คาถาเพิ่มพลัง ให้กุมารทอง [Engine by iGetWeb.com]

คาถาเพิ่มพลัง ให้กุมารทอง

(อ่าน 3835/ ตอบ 9)

กุมารทอง 202.91.19.169	หัวข้อ :คาถาเพิ่มพลัง ให้กุมารทอง 17/08/2011 , 10:56 Quote �คาถาสวดเพิ่มพลังให้กุมารทองทุกวัน (หลังไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ เสร็จแล้ว) (นะโม 3 จบ) คาถาชุมนุมธาตุ โอม นะโม พุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ เอหิ ปฐวี พรหมมา เอหิ อาโป อินทรา เอหิ เตโช นะรายะ เอหิ วาโย อิสะรา (คาถาเรียก) กุมาระจิจา จิเจรุนิ เอ่ยชื่อกุมารทอง.......จงมา คาถาเพิ่มพลังกุมารทอง โอม สุวรรณโน ปิยะกุมาโร มหาภูโต มหิทธิโก สัพพะทิเสสุวัตตะโก สัพพะคาเมสุโคจะโร สัพพะชะนานังหะทะเย มาหาเตโช ปะวัต ติโก รัตนะ ตะ ยานุภาเวนะ รัตนะ ตะ ยะ เตชะสา เทวานัง อิทธิ พะเลนะ กุมา โร จะ มหิทธิ โก �คาถาสวดเพิ่มพลังให้กุมารทองทุกวัน (หลังไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ เสร็จแล้ว) (นะโม 3 จบ) คาถาชุมนุมธาตุ โอม นะโม พุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ เอหิ ปฐวี พรหมมา เอหิ อาโป อินทรา เอหิ เตโช นะรายะ เอหิ วาโย อิสะรา (คาถาเรียก) กุมาระจิจา จิเจรุนิ เอ่ยชื่อกุมารทอง.......จงมา คาถาเพิ่มพลังกุมารทอง โอม สุวรรณโน ปิยะกุมาโร มหาภูโต มหิทธิโก สัพพะทิเสสุวัตตะโก สัพพะคาเมสุโคจะโร สัพพะชะนานังหะทะเย มาหาเตโช ปะวัต ติโก รัตนะ ตะ ยานุภาเวนะ รัตนะ ตะ ยะ เตชะสา เทวานัง อิทธิ พะเลนะ กุมา โร จะ มหิทธิ โก Tweet
กุมารทอง 202.91.19.169	ความคิดเห็นที่ 1 17/08/2011 , 11:04 Quote วิธีการเลี้ยงพรายและกุมาร การเลี้ยงพรายและกุมารนั้นกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก บางคนเชื่อว่าวิญญาณเหล่านี้จะช่วยให้ตนเองประสบความสำเร็จ ประกอบกิจการค้าขายดีขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น ตลอดจนถึงการให้พรายและกุมารไปทำร้ายคนอื่น เป็นต้น ด้วยจุดมุ่งหมายเหล่านี้จึงทำให้เกิดความต้องการเลี้ยงพรายและกุมารกันมากในปัจจุบัน ผนวกกับคนรุ่นใหม่มักจะเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ค่อยได้พิจารณาไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะเลี้ยงหรือบูชามาไว้ที่บ้าน เพื่อเป็นการวางแนวทางการบูชาอย่างถูกต้องเหมาะสมขอให้แนวทางดังต่อไปนี้ � ประเภทของพราย/กุมาร สามารถแบ่งได้ดังนี้ - ภูต คือ พรายที่มีฤทธิ์เดช มีอาคมในตัวเอง สามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆ ให้บังเกิดกับผู้บูชาได้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของ แม่นางตะเคียน แม่พรายตานี เป็นต้น - พราย คือ วิญญาณของผู้ที่ตายโหง ไม่ว่าจะเป็นการตายด้วยอุบัติเหตุ หรือจะเป็นการฆ่าตัวตาย ในทางความเชื่อพรายประเภทนี้จะมีห่วงและความแค้นอยู่ จะต้องวนเวียนอยู่แถวที่ที่เขาตาย โดยจะไปเกิดได้เมื่อถึงเวลา หรือมีผู้ใจบุญทำบุญให้มากพอที่จะสามารถไปเกิดได้ - กุมาร คือ วิญญาณของเด็กที่ตายก่อนถึงวัยอันควร ไม่ว่าจะเกิดจากการทำแท้ง หรืออุบัติเหตุ พรายประเภทนี้ผู้เรืองวิชามักที่จะนำมาสร้างเป็นรูปแบบของกุมารหรือกุมารี วิญญาณเด็กเหล่านี้น่าสงสารมาก เพราะตัวยังเล็ก ไม่สามารถเข้าไปแย่งกินหรือแย่งบุญจากพรายผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นผู้ที่มีวิญญาณประเภทนี้อยู่กับตัวจงพึงคิดให้ถี่ถ้วน � หลักในการเลี้ยงกุมาร/พราย - ก่อนนำเข้าบ้าน จะต้องจุดธูปบอกกล่าวแด่เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือนรวมไปถึงพระพุทธ และองค์เทพ(ถ้ามี)ก่อน โดยการจุดธูป 5 ดอก จากนั้นอาจจะจุดธูปอีก 2 ดอกปักนอกบ้านเพื่อเรียกพรายเข้าบ้าน - การจัดสถานที่ การเลี้ยงพรายจะต้องวางไว้ต่ำกว่าพระพุทธ และเทพ ทางที่ดีควรไว้แยกห้องหรือมุมบูชาจะดีที่สุด - การพกติดตัว ถ้าโดยตัวเราปกติแล้วเราห้อยพระหรือเทพอยู่ไม่ควรนำพรายไว้ใกล้ตัว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องขออนุญาตท่านก่อนที่จะนำมาใกล้ตัว แต่ไม่ควรอยู่สูงกว่าพระหรือเทพ - การเซ่นไหว้ จะมีอยู่ 3 แบบดังนี้ o เลี้ยงแบบสำเร็จรูป จะเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้เลี้ยง ก็คือการบอกกล่าวแก่พรายตนนั้นๆ ไปเลยว่าต่อไปนี้เวลาเรากินอะไรก็ให้มากินด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่เรากินจะต้องไม่ลืมเรียกเขากินด้วย แต่การเลี้ยงวิธีนี้มีข้อเสียคือตัวเราเองจะต้องห้ามกินของต้องห้าม และผลข้างเคียงสำหรับวิธีนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่ใช้วิธีนี้จะอาการอยากกินมากขึ้น และจะกินของบางอย่างที่เจ้าตัวเองไม่ชอบกิน แต่กลับรู้สึกอยากกินเป็นพิเศษ อะไรประมาณนั้น o เลี้ยงแบบมาตรฐาน เป็นการเลี้ยงตามหลักการทั่วไปคือ มีการเซ่นไหว้ทุกวันพระ หรือไม่ก็อาทิตย์ละครั้ง o เลี้ยงแบบสมบูรณ์ เป็นวิธีการเลี้ยงที่ดีที่สุดคือ มีการเซ่นไหว้ทุกวัน - อาหารที่ใช้ในการเซ่นไหว้ ในการเซ่นไหว้นั้นเราจะจุดธูป หรือไม่จุดก็ได้นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญว่าจะต้องไม่เซ่นไหว้ด้วยของดิบเป็นอันขาด ส่วนลักษณะการเซ่นไหว้จะแบ่งเป็น 2 อย่างคือ o สำหรับกุมาร ส่วนใหญ่จะเป็นพวกขนม ไข่ต้ม กล้วย น้ำหวาน ของเล่น และอย่างอื่นที่เด็กชอบ o สำหรับพราย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลายำ เหล้าขาว และของหวานทั่วๆไป สำหรับพรายนั้นถ้าเป็นไปได้ให้เลี้ยงแบบกุมารจะดีกว่า เพราะการเซ่นด้วยเหล้าขาวจะให้พรายมีฤทธิ์มากขึ้น - การใช้งาน หลักในการใช้งานพราย/กุมารนั้น ขอให้ยึดหลักการถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน เราช่วยเขาและเขาก็ช่วยเราแค่นั้น การบนบานให้กระทำได้ แต่อย่าบ่อยนัก เพราะจะเหมือนกันการผูกมัดการช่วยเหลือของเขาให้เป็นแบบนั้น ขอให้บอกกล่าวให้เขาเข้าใจถึงความต้องการของเราให้ดีและละเอียด หลังจากนั้นก็รอผลลัพธ์ว่าจะเป็นดังที่เราหวังไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นดังหวังก็อย่าได้โทษพราย/กุมารว่าไม่เก่ง เพราะที่สุดของความสำเร็จจะอยู่ที่บุญและบาปของเราที่ทำมามากกว่า พวกเขาแค่ช่วยหนุนได้บ้างเท่านั้น - การอุทิศบุญ การทำบุญให้พราย/กุมารนั้นถือได้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก สำคัญมากกว่าการเซ่นไหว้ด้วยอาหาร เพราะสำหรับพรายแล้วสิ่งที่เขาขาดอย่างมากคือบุญกุศลที่ช่วยทำให้บุญฤทธิ์ของเขามีมากขึ้น และเมื่อมีมากพอจะสามารถนำพาเขาไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ ดังนั้นผู้ที่มีพรายไว้ในครอบครองจะต้องหมั่นสร้างบุญกุศลไม่ว่าจะเป็นใส่บาตร ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา และอีกอย่างหนึ่งที่ควรทำคือการเบิกบุญ ส่วนวิธีการนั้นขอทิ้งให้ตอนท้ายของบทความ - การใช้สายพรายและเกิดเข้าตัว การใช้สายพรายแล้วเกิดเข้าตัวมีหลายสาเหตุ ถ้าจะสรุปจริงๆ ได้ ดังนี้ o พรายชิ้นนั้นกำกับหรือปลุกเสกพรายมาแบบบังคับ และอาคมหรือเวทมนต์ของผู้เสกเสื่อมลงในวันเน่า(วันแรมสิบห้าค่ำ) จึงทำให้พรายในนั้นสามารถออกมาทำร้ายเจ้าของได้ o ตัวเจ้าของเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับพราย เช่น การพูดจาหยาบคาย ไม่มีความเกรงใจ ใช้เหมือนทาส หรือทรมานด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทำให้พรายเกิดความไม่พอใจเป็นทุนเดิม คอยหาโอกาสเอาคืน ในวันเน่าเช่นกัน o มีการเซ่นไหว้ผิดวิธี หรือพิสดาร ไม่เหมาะสมเช่น เซ่นด้วยเลือด ของดิบ หรือไปใช้คาถาอาคมที่ไม่เหมาะสมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เขามีฤทธิ์เดชขึ้นมาจนอาคมและอักขระไม่สามารถคุมได้ o พรายบางชนิดไม่สามารถนำอาคมสะกดเขาได้ แต่อาจารย์ผู้นั้นก็จะฝืนสะกดเขา ทำให้เขาไม่พอใจ เช่น พรายตะเคียน พรายตานี เป็นต้น หรือไม่ก็ถ้าอาจารย์ไม่สะกดเขา แต่บอกกับคนที่นำไปใช้ให้ทำพิธีเหมือนกับว่าจะไปสะกด อาจจทำให้เขาไม่พอใจ สำหรับพรายประเภทเรียกกันว่า "ภูต" มีฤทธิ์มากกว่าพรายทั่วไปหลายเท่า อาคมสะกดไม่อยู่ จะต้องขอบารมีของเขามาใช้เท่านั้น ห้ามสะกดเด็ดขาด o การใช้พรายในวันเน่า (วันแรมสิบห้าค่ำ) การใช้พรายในวันดังกล่าว ผมคิดว่าไม่สมควรเพราะเป็นวันที่คาถาอาคมจะเสื่อมลงหรือด้อยลงในวันนั้น ถ้าเขาไม่พอใจสามารถเล่นงานเราได้ทันที หรือพูดง่ายๆ วันดังกล่าวเป็นวันปล่อยของนั้นเอง ห้ามใช้งานโดยเด็ดขาด - คาถาที่ใช้ สำหรับคาถาที่ใช้สำหรับพราย/กุมารนั้นโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีมาให้ตอนที่บูชาอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีก็ให้ใช้เรียกชื่อเขาเอาได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำจะเป็นคาถาดังนี้ ตั้งนะโม 3 จบแล้วตามด้วยคาถาว่า "เอหิภูตา จะมาเรโส โสมะเร เอหิมะมะ” � สรุปหลักการและข้อควรคำนึงในการเลี้ยงพราย ดังนี้ 1. ไม่ควรใช้วาจาหรือกิริยาท่าทางไม่เหมาะสมต่อพราย อันจะเป็นลบหลู่พรายที่สถิตอยู่ในนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี 2. พึงหมั่นสร้างบุญกุศลอยู่เป็นประจำ และแผ่ส่วนบุญที่ได้นี้ให้กับพรายที่อยู่กับเราด้วยความเต็มใจ และบริสุทธิ์ใจ 3. การใช้งานพึงอธิษฐานใช้โดยจะต้องไม่ผิดศีล ผิดธรรม ถือว่าสำคัญที่สุด 4. การใช้งานพรายต่างๆ นั้น ในบางครั้งได้ผล บางครั้งไม่ได้ผล อันนี้อาจจะไม่ได้หมายความว่าพรายตนนั้นไม่เก่ง แต่ปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้คนเราประสบการณ์ผลสำเร็จได้นั้นก็คือ บุญและบาปที่เรากระทำมาแต่อดีตและปัจจุบัน ตัวพรายเป็นปัจจัยที่สามารถช่วยเสริมความสำเร็จของเราได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วตัวเราเองก็ต้องทำด้วย 5. สำหรับข้อนี้สำคัญมาก ให้พึงพิจารณาให้ดี การที่มีพรายอยู่กับตัว ไม่ได้มีไว้เพื่อความอวดตัวว่ามีของดี มีของน่ากลัว หรือของอาถรรพ์แรงๆ ไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ควรกระทำ แต่สิ่งที่ควรกระทำคือ การพิจารณาองค์ธรรมที่แฝงเร้นอยู่ในพรายนั้นต่างหาก จึงจะเรียกได้เข้าถึงการบูชาอย่างแท้จริง เพราะพรายนั้นกับตัวเราไม่ได้ต่างกันนัก คนเราเมื่อตายไปการสังขารย่อมเสื่อมสิ้นเป็นของธรรมดา ชิ้นพรายที่อยู่กับเราไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงการเกิดและดับไปของมนุษย์ทุกนาม ทุกเชื้อชาติ ดังนั้นขอให้ผู้ใดก็ตามที่ครอบครองเครื่องรางสายพรายอยู่พึงพิจารณาให้มากไว้เถิด เพราะการพิจารณาอสุภะ หรือสิ่งไม่สวยงามนี้ เป็นสิ่งที่เราควรกระทำเพื่อลดกิเลส กามตัณหาให้น้อยลง ขอให้พึงพิจารณาให้ดีเถิด � � � � � วิธีเบิกบุญ ก่อนจะทำการเบิกบุญขอให้ตั้งสมาธิสักพัก หรืออาจจะนานเลยก็ได้ จากนั้นให้กล่าวคำพูดดังต่อไปนี้ด้วยจิตที่เป็นกุศล ขออำนาจคุณพระพุทธ , คุณพระธรรม , คุณพระสงฆ์ จงบันดาลให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้า............ได้เคยทำมา จงมาถึงแก่..................... ขอให้เขาทั้งหลายได้จงมีแต่ความสุข ขอให้มีบุญฤทธิ์ที่สูงขึ้น หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ขอให้ได้รับความสุขจากบุญที่ข้าพเจ้าตั้งให้นี้ด้วยเถิด การเบิกบุญนี้สามารถทำให้ทุกขณะจิตที่เป็นสุข หรือถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดี แต่ไม่ต้องกลัวว่าบุญของคุณจะหมดไปหรือลดน้อยถอยลง เพราะบุญของเราเปรียบเสมือนเปลวเทียน ซึ่งสามารถนำมาจุดต่อกับเทียนเล่มอื่นได้มีหลายร้อยหลายพันเล่ม โดยที่เปลวเทียนนั้น ไม่ลดความแรงลงเลย บางคนมักเข้าใจผิดว่าถ้าให้บุญแก่พรายมากๆ เขาจะได้ไปเกิด ไม่ช่วยงานเราอีก นั่นเป็นความคิดที่ผิดมาก สำหรับผมแล้วถ้าเขาได้ไปเกิดก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะนั่นหมายถึงว่าเขาจะได้ไปในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมาเป็นวิญญาณเร่ร่อนอีก � คนเราจะเล่นเครื่องรางหรือพระเครื่องก็ตามแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องบูชาด้วยใจจริง และเข้าถึงแก่นแท้ของการบูชา ไม่ใช่บูชาด้วยกิเลสเจือตัณหา ขอให้พึงคิดให้ถี่ถ้วน เพราะไม่ว่าเราจะมีเครื่องรางหรือพระเครื่องมาจนล้นห้วล้นบ้าน ก็ไม่ได้ช่วยให้เราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือหลุดพ้นจากกองทุกข์กองกิเลส ผู้บูชาสิ่งเหล่านี้พึงจารณาให้ถึงแก่นแท้ และทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้สร้างเสกได้ใส่ไว้ในของเหล่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าถึงซึ่งแก่นแท้ในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะเป็นทางสายเอกที่จะนำพาตัวเราเข้าสู่การหลุดพ้นอย่างแท้จริง เมื่อปฏิบัติได้แล้ว คำว่าจักต้องมาจุติในครรภ์ ก็จะไม่มีอีก สิ้นภพ สิ้นชาติ อันเป็นการจบกิจของผู้ประเสริฐโดยแท้ � วิธีการเลี้ยงพรายและกุมาร การเลี้ยงพรายและกุมารนั้นกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก บางคนเชื่อว่าวิญญาณเหล่านี้จะช่วยให้ตนเองประสบความสำเร็จ ประกอบกิจการค้าขายดีขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น ตลอดจนถึงการให้พรายและกุมารไปทำร้ายคนอื่น เป็นต้น ด้วยจุดมุ่งหมายเหล่านี้จึงทำให้เกิดความต้องการเลี้ยงพรายและกุมารกันมากในปัจจุบัน ผนวกกับคนรุ่นใหม่มักจะเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ค่อยได้พิจารณาไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะเลี้ยงหรือบูชามาไว้ที่บ้าน เพื่อเป็นการวางแนวทางการบูชาอย่างถูกต้องเหมาะสมขอให้แนวทางดังต่อไปนี้ � ประเภทของพราย/กุมาร สามารถแบ่งได้ดังนี้ - ภูต คือ พรายที่มีฤทธิ์เดช มีอาคมในตัวเอง สามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆ ให้บังเกิดกับผู้บูชาได้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของ แม่นางตะเคียน แม่พรายตานี เป็นต้น - พราย คือ วิญญาณของผู้ที่ตายโหง ไม่ว่าจะเป็นการตายด้วยอุบัติเหตุ หรือจะเป็นการฆ่าตัวตาย ในทางความเชื่อพรายประเภทนี้จะมีห่วงและความแค้นอยู่ จะต้องวนเวียนอยู่แถวที่ที่เขาตาย โดยจะไปเกิดได้เมื่อถึงเวลา หรือมีผู้ใจบุญทำบุญให้มากพอที่จะสามารถไปเกิดได้ - กุมาร คือ วิญญาณของเด็กที่ตายก่อนถึงวัยอันควร ไม่ว่าจะเกิดจากการทำแท้ง หรืออุบัติเหตุ พรายประเภทนี้ผู้เรืองวิชามักที่จะนำมาสร้างเป็นรูปแบบของกุมารหรือกุมารี วิญญาณเด็กเหล่านี้น่าสงสารมาก เพราะตัวยังเล็ก ไม่สามารถเข้าไปแย่งกินหรือแย่งบุญจากพรายผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นผู้ที่มีวิญญาณประเภทนี้อยู่กับตัวจงพึงคิดให้ถี่ถ้วน � หลักในการเลี้ยงกุมาร/พราย - ก่อนนำเข้าบ้าน จะต้องจุดธูปบอกกล่าวแด่เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือนรวมไปถึงพระพุทธ และองค์เทพ(ถ้ามี)ก่อน โดยการจุดธูป 5 ดอก จากนั้นอาจจะจุดธูปอีก 2 ดอกปักนอกบ้านเพื่อเรียกพรายเข้าบ้าน - การจัดสถานที่ การเลี้ยงพรายจะต้องวางไว้ต่ำกว่าพระพุทธ และเทพ ทางที่ดีควรไว้แยกห้องหรือมุมบูชาจะดีที่สุด - การพกติดตัว ถ้าโดยตัวเราปกติแล้วเราห้อยพระหรือเทพอยู่ไม่ควรนำพรายไว้ใกล้ตัว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องขออนุญาตท่านก่อนที่จะนำมาใกล้ตัว แต่ไม่ควรอยู่สูงกว่าพระหรือเทพ - การเซ่นไหว้ จะมีอยู่ 3 แบบดังนี้ o เลี้ยงแบบสำเร็จรูป จะเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้เลี้ยง ก็คือการบอกกล่าวแก่พรายตนนั้นๆ ไปเลยว่าต่อไปนี้เวลาเรากินอะไรก็ให้มากินด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่เรากินจะต้องไม่ลืมเรียกเขากินด้วย แต่การเลี้ยงวิธีนี้มีข้อเสียคือตัวเราเองจะต้องห้ามกินของต้องห้าม และผลข้างเคียงสำหรับวิธีนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่ใช้วิธีนี้จะอาการอยากกินมากขึ้น และจะกินของบางอย่างที่เจ้าตัวเองไม่ชอบกิน แต่กลับรู้สึกอยากกินเป็นพิเศษ อะไรประมาณนั้น o เลี้ยงแบบมาตรฐาน เป็นการเลี้ยงตามหลักการทั่วไปคือ มีการเซ่นไหว้ทุกวันพระ หรือไม่ก็อาทิตย์ละครั้ง o เลี้ยงแบบสมบูรณ์ เป็นวิธีการเลี้ยงที่ดีที่สุดคือ มีการเซ่นไหว้ทุกวัน - อาหารที่ใช้ในการเซ่นไหว้ ในการเซ่นไหว้นั้นเราจะจุดธูป หรือไม่จุดก็ได้นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญว่าจะต้องไม่เซ่นไหว้ด้วยของดิบเป็นอันขาด ส่วนลักษณะการเซ่นไหว้จะแบ่งเป็น 2 อย่างคือ o สำหรับกุมาร ส่วนใหญ่จะเป็นพวกขนม ไข่ต้ม กล้วย น้ำหวาน ของเล่น และอย่างอื่นที่เด็กชอบ o สำหรับพราย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลายำ เหล้าขาว และของหวานทั่วๆไป สำหรับพรายนั้นถ้าเป็นไปได้ให้เลี้ยงแบบกุมารจะดีกว่า เพราะการเซ่นด้วยเหล้าขาวจะให้พรายมีฤทธิ์มากขึ้น - การใช้งาน หลักในการใช้งานพราย/กุมารนั้น ขอให้ยึดหลักการถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน เราช่วยเขาและเขาก็ช่วยเราแค่นั้น การบนบานให้กระทำได้ แต่อย่าบ่อยนัก เพราะจะเหมือนกันการผูกมัดการช่วยเหลือของเขาให้เป็นแบบนั้น ขอให้บอกกล่าวให้เขาเข้าใจถึงความต้องการของเราให้ดีและละเอียด หลังจากนั้นก็รอผลลัพธ์ว่าจะเป็นดังที่เราหวังไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นดังหวังก็อย่าได้โทษพราย/กุมารว่าไม่เก่ง เพราะที่สุดของความสำเร็จจะอยู่ที่บุญและบาปของเราที่ทำมามากกว่า พวกเขาแค่ช่วยหนุนได้บ้างเท่านั้น - การอุทิศบุญ การทำบุญให้พราย/กุมารนั้นถือได้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก สำคัญมากกว่าการเซ่นไหว้ด้วยอาหาร เพราะสำหรับพรายแล้วสิ่งที่เขาขาดอย่างมากคือบุญกุศลที่ช่วยทำให้บุญฤทธิ์ของเขามีมากขึ้น และเมื่อมีมากพอจะสามารถนำพาเขาไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ ดังนั้นผู้ที่มีพรายไว้ในครอบครองจะต้องหมั่นสร้างบุญกุศลไม่ว่าจะเป็นใส่บาตร ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา และอีกอย่างหนึ่งที่ควรทำคือการเบิกบุญ ส่วนวิธีการนั้นขอทิ้งให้ตอนท้ายของบทความ - การใช้สายพรายและเกิดเข้าตัว การใช้สายพรายแล้วเกิดเข้าตัวมีหลายสาเหตุ ถ้าจะสรุปจริงๆ ได้ ดังนี้ o พรายชิ้นนั้นกำกับหรือปลุกเสกพรายมาแบบบังคับ และอาคมหรือเวทมนต์ของผู้เสกเสื่อมลงในวันเน่า(วันแรมสิบห้าค่ำ) จึงทำให้พรายในนั้นสามารถออกมาทำร้ายเจ้าของได้ o ตัวเจ้าของเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับพราย เช่น การพูดจาหยาบคาย ไม่มีความเกรงใจ ใช้เหมือนทาส หรือทรมานด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทำให้พรายเกิดความไม่พอใจเป็นทุนเดิม คอยหาโอกาสเอาคืน ในวันเน่าเช่นกัน o มีการเซ่นไหว้ผิดวิธี หรือพิสดาร ไม่เหมาะสมเช่น เซ่นด้วยเลือด ของดิบ หรือไปใช้คาถาอาคมที่ไม่เหมาะสมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เขามีฤทธิ์เดชขึ้นมาจนอาคมและอักขระไม่สามารถคุมได้ o พรายบางชนิดไม่สามารถนำอาคมสะกดเขาได้ แต่อาจารย์ผู้นั้นก็จะฝืนสะกดเขา ทำให้เขาไม่พอใจ เช่น พรายตะเคียน พรายตานี เป็นต้น หรือไม่ก็ถ้าอาจารย์ไม่สะกดเขา แต่บอกกับคนที่นำไปใช้ให้ทำพิธีเหมือนกับว่าจะไปสะกด อาจจทำให้เขาไม่พอใจ สำหรับพรายประเภทเรียกกันว่า "ภูต" มีฤทธิ์มากกว่าพรายทั่วไปหลายเท่า อาคมสะกดไม่อยู่ จะต้องขอบารมีของเขามาใช้เท่านั้น ห้ามสะกดเด็ดขาด o การใช้พรายในวันเน่า (วันแรมสิบห้าค่ำ) การใช้พรายในวันดังกล่าว ผมคิดว่าไม่สมควรเพราะเป็นวันที่คาถาอาคมจะเสื่อมลงหรือด้อยลงในวันนั้น ถ้าเขาไม่พอใจสามารถเล่นงานเราได้ทันที หรือพูดง่ายๆ วันดังกล่าวเป็นวันปล่อยของนั้นเอง ห้ามใช้งานโดยเด็ดขาด - คาถาที่ใช้ สำหรับคาถาที่ใช้สำหรับพราย/กุมารนั้นโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีมาให้ตอนที่บูชาอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีก็ให้ใช้เรียกชื่อเขาเอาได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำจะเป็นคาถาดังนี้ ตั้งนะโม 3 จบแล้วตามด้วยคาถาว่า "เอหิภูตา จะมาเรโส โสมะเร เอหิมะมะ” � สรุปหลักการและข้อควรคำนึงในการเลี้ยงพราย ดังนี้ 1. ไม่ควรใช้วาจาหรือกิริยาท่าทางไม่เหมาะสมต่อพราย อันจะเป็นลบหลู่พรายที่สถิตอยู่ในนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี 2. พึงหมั่นสร้างบุญกุศลอยู่เป็นประจำ และแผ่ส่วนบุญที่ได้นี้ให้กับพรายที่อยู่กับเราด้วยความเต็มใจ และบริสุทธิ์ใจ 3. การใช้งานพึงอธิษฐานใช้โดยจะต้องไม่ผิดศีล ผิดธรรม ถือว่าสำคัญที่สุด 4. การใช้งานพรายต่างๆ นั้น ในบางครั้งได้ผล บางครั้งไม่ได้ผล อันนี้อาจจะไม่ได้หมายความว่าพรายตนนั้นไม่เก่ง แต่ปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้คนเราประสบการณ์ผลสำเร็จได้นั้นก็คือ บุญและบาปที่เรากระทำมาแต่อดีตและปัจจุบัน ตัวพรายเป็นปัจจัยที่สามารถช่วยเสริมความสำเร็จของเราได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วตัวเราเองก็ต้องทำด้วย 5. สำหรับข้อนี้สำคัญมาก ให้พึงพิจารณาให้ดี การที่มีพรายอยู่กับตัว ไม่ได้มีไว้เพื่อความอวดตัวว่ามีของดี มีของน่ากลัว หรือของอาถรรพ์แรงๆ ไม่ใช่สิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ควรกระทำ แต่สิ่งที่ควรกระทำคือ การพิจารณาองค์ธรรมที่แฝงเร้นอยู่ในพรายนั้นต่างหาก จึงจะเรียกได้เข้าถึงการบูชาอย่างแท้จริง เพราะพรายนั้นกับตัวเราไม่ได้ต่างกันนัก คนเราเมื่อตายไปการสังขารย่อมเสื่อมสิ้นเป็นของธรรมดา ชิ้นพรายที่อยู่กับเราไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงการเกิดและดับไปของมนุษย์ทุกนาม ทุกเชื้อชาติ ดังนั้นขอให้ผู้ใดก็ตามที่ครอบครองเครื่องรางสายพรายอยู่พึงพิจารณาให้มากไว้เถิด เพราะการพิจารณาอสุภะ หรือสิ่งไม่สวยงามนี้ เป็นสิ่งที่เราควรกระทำเพื่อลดกิเลส กามตัณหาให้น้อยลง ขอให้พึงพิจารณาให้ดีเถิด � � � � � วิธีเบิกบุญ ก่อนจะทำการเบิกบุญขอให้ตั้งสมาธิสักพัก หรืออาจจะนานเลยก็ได้ จากนั้นให้กล่าวคำพูดดังต่อไปนี้ด้วยจิตที่เป็นกุศล ขออำนาจคุณพระพุทธ , คุณพระธรรม , คุณพระสงฆ์ จงบันดาลให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้า............ได้เคยทำมา จงมาถึงแก่..................... ขอให้เขาทั้งหลายได้จงมีแต่ความสุข ขอให้มีบุญฤทธิ์ที่สูงขึ้น หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ขอให้ได้รับความสุขจากบุญที่ข้าพเจ้าตั้งให้นี้ด้วยเถิด การเบิกบุญนี้สามารถทำให้ทุกขณะจิตที่เป็นสุข หรือถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดี แต่ไม่ต้องกลัวว่าบุญของคุณจะหมดไปหรือลดน้อยถอยลง เพราะบุญของเราเปรียบเสมือนเปลวเทียน ซึ่งสามารถนำมาจุดต่อกับเทียนเล่มอื่นได้มีหลายร้อยหลายพันเล่ม โดยที่เปลวเทียนนั้น ไม่ลดความแรงลงเลย บางคนมักเข้าใจผิดว่าถ้าให้บุญแก่พรายมากๆ เขาจะได้ไปเกิด ไม่ช่วยงานเราอีก นั่นเป็นความคิดที่ผิดมาก สำหรับผมแล้วถ้าเขาได้ไปเกิดก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะนั่นหมายถึงว่าเขาจะได้ไปในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมาเป็นวิญญาณเร่ร่อนอีก � คนเราจะเล่นเครื่องรางหรือพระเครื่องก็ตามแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องบูชาด้วยใจจริง และเข้าถึงแก่นแท้ของการบูชา ไม่ใช่บูชาด้วยกิเลสเจือตัณหา ขอให้พึงคิดให้ถี่ถ้วน เพราะไม่ว่าเราจะมีเครื่องรางหรือพระเครื่องมาจนล้นห้วล้นบ้าน ก็ไม่ได้ช่วยให้เราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือหลุดพ้นจากกองทุกข์กองกิเลส ผู้บูชาสิ่งเหล่านี้พึงจารณาให้ถึงแก่นแท้ และทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้สร้างเสกได้ใส่ไว้ในของเหล่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าถึงซึ่งแก่นแท้ในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะเป็นทางสายเอกที่จะนำพาตัวเราเข้าสู่การหลุดพ้นอย่างแท้จริง เมื่อปฏิบัติได้แล้ว คำว่าจักต้องมาจุติในครรภ์ ก็จะไม่มีอีก สิ้นภพ สิ้นชาติ อันเป็นการจบกิจของผู้ประเสริฐโดยแท้ �
กุมารทอง 202.91.19.169	ความคิดเห็นที่ 2 17/08/2011 , 11:10 Quote คำสอนกุมารทองให้เป็นเด็กดี (โปรดระลึกถึงบารมีพระรัตนตรัยก่อน)� (นะโม 3 จบ) กุมาโร กุมารี มะมะ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ �� ลูกกุมารทอง มานิมา ด้วยบารมีแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ลูกกุมารทองของพ่อ�ที่อยู่กับพ่อ ทุกดวงจิต �� จงเป็นที่หนึ่งแห่งมหาภูติ มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ โดยขอให้ลูกเคารพนับถือ�ครูบาอาจารย์เป็นที่ระลึก และจงให้ความเคารพนับถือ พระแม่ธรณีเจ้า ตลอดทั้งเจ้าที่เจ้าทาง ของทุกสถานที่ �� จงทำตน เป็นผู้นอบน้อม และอ่อนโยน ซึ่งจะทำให้ลูกของพ่อ สามารถไปเที่ยวได้ ในทุกทิศ ไปได้ ในทุกสถานที่�ทุกบ้านทุกเรือน �� ขอให้ลูกของพ่อจงไปสู่จิตของทุก ๆ คนได้ และท่องเที่ยว ไปด้วยเดช มีฤทธิ์ มีอำนาจ แต่ต้องทำตนเป็นเด็กดี เป็นผู้มีคุณธรรม� �� ด้วยอนุภาพ แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เมื่อลูกได้ไปท่องเที่ยวแล้ว จงนำโชค นำลาภ นำเงิน นำทอง และสิ่งดีงาม กลับมาเพิ่มให้พ่อของเจ้าด้วยทุก ๆ วัน �� ด้วยความรักอันดีต่อกัน ขอให้ลูกจงช่วยคุ้มครอง จงช่วยดูแลบ้านเรือน และเฝ้าทรัพย์สินที่เป็นของพ่อให้ด้วย �� ขอให้ลูกจงเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อ คุ้มครองพ่อ ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันค้าขาย ให้เงินทองไหลมาเทมา ไปไหนไปด้วยกัน กลับก็ให้กลับด้วยกัน ไม่ต้องรอเรียก ไม่ต้องรอให้บอก กินให้กินด้วยกัน กินพร้อมกันกับพ่อเลยนะลูก พ่ออนุญาตไว้เลยนะ ขอให้ลูกจงมีความสุข พร้อมด้วยพลังบารมี� �� และด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย ขอให้พลังบุญที่พ่อได้กระทำไว้ดีแล้ว และที่จะกระทำต่อไป จงส่งถึงลูกด้วย จะได้เป็นพลังส่งเสริมให้ลูก เป็นผู้ที่มีดวงจิตอันสว่าง เป็นผู้เบิกบาน และเป็นผู้มีบุญบารมี เพื่อสะสมไว้�มุ่งสู่ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ...สาธุ � � คำสอนกุมารทองให้เป็นเด็กดี (โปรดระลึกถึงบารมีพระรัตนตรัยก่อน)� (นะโม 3 จบ) กุมาโร กุมารี มะมะ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ �� ลูกกุมารทอง มานิมา ด้วยบารมีแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ลูกกุมารทองของพ่อ�ที่อยู่กับพ่อ ทุกดวงจิต �� จงเป็นที่หนึ่งแห่งมหาภูติ มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ โดยขอให้ลูกเคารพนับถือ�ครูบาอาจารย์เป็นที่ระลึก และจงให้ความเคารพนับถือ พระแม่ธรณีเจ้า ตลอดทั้งเจ้าที่เจ้าทาง ของทุกสถานที่ �� จงทำตน เป็นผู้นอบน้อม และอ่อนโยน ซึ่งจะทำให้ลูกของพ่อ สามารถไปเที่ยวได้ ในทุกทิศ ไปได้ ในทุกสถานที่�ทุกบ้านทุกเรือน �� ขอให้ลูกของพ่อจงไปสู่จิตของทุก ๆ คนได้ และท่องเที่ยว ไปด้วยเดช มีฤทธิ์ มีอำนาจ แต่ต้องทำตนเป็นเด็กดี เป็นผู้มีคุณธรรม� �� ด้วยอนุภาพ แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เมื่อลูกได้ไปท่องเที่ยวแล้ว จงนำโชค นำลาภ นำเงิน นำทอง และสิ่งดีงาม กลับมาเพิ่มให้พ่อของเจ้าด้วยทุก ๆ วัน �� ด้วยความรักอันดีต่อกัน ขอให้ลูกจงช่วยคุ้มครอง จงช่วยดูแลบ้านเรือน และเฝ้าทรัพย์สินที่เป็นของพ่อให้ด้วย �� ขอให้ลูกจงเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อ คุ้มครองพ่อ ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันค้าขาย ให้เงินทองไหลมาเทมา ไปไหนไปด้วยกัน กลับก็ให้กลับด้วยกัน ไม่ต้องรอเรียก ไม่ต้องรอให้บอก กินให้กินด้วยกัน กินพร้อมกันกับพ่อเลยนะลูก พ่ออนุญาตไว้เลยนะ ขอให้ลูกจงมีความสุข พร้อมด้วยพลังบารมี� �� และด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย ขอให้พลังบุญที่พ่อได้กระทำไว้ดีแล้ว และที่จะกระทำต่อไป จงส่งถึงลูกด้วย จะได้เป็นพลังส่งเสริมให้ลูก เป็นผู้ที่มีดวงจิตอันสว่าง เป็นผู้เบิกบาน และเป็นผู้มีบุญบารมี เพื่อสะสมไว้�มุ่งสู่ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ...สาธุ � �
เจ๊ 223.205.77.60	ความคิดเห็นที่ 3 17/08/2011 , 15:36 Quote ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ
ผู้หวังดี 49.48.147.132	ความคิดเห็นที่ 4 17/08/2011 , 22:21 Quote เรื่องที่เกิดกับผม ก็แรม15ค่ำพอดีเลยครับตรงกับวันพระ แต่ผมไม่ยอมเซ่นไหว้เลยเกิดเรื่องและ เกิดอาเพศตั้งแต่วันนั้นมาเลย ผมจึงต้องนำพรายเหล่านั้นไปปล่อย ครับ น่ากลัวมากๆ สำหรับผู้ที่เลี้ยงนะครับ ผมขอเตือน ถ้าคิดจะเลี้ยงเลี้ยงให้ดี ไม่ดี มีภัยมหันต์ครับ เรื่องที่เกิดกับผม ก็แรม15ค่ำพอดีเลยครับตรงกับวันพระ แต่ผมไม่ยอมเซ่นไหว้เลยเกิดเรื่องและ เกิดอาเพศตั้งแต่วันนั้นมาเลย ผมจึงต้องนำพรายเหล่านั้นไปปล่อย ครับ น่ากลัวมากๆ สำหรับผู้ที่เลี้ยงนะครับ ผมขอเตือน ถ้าคิดจะเลี้ยงเลี้ยงให้ดี ไม่ดี มีภัยมหันต์ครับ
กุมารทอง 111.84.200.226	ความคิดเห็นที่ 5 18/08/2011 , 09:39 Quote เลี้ยงพราย กับ เทพ ไม่เหมือนกันครับ การเลี้ยงพรายนั้นเราต้องคุมเขาอยู่ และต้องทำตามสัญญาที่เรานั้นให้กับเขาไว้ ไม่เช่นนั้นแทนที่จะกลายเป็นคุณแต่กลับเป็นโทษกับตัวเรา ถึงแม้นจะเห็นผลเร็วทันใจ แต่โทษก็มีอยู่เหมือนกัน ซึ่งการเลี้ยงพรายนั้น เราต้องมั่นใจว่าเราจะต้องทำอย่างถูกต้อง ผิดแผน ผิดวิธีการเลี้ยง ย่อมมีผลเสียต่อผู่้เลี้ยงได้เช่นกันครับ เลี้ยงพราย กับ เทพ ไม่เหมือนกันครับ การเลี้ยงพรายนั้นเราต้องคุมเขาอยู่ และต้องทำตามสัญญาที่เรานั้นให้กับเขาไว้ ไม่เช่นนั้นแทนที่จะกลายเป็นคุณแต่กลับเป็นโทษกับตัวเรา ถึงแม้นจะเห็นผลเร็วทันใจ แต่โทษก็มีอยู่เหมือนกัน ซึ่งการเลี้ยงพรายนั้น เราต้องมั่นใจว่าเราจะต้องทำอย่างถูกต้อง ผิดแผน ผิดวิธีการเลี้ยง ย่อมมีผลเสียต่อผู่้เลี้ยงได้เช่นกันครับ
จ๊ะ ทิง จา 118.173.248.44	ความคิดเห็นที่ 6 18/08/2011 , 12:02 Quote มิทราบว่า...คาถาเพิ่มกลังนี่ใช้กับทุก อาจารย์หรือเปล่าครับ...เกรงว่าเอาของอาจารย์หรือสำนักอื่นมาใช้จะใช้ไม่ได้หนะครับ...ของผมมีแต่ของ วัดสามง่าม หมดเลยครับ มิทราบว่า...คาถาเพิ่มกลังนี่ใช้กับทุก อาจารย์หรือเปล่าครับ...เกรงว่าเอาของอาจารย์หรือสำนักอื่นมาใช้จะใช้ไม่ได้หนะครับ...ของผมมีแต่ของ วัดสามง่าม หมดเลยครับ
กุมารทอง 103.1.166.199	ความคิดเห็นที่ 7 18/08/2011 , 13:07 Quote เป็นคาถาที่ใช้โดยทั่วไปครับ ถ้าจะนำมาใช้กับกุมารทองวัดสามง่าม ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ เพราะสามารถใช้ได้กับกุมารทองทุกวัดครับ เป็นคาถาที่ใช้โดยทั่วไปครับ ถ้าจะนำมาใช้กับกุมารทองวัดสามง่าม ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ เพราะสามารถใช้ได้กับกุมารทองทุกวัดครับ
จ๊ะ ทิง จา 118.173.248.44	ความคิดเห็นที่ 8 18/08/2011 , 14:08 Quote ขอบพระคุณครับ ขอบพระคุณครับ