ขอถามเกี่ยวกับ ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง.... [Engine by iGetWeb.com]

ขอถามเกี่ยวกับ ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง....

(อ่าน 14442/ ตอบ 13)

มือใหม่ 49.237.110.242	หัวข้อ :ขอถามเกี่ยวกับ ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง.... 24/09/2011 , 22:31 Quote คือผมสงสัยนะครับว่าปกติผ้ายันต์พระสีฯ ปั้มตราวัดสามง่ามกี่ตา.....? ของเพื่อนผมมี1ตา ของผมมี2ตาไม่เหมือนกันของท่านอื่นมีกี่ตากันครับสงสัย อีกอย่างครับผ้ายันพระสีฯก่อนนำเข้าบ้านต้องจุดธูปบอกเจ้าที่เหมือนกุมารทอง หรือเปล่าครับ.....? ขอบคุณครับ คือผมสงสัยนะครับว่าปกติผ้ายันต์พระสีฯ ปั้มตราวัดสามง่ามกี่ตา.....? ของเพื่อนผมมี1ตา ของผมมี2ตาไม่เหมือนกันของท่านอื่นมีกี่ตากันครับสงสัย อีกอย่างครับผ้ายันพระสีฯก่อนนำเข้าบ้านต้องจุดธูปบอกเจ้าที่เหมือนกุมารทอง หรือเปล่าครับ.....? ขอบคุณครับ Tweet
คนเดินดิน 202.91.19.195	ความคิดเห็นที่ 1 25/09/2011 , 07:13 Quote ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม เด่นทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายดี ให้เซ่นด้วยเหล้าขาว โดยการหยดเหล้าขาวไปตรงบริเวณปากของพระสีสะแลงแงงหรือท่านใดจะหาขวดสเปรย์ เล็กๆ แล้วน้ำเหล้าขาวมาใส่เพื่อใช้สำหรับพ่นก็จะเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น คาถาบูชาพระสีสะแลงแงง ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า ตามนี้ ปัญจะมาเล ปัญจะมามะ พระสีสะแลงแงง จิตตังภิติรินิโส จิตตังภิติรินิเม นังสังวิโตทิมุตมัง นะมะพะทะ มะอะอุ (9 จบ) ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม เด่นทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายดี ให้เซ่นด้วยเหล้าขาว โดยการหยดเหล้าขาวไปตรงบริเวณปากของพระสีสะแลงแงงหรือท่านใดจะหาขวดสเปรย์ เล็กๆ แล้วน้ำเหล้าขาวมาใส่เพื่อใช้สำหรับพ่นก็จะเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น คาถาบูชาพระสีสะแลงแงง ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า ตามนี้ ปัญจะมาเล ปัญจะมามะ พระสีสะแลงแงง จิตตังภิติรินิโส จิตตังภิติรินิเม นังสังวิโตทิมุตมัง นะมะพะทะ มะอะอุ (9 จบ)
คนเดินดิน 202.91.19.195	ความคิดเห็นที่ 2 25/09/2011 , 07:16 Quote ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม พระสีสะแลงแงง เป็นวิชาอาคมที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านได้เรียนมาจากครูกระเหรี่ยงซึ่งในสมัยของหลวงพ่อเต๋ ไม่มีการสร้างพระสีสะแลงแงงนี้ขึ้นเพราะอาจจะกลัวว่าหากสร้างขึ้นแล้วผู้ที่บูชาไปอาจจะนำไปใช้ผิดทำนองคลองธรรม หรือผิดศีลธรรมได้ อันเนื่องด้วย พระสีสะแลงแงงนี้เป็นวิชาอาคมที่มีอานุภาพสูงทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง มาถึงในยุคสมัยของหลวงพ่อแย้ม ท่านได้อนุญาตให้สร้างขึ้น หลวงพ่อแย้มได้ทำการปลุกเสกเรียกจิต หนุนธาตุ 4 อาการ 32 มีจิตมีตัว วิธีบูชาให้บนด้วยเหล้าขาว บอกความปราถนาหากสำเร็จให้เลี้ยงด้วยเหล้าขาวโดยการเทเหล้าขาวลงบนผ้ายันต์เล็กน้อย พระสีสะแลงแงง เป็นของที่มีจิตวิญญาณแต่ไม่ใช่ผีแต่เป็นจิตที่เกิดขึ้นจากพลังจิต วิทยาคมและแรงครูทำการปลุกเสกจนอาการ ครบ 32 ดังนั้นถ้าหมั่นเรียกหาเรียกใช้จะยิ่งขลัง เหมือนคนรู้จักกันยิ่งเสวนากันมากยิ่งสนิทสนมกัน เดิมเป็นวิชาสักที่หน้าขา ต่อ มาจึงลงในผ้าแทน การใช้ต้องสัมผัสเนื้อจึงยิ่งแรง จึงทำให้เกิดวลีผูกต้นขาหาสาวขึ้น ท้ายสุดจึงสร้างเป็นเครื่องรางเนื้อผงอาถรรพ์ผสมด้วยกระดูก การเลี้ยงให้เลี้ยงด้วยเหล้าขาวหยดที่ปากหยดเดียวพอชื้นๆยิ่งเลี้ยงเหล้าขาว บ่อยๆยิ่งท่องคาถาปลุกยิ่งเฮี้ยน ทีนี้เวลามีธุระจะไปหาใครให้บอกพระสีฯ เช่นว่าพระสีฯผมชอบผู้หญิงคนนี้ ชื่อนี้ กำลังจะไปหา ขอพระสีฯจงช่วยเอาตัวมาเป็นเมีย ไปแล้วขอให้ได้ตามที่ปรารถนา ถ้าหากสำเร็จจะให้พระสีฯกินเหล้ากับไข่ต้ม เวลาให้กินก็เอาเหล้าหยดไข่ต้มแตะที่ปากแล้ววางไว้ ประมาณสักชั่วธูปสิ้นดอกกจึงลา ในเรื่องอื่นๆก็เช่นเดียวกัน บางท่านขอเรื่องธุรกิจ ค้าขาย บางท่านขอให้ดึงสามีที่เจ้าชู้อยู่บ้าน บางท่านขอให้ดลใจให้นายขอให้เจ้านายรัก เจ้านายเมตตา ได้ขึ้นเงินเดือน ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งฯลฯ สุดแต่จะขอ(แต่ห้ามผิดศีล) พุทธคุณ เด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง ป้องกันภัย แจ้งเตือนบอกเหตุก่อน เฝ้าทรัพย์ ทางด้าน เมตตามหานิยม เจรจาค้าขาย โชคลาภ มีตัว ปรกปักรักษาคุ้มครอง กันคุณไสย์ กันภูติผีปีศาจ กันเสนียจจัญไร(มีกายทิพย์)เหมือนตุ๊กตาทอง ต้องเลี้ยงด้วยเหล้าขาว ให้เทลงบริเวณปากของพระศรี และสามารถบนบานสารกล่าวได้ บนด้วยเหล้าขาวและไข่ต้ม คาถาเรียกเต็มบท ตั้งนะโม 3 จบ ปัญจะมาเล ปัญจะมามะพระสีสะแลงแงง จิตตังภิติรินิเม จิตตังภิติรินิโส นังสังวิโตนะมุตตะมัง นะมะพะทะ มะอะอุ 9 จบ สำหรับตอนที่จะเดินเข้าไปพูดให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า จิตตังภิติรินิเม อี ออกชื่อผู้หญิง หรือ จิตตังปุริโส ไอ้ ถ้าเป็นผู้ชาย เคล็ดที่ได้มานี่แยกตอนเซ่นตามปกติ กับตอนที่จะเดินเข้าไปหา หมายเหตุ : หากขอในเรื่องผู้หญิงหากสำเร็จได้มาเป็นเมียแล้วต้องรับผิดชอบ หากไม่รับผิดชอบไม่ดูแลทิ้งขว้าง หลวงพ่อเต๋ท่านแช่งไว้ ที่มา พระสีสะแลงแงง คืออะไร.... พระสีสะแลงแงง เป็นชื่อเรียกเท่านั้น จริงแล้วก็คือพยนต์ชนิดหนึ่งนี่เอง คุณสมบัติและข้อดีของพยนต์คือ จะสามารถกระทำการแทนผู้ใช้ได้ แต่คนที่จะใช้ได้สำฤทธิ์ผล หรือสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญทาน การสร้างบารมี และที่สำคัญที่สุดที่จะขาดเสียไม่ได้ สำหรับคนเลี้ยงกุมารทอง หรือคนที่บูชาพระสีสะแลงแงง และใช้ผ้ายันต์นี้ในการต่าง ๆ คือ "ต้องมีสัจจะ" ต้องฝึกสัจจะ ให้เกิดวาจาสิทธิ์ จะผิดคำพูด พูดปด พูดให้ร้ายคนอื่นไม่ได้ สิ่งที่พูดต้องเป็นความจริง และพูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าสามารถทำได้แล้ว จะใช้อะไรก็สามารถใช้ได้ตามใจปราถนาครับ ที่คนไม่นิยมบูชาพยนต์เพราะใช้ไม่ได้ผล ใช้ไม่ถูกทาง แต่ถ้าคนที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม หรือเรียกว่าใช้เป็นแล้ว พยนต์ก็เหมือนโคลนนิ่งที่ทำหลาย ๆ อย่างแทนเราได้อย่างสบาย ๆ ผ้ายันต์พระสีสะแลงแงง หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม พระสีสะแลงแงง เป็นวิชาอาคมที่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านได้เรียนมาจากครูกระเหรี่ยงซึ่งในสมัยของหลวงพ่อเต๋ ไม่มีการสร้างพระสีสะแลงแงงนี้ขึ้นเพราะอาจจะกลัวว่าหากสร้างขึ้นแล้วผู้ที่บูชาไปอาจจะนำไปใช้ผิดทำนองคลองธรรม หรือผิดศีลธรรมได้ อันเนื่องด้วย พระสีสะแลงแงงนี้เป็นวิชาอาคมที่มีอานุภาพสูงทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง มาถึงในยุคสมัยของหลวงพ่อแย้ม ท่านได้อนุญาตให้สร้างขึ้น หลวงพ่อแย้มได้ทำการปลุกเสกเรียกจิต หนุนธาตุ 4 อาการ 32 มีจิตมีตัว วิธีบูชาให้บนด้วยเหล้าขาว บอกความปราถนาหากสำเร็จให้เลี้ยงด้วยเหล้าขาวโดยการเทเหล้าขาวลงบนผ้ายันต์เล็กน้อย พระสีสะแลงแงง เป็นของที่มีจิตวิญญาณแต่ไม่ใช่ผีแต่เป็นจิตที่เกิดขึ้นจากพลังจิต วิทยาคมและแรงครูทำการปลุกเสกจนอาการ ครบ 32 ดังนั้นถ้าหมั่นเรียกหาเรียกใช้จะยิ่งขลัง เหมือนคนรู้จักกันยิ่งเสวนากันมากยิ่งสนิทสนมกัน เดิมเป็นวิชาสักที่หน้าขา ต่อ มาจึงลงในผ้าแทน การใช้ต้องสัมผัสเนื้อจึงยิ่งแรง จึงทำให้เกิดวลีผูกต้นขาหาสาวขึ้น ท้ายสุดจึงสร้างเป็นเครื่องรางเนื้อผงอาถรรพ์ผสมด้วยกระดูก การเลี้ยงให้เลี้ยงด้วยเหล้าขาวหยดที่ปากหยดเดียวพอชื้นๆยิ่งเลี้ยงเหล้าขาว บ่อยๆยิ่งท่องคาถาปลุกยิ่งเฮี้ยน ทีนี้เวลามีธุระจะไปหาใครให้บอกพระสีฯ เช่นว่าพระสีฯผมชอบผู้หญิงคนนี้ ชื่อนี้ กำลังจะไปหา ขอพระสีฯจงช่วยเอาตัวมาเป็นเมีย ไปแล้วขอให้ได้ตามที่ปรารถนา ถ้าหากสำเร็จจะให้พระสีฯกินเหล้ากับไข่ต้ม เวลาให้กินก็เอาเหล้าหยดไข่ต้มแตะที่ปากแล้ววางไว้ ประมาณสักชั่วธูปสิ้นดอกกจึงลา ในเรื่องอื่นๆก็เช่นเดียวกัน บางท่านขอเรื่องธุรกิจ ค้าขาย บางท่านขอให้ดึงสามีที่เจ้าชู้อยู่บ้าน บางท่านขอให้ดลใจให้นายขอให้เจ้านายรัก เจ้านายเมตตา ได้ขึ้นเงินเดือน ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งฯลฯ สุดแต่จะขอ(แต่ห้ามผิดศีล) พุทธคุณ เด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง ป้องกันภัย แจ้งเตือนบอกเหตุก่อน เฝ้าทรัพย์ ทางด้าน เมตตามหานิยม เจรจาค้าขาย โชคลาภ มีตัว ปรกปักรักษาคุ้มครอง กันคุณไสย์ กันภูติผีปีศาจ กันเสนียจจัญไร(มีกายทิพย์)เหมือนตุ๊กตาทอง ต้องเลี้ยงด้วยเหล้าขาว ให้เทลงบริเวณปากของพระศรี และสามารถบนบานสารกล่าวได้ บนด้วยเหล้าขาวและไข่ต้ม คาถาเรียกเต็มบท ตั้งนะโม 3 จบ ปัญจะมาเล ปัญจะมามะพระสีสะแลงแงง จิตตังภิติรินิเม จิตตังภิติรินิโส นังสังวิโตนะมุตตะมัง นะมะพะทะ มะอะอุ 9 จบ สำหรับตอนที่จะเดินเข้าไปพูดให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า จิตตังภิติรินิเม อี ออกชื่อผู้หญิง หรือ จิตตังปุริโส ไอ้ ถ้าเป็นผู้ชาย เคล็ดที่ได้มานี่แยกตอนเซ่นตามปกติ กับตอนที่จะเดินเข้าไปหา หมายเหตุ : หากขอในเรื่องผู้หญิงหากสำเร็จได้มาเป็นเมียแล้วต้องรับผิดชอบ หากไม่รับผิดชอบไม่ดูแลทิ้งขว้าง หลวงพ่อเต๋ท่านแช่งไว้ ที่มา พระสีสะแลงแงง คืออะไร.... พระสีสะแลงแงง เป็นชื่อเรียกเท่านั้น จริงแล้วก็คือพยนต์ชนิดหนึ่งนี่เอง คุณสมบัติและข้อดีของพยนต์คือ จะสามารถกระทำการแทนผู้ใช้ได้ แต่คนที่จะใช้ได้สำฤทธิ์ผล หรือสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญทาน การสร้างบารมี และที่สำคัญที่สุดที่จะขาดเสียไม่ได้ สำหรับคนเลี้ยงกุมารทอง หรือคนที่บูชาพระสีสะแลงแงง และใช้ผ้ายันต์นี้ในการต่าง ๆ คือ "ต้องมีสัจจะ" ต้องฝึกสัจจะ ให้เกิดวาจาสิทธิ์ จะผิดคำพูด พูดปด พูดให้ร้ายคนอื่นไม่ได้ สิ่งที่พูดต้องเป็นความจริง และพูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าสามารถทำได้แล้ว จะใช้อะไรก็สามารถใช้ได้ตามใจปราถนาครับ ที่คนไม่นิยมบูชาพยนต์เพราะใช้ไม่ได้ผล ใช้ไม่ถูกทาง แต่ถ้าคนที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม หรือเรียกว่าใช้เป็นแล้ว พยนต์ก็เหมือนโคลนนิ่งที่ทำหลาย ๆ อย่างแทนเราได้อย่างสบาย ๆ
คนเดินดิน 202.91.19.195	ความคิดเห็นที่ 3 25/09/2011 , 07:20 Quote บางท่านพลังจิตอ่อนกว่าวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังจนทำให้ใจหวิวๆเหมือนคุณ jukac ให้ลองหาวัตถุมงคลอื่นๆบูชาดู เช่นกระผมเคยลองคล้องหลวงพ่อโตกรุบางกระทิงได้เรื่องครับมีเรื่องตลอดทั้งตี(ถูกตีโดนแทง)แต่ไม่มีเลือดไม่หยุดหย่อนจนต้องนิมนต์ ไว้ที่หิ้งเหมือนเดิมฮิๆๆๆๆๆ...(บ้างครั้งนั่งอยู่เฉยๆๆเรื่องก็เข้ามาถึงแม้นพุทธคุณท่านสูงคงเนื้อคงหนังแต่รับไม่ไหวน่ะครับ) และอีกรุ่นพระยอดธง ซึ่งแฟนบอกได้มาจากอยุธยา จากยอดธงที่เขาออกรบจริงๆพอคล้องแล้วใจฮึกเหมจะออกรบตลอดอีกวันต้องเหมือนเดิม(ไว้บูชาบนหิ้งไว้ลูกจะไปรบเมื่อไหร่ลูกจะอัญเชิญหลวงพ่อไปน่ะจ๊ะ)เครื่องรางอีกชนิดตะกรุด(ต้องศึกษาวิธีใช้น่ะ)เช่นของหลวงปู่แย้มวัดสามง่าม(ตะกรุดสามห่วง)เผชิญศัตรูไว้ข้างหน้า หนีข้างหลัง เมตตาข้างซ้ายหรือขวา แต่กระผมไม่รุดซ้ายขวาหน้าหลังล่ะครับคล้องคอเลยเพราะหลวงปู่แย้มท่านรับรองคุณภาพอยู่แล้ว สรรพคุณไม่ต้องบอกล่ะครับขนาดพระสี ยังแรงมากๆสัมผัสได้ กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง)ก็แรงหลวงปู่ท่านแยกปลุกเสกตะกรุดและตุ๊กตาทอง พระสี คือแต่ล่ะอย่างดีคนล่ะแบบเช่นตะกรุดเคยมีบางท่านเอาไปลองจึงเกิดปรากฏการณ์ของอิทธิฤทธิ์ในทางไสยศาสตร์ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงพอจะเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่า “ปืนยิงไม่ออก” หรือ “ออกแต่ไม่ถูก” เราเรียกว่า “มหาอุตม์” ... แต่ถ้าบังเอิญ"ยิงถูกแต่ไม่เข้า" เขาเรียกกันว่า “คงกระพัน..” หลวงปู่แย้มท่านเล่าให้ฟังว่า “อาตมาทำตะกรุดสืบทอดมาจากหลวงพ่อเต๋ ถ้าเป็นการเขียนยันต์ลงบนกระดาษข่อย จะเรียกว่า ตะกรุดสามหู แต่ถ้าเขียนลงบนแผ่นทองแดงเรียกว่า ตะกรุดมหารูด...”>> “การเอาไปใช้นั้นไม่ต่างกัน เพราะตัวคาถาที่เขียนลงในตะกรุดสามหู ก็เป็นคาถาตัวเดียวกับตะกรุดมหารูด...โดยยันต์ที่ใช้ลงคือยันต์พระเจ้าห้าพระองค์และยันต์มหาอุด..”>> “ตามตำราระบุไว้ว่า ถ้าจะต่อสู้ให้เอาไว้ข้างหน้าจะได้ชนะ สู้ไม่ได้ต้องวิ่งหนีท่านว่าให้เลื่อนเอาไว้ข้างหลัง ถ้าจะเมตตาขมังต้องเลือนไว้ซ้ายหรือขวา คนรัก เจ้านายไม่ชิงชัง..” >> ว่ากันว่า “ขลังหรือไม่ขลังอยู่ที่ใจ” แต่ “คงไม่ใช่และใช้ไม่ได้”กับวัตถุมงคลของหลวงพ่อแย้ม ถ้าขาดสิ่งนี้ครับ..>> “วัตถุมงคลของอาตมาจะใช้ได้ดีหรือไม่ดี จะขลังหรือไม่ขลัง ไม่ต้องไปดูที่ไหน ดูที่ตัวเราเอง ดูที่ตัวคนใช้ >> หากประพฤติสิ่งเลวๆ ของก็ไม่คุ้มครอง หากเราประพฤติดี วัตถุมงคลเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ความคุ้มครอง สิ่งสำคัญคือหมั่นรักษาศีล ๕ เอาไว้..”>> “ตอนที่อาตมาเรียนกับหลวงพ่อเต๋ อาตมาไม่เคยเห็นหลวงพ่อท่านบอกกับใครเลยว่า เอาไปใช้แล้วจะดีอย่างไร ท่านบอกแต่ว่า.. >> ใครอยากได้ก็มาเอาไป และเมื่อมีใครเอาไปใช้แล้วขอให้มีเมตตามีศีลห้า อย่าด่าพ่อล่อแม่ ถ้าละในสิ่งเหล่านี้ได้ของถึงจะขลัง...ท่านว่าทองคำจะไปอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นทองคำ.....” >> “อาตมาจะปลุกเสกเป็นไตรมาส วัตถุมงคลน่ะปลุกเสกคนเดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกหมู่หรอก เพราะของจะดีหรือไม่ดีสุดท้ายมันก็ต้องไปอยู่กับที่คนใช้นั่นเอง...” >> เป็นความจริงครับที่ว่า..."การดำรงชีวิตอยู่นี้มันยาก" เพราะเราต้องผจญภัยกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างตัวเรา ซึ่งสิ่งรอบข้างภายนอกก็เช่น รูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ ที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ>> นอกจากตัวเราต้อง “บริหารเหตุปัจจัยภายนอก” แล้ว เรายังต้อง”บริหารเหตุปัจจัยภายในตนเอง” อีกอย่างหนึ่ง >> และด้วยเหตุนี้ “การรู้เท่าทันตนเอง” จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเมื่อรู้เท่าทันแล้ว เราก็จะเป็นคนที่มีความสามารถและถึงพร้อมกับการเป็น “ผู้มีศีลและมีธรรม....”>> บางท่านพลังจิตอ่อนกว่าวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังจนทำให้ใจหวิวๆเหมือนคุณ jukac ให้ลองหาวัตถุมงคลอื่นๆบูชาดู เช่นกระผมเคยลองคล้องหลวงพ่อโตกรุบางกระทิงได้เรื่องครับมีเรื่องตลอดทั้งตี(ถูกตีโดนแทง)แต่ไม่มีเลือดไม่หยุดหย่อนจนต้องนิมนต์ ไว้ที่หิ้งเหมือนเดิมฮิๆๆๆๆๆ...(บ้างครั้งนั่งอยู่เฉยๆๆเรื่องก็เข้ามาถึงแม้นพุทธคุณท่านสูงคงเนื้อคงหนังแต่รับไม่ไหวน่ะครับ) และอีกรุ่นพระยอดธง ซึ่งแฟนบอกได้มาจากอยุธยา จากยอดธงที่เขาออกรบจริงๆพอคล้องแล้วใจฮึกเหมจะออกรบตลอดอีกวันต้องเหมือนเดิม(ไว้บูชาบนหิ้งไว้ลูกจะไปรบเมื่อไหร่ลูกจะอัญเชิญหลวงพ่อไปน่ะจ๊ะ)เครื่องรางอีกชนิดตะกรุด(ต้องศึกษาวิธีใช้น่ะ)เช่นของหลวงปู่แย้มวัดสามง่าม(ตะกรุดสามห่วง)เผชิญศัตรูไว้ข้างหน้า หนีข้างหลัง เมตตาข้างซ้ายหรือขวา แต่กระผมไม่รุดซ้ายขวาหน้าหลังล่ะครับคล้องคอเลยเพราะหลวงปู่แย้มท่านรับรองคุณภาพอยู่แล้ว สรรพคุณไม่ต้องบอกล่ะครับขนาดพระสี ยังแรงมากๆสัมผัสได้ กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง)ก็แรงหลวงปู่ท่านแยกปลุกเสกตะกรุดและตุ๊กตาทอง พระสี คือแต่ล่ะอย่างดีคนล่ะแบบเช่นตะกรุดเคยมีบางท่านเอาไปลองจึงเกิดปรากฏการณ์ของอิทธิฤทธิ์ในทางไสยศาสตร์ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงพอจะเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่า “ปืนยิงไม่ออก” หรือ “ออกแต่ไม่ถูก” เราเรียกว่า “มหาอุตม์” ... แต่ถ้าบังเอิญ"ยิงถูกแต่ไม่เข้า" เขาเรียกกันว่า “คงกระพัน..” หลวงปู่แย้มท่านเล่าให้ฟังว่า “อาตมาทำตะกรุดสืบทอดมาจากหลวงพ่อเต๋ ถ้าเป็นการเขียนยันต์ลงบนกระดาษข่อย จะเรียกว่า ตะกรุดสามหู แต่ถ้าเขียนลงบนแผ่นทองแดงเรียกว่า ตะกรุดมหารูด...”>> “การเอาไปใช้นั้นไม่ต่างกัน เพราะตัวคาถาที่เขียนลงในตะกรุดสามหู ก็เป็นคาถาตัวเดียวกับตะกรุดมหารูด...โดยยันต์ที่ใช้ลงคือยันต์พระเจ้าห้าพระองค์และยันต์มหาอุด..”>> “ตามตำราระบุไว้ว่า ถ้าจะต่อสู้ให้เอาไว้ข้างหน้าจะได้ชนะ สู้ไม่ได้ต้องวิ่งหนีท่านว่าให้เลื่อนเอาไว้ข้างหลัง ถ้าจะเมตตาขมังต้องเลือนไว้ซ้ายหรือขวา คนรัก เจ้านายไม่ชิงชัง..” >> ว่ากันว่า “ขลังหรือไม่ขลังอยู่ที่ใจ” แต่ “คงไม่ใช่และใช้ไม่ได้”กับวัตถุมงคลของหลวงพ่อแย้ม ถ้าขาดสิ่งนี้ครับ..>> “วัตถุมงคลของอาตมาจะใช้ได้ดีหรือไม่ดี จะขลังหรือไม่ขลัง ไม่ต้องไปดูที่ไหน ดูที่ตัวเราเอง ดูที่ตัวคนใช้ >> หากประพฤติสิ่งเลวๆ ของก็ไม่คุ้มครอง หากเราประพฤติดี วัตถุมงคลเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ความคุ้มครอง สิ่งสำคัญคือหมั่นรักษาศีล ๕ เอาไว้..”>> “ตอนที่อาตมาเรียนกับหลวงพ่อเต๋ อาตมาไม่เคยเห็นหลวงพ่อท่านบอกกับใครเลยว่า เอาไปใช้แล้วจะดีอย่างไร ท่านบอกแต่ว่า.. >> ใครอยากได้ก็มาเอาไป และเมื่อมีใครเอาไปใช้แล้วขอให้มีเมตตามีศีลห้า อย่าด่าพ่อล่อแม่ ถ้าละในสิ่งเหล่านี้ได้ของถึงจะขลัง...ท่านว่าทองคำจะไปอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นทองคำ.....” >> “อาตมาจะปลุกเสกเป็นไตรมาส วัตถุมงคลน่ะปลุกเสกคนเดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องปลุกเสกหมู่หรอก เพราะของจะดีหรือไม่ดีสุดท้ายมันก็ต้องไปอยู่กับที่คนใช้นั่นเอง...” >> เป็นความจริงครับที่ว่า..."การดำรงชีวิตอยู่นี้มันยาก" เพราะเราต้องผจญภัยกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างตัวเรา ซึ่งสิ่งรอบข้างภายนอกก็เช่น รูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ ที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ>> นอกจากตัวเราต้อง “บริหารเหตุปัจจัยภายนอก” แล้ว เรายังต้อง”บริหารเหตุปัจจัยภายในตนเอง” อีกอย่างหนึ่ง >> และด้วยเหตุนี้ “การรู้เท่าทันตนเอง” จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเมื่อรู้เท่าทันแล้ว เราก็จะเป็นคนที่มีความสามารถและถึงพร้อมกับการเป็น “ผู้มีศีลและมีธรรม....”>>
คนเดินดิน 202.91.19.195	ความคิดเห็นที่ 4 25/09/2011 , 07:38 Quote ความเห็นด้านบน นำมาจากเว็ปพลังจิต ครับ ส่วนตราประทับ 1ตรา 2 ตรา ฯลฯ เป็นการบ่งบอกถึงรุ่นที่สร้างครับ ความเห็นด้านบน นำมาจากเว็ปพลังจิต ครับ ส่วนตราประทับ 1ตรา 2 ตรา ฯลฯ เป็นการบ่งบอกถึงรุ่นที่สร้างครับ
คนเดินดิน 115.67.246.186	ความคิดเห็นที่ 5 25/09/2011 , 09:51 Quote ที่จริงแผ่นยันต์มีตราประทับ ถึง 4 ตา เขาว่าเป็นรุ่นหายาก 1 ตาก็รุ่น 1 , 2 ตาก็รุ่น 2 เช่ามาเท่าไหร่หรือครับ? ดูเก่าดีครับ เก็บไว้น่ะ...หายาก เดา 1,500 หรือเปล่าครับ. ที่จริงแผ่นยันต์มีตราประทับ ถึง 4 ตา เขาว่าเป็นรุ่นหายาก 1 ตาก็รุ่น 1 , 2 ตาก็รุ่น 2 เช่ามาเท่าไหร่หรือครับ? ดูเก่าดีครับ เก็บไว้น่ะ...หายาก เดา 1,500 หรือเปล่าครับ.
pentor 52 180.183.146.20	ความคิดเห็นที่ 6 25/09/2011 , 14:56 Quote มีรุ่น 1 เช่ามาประมาณ 2 ปีแล้วครับ.... มีรุ่น 1 เช่ามาประมาณ 2 ปีแล้วครับ....
คนเดินดิน 115.67.168.113	ความคิดเห็นที่ 7 25/09/2011 , 17:33 Quote ที่จริงมันมีแบบรุ่นที่ เขียนมือ และแบบปั๊มตรา ด้วยครับ ส่วนรุ่นใหม่ๆคงไม่มีเขียนมือกันแล้ว จะเป็นยันต์ปั๊ม ประทับตราน่ะครับ. รุ่น 1,2 ปั๊มของใหม่น่ะครับ อีกอย่างเดี๋ยวนี้ ยันต์ปั๊มใหม่ ก็มีรุ่นเหมือนกันครับ ผลิตใหม่ ปั๊มใหม่ ประทับตรา รุ่น 1,2 ก็ได้เหมือนกัน ประเภทสร้างใหม่ ประมาณนั้นครับ ส่วนรุ่นเก่ากว่านี้ก็มีตราประทับเหมือนกัน แยกใหม่ แยกเก่า ลงไปอีกน่ะครับ ส่วนของใหม่ก็ออกมาเรื่อยๆครับ ที่จริงมันมีแบบรุ่นที่ เขียนมือ และแบบปั๊มตรา ด้วยครับ ส่วนรุ่นใหม่ๆคงไม่มีเขียนมือกันแล้ว จะเป็นยันต์ปั๊ม ประทับตราน่ะครับ. รุ่น 1,2 ปั๊มของใหม่น่ะครับ อีกอย่างเดี๋ยวนี้ ยันต์ปั๊มใหม่ ก็มีรุ่นเหมือนกันครับ ผลิตใหม่ ปั๊มใหม่ ประทับตรา รุ่น 1,2 ก็ได้เหมือนกัน ประเภทสร้างใหม่ ประมาณนั้นครับ ส่วนรุ่นเก่ากว่านี้ก็มีตราประทับเหมือนกัน แยกใหม่ แยกเก่า ลงไปอีกน่ะครับ ส่วนของใหม่ก็ออกมาเรื่อยๆครับ
มือใหม่ 180.214.213.23	ความคิดเห็นที่ 8 25/09/2011 , 18:03 Quote อ่านแล้วก็ยังไม่เครียครับยังไม่ค่อยเข้าใจ ผืนนี้ผมเช่ามาที่วัดไม่นานนี้เองครับ ตอนแรกไม่ได้สังเกตุว่ามีกี่ตราคือแบบว่าเพื่อนผมขอแลกกับผมนะ.... นึกในใจ (ผ้ายันต์ก็เหมือนกันจะแลกทำไมวะ) มันบอกของผมมี2ตราชอบขอแลก ผมไม่ยอมแลกครับ ก็เพื่อนผมเช่ามาหลายผืนปั้มตราวัดสามง่าม1ตราทุกผืน นี่คือที่มาของคำถามครับ...หรือว่าหลวงพ่อที่ปั้มตราให้ลืม ปั้มแล้วปั้มอีก อ่านแล้วก็ยังไม่เครียครับยังไม่ค่อยเข้าใจ ผืนนี้ผมเช่ามาที่วัดไม่นานนี้เองครับ ตอนแรกไม่ได้สังเกตุว่ามีกี่ตราคือแบบว่าเพื่อนผมขอแลกกับผมนะ.... นึกในใจ (ผ้ายันต์ก็เหมือนกันจะแลกทำไมวะ) มันบอกของผมมี2ตราชอบขอแลก ผมไม่ยอมแลกครับ ก็เพื่อนผมเช่ามาหลายผืนปั้มตราวัดสามง่าม1ตราทุกผืน นี่คือที่มาของคำถามครับ...หรือว่าหลวงพ่อที่ปั้มตราให้ลืม ปั้มแล้วปั้มอีก
คนเดินดิน 1.46.7.99	ความคิดเห็นที่ 9 25/09/2011 , 19:03 Quote เอาเถอะครับ อย่าเครียดไปเลย ออกจากวัดก็ถือว่าเป็นของแท้แล้วล่ะครับ ส่วนออกจากวัดไปก็เป็นแบบหนึ่ง อาจจะบอกแท้ไม่แท้ เป็นเรื่องของการค้า ไม่เกี่ยวกับวัดแล้วล่ะครับ หากได้รับจากมือหลวงปู่ เป็นของวัดก็ถือว่าผ่านแล้ว ของแท้แน่นอน ส่วนตราปั๊ม เดี๋ยวนี้ใครก็ปั๊มได้ครับ บางทีปั๊มจนเหมือนจนดูไม่ออก ไหนแท้ ไหนจริง เรื่องนี้แม้นแต่เซียนก็ตกม้าตายเพราะ ของปลอม เหมือนกันครับ รับจากวัดดีที่สุด เอาเถอะครับ อย่าเครียดไปเลย ออกจากวัดก็ถือว่าเป็นของแท้แล้วล่ะครับ ส่วนออกจากวัดไปก็เป็นแบบหนึ่ง อาจจะบอกแท้ไม่แท้ เป็นเรื่องของการค้า ไม่เกี่ยวกับวัดแล้วล่ะครับ หากได้รับจากมือหลวงปู่ เป็นของวัดก็ถือว่าผ่านแล้ว ของแท้แน่นอน ส่วนตราปั๊ม เดี๋ยวนี้ใครก็ปั๊มได้ครับ บางทีปั๊มจนเหมือนจนดูไม่ออก ไหนแท้ ไหนจริง เรื่องนี้แม้นแต่เซียนก็ตกม้าตายเพราะ ของปลอม เหมือนกันครับ รับจากวัดดีที่สุด
คนเดินดิน 1.46.7.99	ความคิดเห็นที่ 10 25/09/2011 , 19:10 Quote ขืนกังวลมากๆเข้า เดี๋ยวจะไม่ได้ใชัพระพุทธคุณผ้ายันต์ได้อย่างเต็มที่น่ะครับ ส่วนเรื่องตราประทับของวัดผมก็ว่ามันมีหลากหลายน่ะ อาจจะเป็นบางคนปั๊ม 1 ตรา อาตมาขอปั๊มอีก 1 ตรา เขียนมืออีก 3 ตรา ก็ว่ากันไปแล้วแต่วัด แล้วแต่คนออกเหมือนกันครับ ดูๆไปแล้วเรื่องตราประทับนี่ก็ใช่ว่าจะยึดติดเป็นโลโก้ที่ถูกต้องได้ เพราะอาจปรับเปลี่ยนได้ตามระบบของวัดเขาครับ ไม่น่ากังวลครับ เพียงให้รู้ว่าออกจากวัดสามง่ามก็พอแล้วครับ เป็นใช้ได้ ขืนกังวลมากๆเข้า เดี๋ยวจะไม่ได้ใชัพระพุทธคุณผ้ายันต์ได้อย่างเต็มที่น่ะครับ ส่วนเรื่องตราประทับของวัดผมก็ว่ามันมีหลากหลายน่ะ อาจจะเป็นบางคนปั๊ม 1 ตรา อาตมาขอปั๊มอีก 1 ตรา เขียนมืออีก 3 ตรา ก็ว่ากันไปแล้วแต่วัด แล้วแต่คนออกเหมือนกันครับ ดูๆไปแล้วเรื่องตราประทับนี่ก็ใช่ว่าจะยึดติดเป็นโลโก้ที่ถูกต้องได้ เพราะอาจปรับเปลี่ยนได้ตามระบบของวัดเขาครับ ไม่น่ากังวลครับ เพียงให้รู้ว่าออกจากวัดสามง่ามก็พอแล้วครับ เป็นใช้ได้