปี แล้ว แต่ยังแข็งแรงดี หลวงพ่อไม่เคยสรงน้ำเลย เพียงแค่เช็ดตัวเท่านั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่เด่น ๆ ก็คือกุมารทอง และตะกรุด ๓ ห่วง ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของกุมารทองก็คือ เวลามีคนเช่าไปบูชา ก็จะโชคดี และย้อนกลับมาแก้บน จะซื้อของมาถวาย ตั้งแต่น้ำแดง จนถึงทองคำ และที่แปลกก็คือ มีจักรยานยนต์, จักรยาน นำมาถวายบ่อยมาก หลวงพ่อก็จะมอบให้เด็กนักเรียน ใช้ขี่สำหรับไปโรงเรียน ส่วนจักรยานยนต์ก็จะจอดไว้ที่กุฏิหลวงพ่อ สำหรับให้เด็กวัดเอาไว้ขี่ไปซื้อของใช้ในวัด �� ขณะที่หลวงพ่อแย้มฝากธรรมเตือนใจแก่ญาติโยมว่า อยากให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตัวดี คิดดี ทำดี และทำออกมาจากใจ ให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ให้ละความโลภ ยอมรับในสังขารของตัวเองว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เนื่องจากความหลงเป็นสิ่งไม่รู้จริง ฉะนั้น ต้องให้ทุกคนรู้เท่าทันสังขารตัวเอง ทุกอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟันหัก ผมหงอก เพราะมันเป็นเรื่องอนิจจัง คิดมากไป ก็จะเป็นทุกข์ อยากให้ญาติโยมรู้ไว้ว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์หลีกหนีสิ่งเหล่านี้ไปไม่พ้น